เฟิร์นฮาวายชื่อสามัญ Maile-Scented Fern
เฟิร์นฮาวายชื่อวิทยาศาสตร์ Phymatosorus grossus (Langsd. & Fisch.) Brownlie
ชื่อวงศ์ POLYPODIACEAE
ชื่ออื่น ๆ เฟินฮาวาย,The wart fern of Hawaii
เฟิร์นฮาวาย เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของเฟิร์น พบได้ในป่าฝน หรือป่าดิบชื้น ใบสีเขียวเป็นมัน ด้านหลังใบของต้นที่โตเต็มที่จะมีปุ่ม ๆ สีส้มหรือสีออกน้ำตาล นั่นคือสปอร์ของเฟิร์นฮาวาย ใช้ในการขยายพันธุ์ เฟิร์นฮาวายเลี้ยงดูง่าย โตเร็ว สามารถปลูกกลางแดดได้ แต่มีข้อแม้ว่าความชื้นที่วัสดุปลูกนั้นต้องชื้นอยู่ตลอดเวลา ปลูกในร่มก็ได้ ใบจะเขียวสด ถึงเขียวเข้ม เฟิร์นฮาวายต้นไม้ที่หลาย ๆ คนต้องการในสวนนั้น เป็นต้นไม้ที่ดูแลง่าย เหมาะกับคนทำงานนอกบ้านที่ไม่ค่อยมีดูแลมานั่งดูแลสวน ไม่ต้องหาเวลามากวาดใบไม้ในสวน ซึ่งหนึ่งในต้นไม้ที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้ดี เฟิร์นฮาวายจึงได้รับความนิยมนำมาปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับในสวนโดยปลูกเป็นกลุ่มไว้ตามริมน้ำ ริมทางเดิน หรือใต้ต้นไม้ หรือจะปลูกเป็นกลุ่มเดี่ยว ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน
ควรปลูกบริเวณใดของบ้าน
สามารถปลูกได้ทั้งในที่ร่มและกลางแดด แต่ระวังเรื่องน้ำและความชื้นต้องให้มากพอและสม่ำเสมอ การปลูกนิยมปลูกลงดินมากกว่าปลูกในกระถาง และควรปลูกเป็นกลุ่มหลายๆ ต้น เพื่อความสวยงาม
ลักษณะทั่วไป
- ลำต้น ของเฟิร์นฮาวายจะมีลักษณะเหมือนเหง้าอยู่ใต้ดิน ขึ้นเป็นกอ ใบแตกออกจากเหง้าตรงกลาง ลำต้นแตกออกไหลไปตามพื้นดิน หรือส่วนที่ต้นเกาะอยู่ ลำต้นจะมีลักษณะเลื้อยทอดยาว มีขนสีน้ำตาลปกคลุม
- ใบ มีลักษณะคล้ายพัด เมื่อใบของต้นเฟิร์นฮาวายแก่ จะมีการออกปุ่มสปอร์บริเวณหลังใบ มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล แดง เรียงตัวแบบขาของกิ้งกือ และปุ่มสปอร์นี้จะนูนออกมาบริเวณหน้าใบ ลักษณะใบของต้นเฟิร์นฮาวายเป็นใบเดี่ยว ใบประกอบเป็นแบบขนนก ใบเขียวสวย งอกออกมาจากก้านใบ เมื่อต้นเฟิร์นฮาวายโตเต็มที่จะมีรวดลายของใบที่ชัดเจนขึ้น จะเห็นลวดลายปุ่มกลม ๆ ขึ้นกระจายอยู่ทั่วไป
วิธีการปลูก
วิธีปลูกควรใช้วัสดุปลูกที่เป็นดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุจำนวนปริมาณที่สูง ซึ่งส่วนผสมที่ใช้มีทั้งหมดสามส่วน นั่นคือ ดินปลูก ปุ๋ยคอกและกาบมะพร้าวสับ อัตราส่วนละ 1 ส่วน เท่า ๆ กัน ผสมคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน ใช้นิ้วมือแหวกดินตรงกลางกระถางให้มีขนาดกว้างตามขนาดของกระถางเดิม แล้วกดวางกระถางเดิมเพื่อสร้างหลุมตามขนาดของต้นไม้ ค่อยๆ ดึงต้นเฟิร์นฮาวายออกจากกระถาง วางต้นเฟิร์นฮาวายลงในหลุมดิน เติมดินปลูกลงในกระถางให้เสมอแนวเขตราก เกลี่ยดินจนเต็มกระถาง นอกจากนี้ต้นเฟิร์นฮาวายยังสามารถปลูกลงดินหรือสามารถปลูกโดยใช้แค่กาบมะพร้าวสับเพียงอย่างเดียวก็ได้
วิธีการดูแล
ควรจัดวางต้นเฟิร์นฮาวายในบริเวณพื้นที่ที่ไม่ได้รับแสงแดดโดยตรง หากต้นเฟิร์นฮาวายได้รับแสงแดดโดยตรง ผิวใบของต้นเฟิร์นฮาวายจะไหม้ มีสีเหลือง และแห้งตาย ควรจัดวางในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดร่มรำไร หรือใช้ตาข่ายในการช่วยพรางแสงแดด เพื่อลดปริมาณแสงแดด รดน้ำต้นเฟิร์นฮาวายเพียงวันละหนึ่งครั้ง ในช่วงเช้าหรือในช่วงเย็น ควรระมัดระวังการกัดกินใบและลำต้นจากทาก ควรใช้กรรไกรตัดกิ่งตัดแต่งทรงพุ่มออกบางส่วน ส่วนการให้ปุ๋ยต้นเฟิร์นฮาวาย ผู้ปลูกเลี้ยงสามารถเติมปุ๋ยคอกโรยลงไปในกระถาง เพื่อเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุให้มีมากขึ้นเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตได้ดีมากยิ่งขึ้น
การขยายพันธุ์เฟิร์นฮาวาย
เฟิร์นฮาวายนิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ เพราะเป็นต้นไม้ที่โตเร็ว มีหน่อมาให้แยกเรื่อย ๆ สปอร์ที่เป็นปุ่มสีส้ม หรือสีน้ำตาลที่อยู่ด้านหลังใบก็สามารถนำไปเพาะพันธุ์ได้เช่นกัน เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการขยายพันธุ์จำนวนมาก วัสดุปลูกควรเป็นวัสดุที่มีการอุ้มน้ำได้ดี เช่นพวกกาบมะพร้าว ขุยมะพร้าว ดินร่วน จนถึงดินเหนียวก็สามารถปลูกได้ดี
- การแยกหน่อ มีขั้นตอนคือ ใช้มีดคม ๆ ตัดไหล หรือตัดต้นที่อยู่ใต้ดินให้ขาดออกจากกัน ถ้าเป็นต้นเลื้อยอยู่บนดิน ก็ตัดต้นให้ขาดออกโดยมีรากหรือมีใบมีต้นอ่อนติดมาด้วย เมื่อแยกหน่อออกมาแล้วต้องเก็บไว้ในที่มีความ ชื้นสูง แล้วรีบปลูกหรือชำต้นใหม่ทันที ถ้าทิ้งไว้นานน้ำจะระเหยออกมาทำให้ตายได้
- การใช้สปอร์ขยายพันธุ์ โดยมีขั้นตอนคือนำสปอร์มาเพาะคล้ายเพาะเมล็ดพันธุ์ไม้ชั้นสูง ส่วนมากเมื่อสปอร์แก่จะมีสีเหลืองอ่อน ๆ หรือสีน้ำตาลเข้ม โดยตัดใบส่วนที่มีสปอร์มาใส่ในถุงกระดาษที่แห้งปิดปากถุงกระดาษแขวนไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ให้สปอร์สุกแก่ร่วงหล่นลงในถุงกระดาษนั้น อาจใช้มือเคาะเบา ๆ เคาะถุงที่ใส่สปอร์เพื่อเขย่าให้สปอร์ที่สุกแก่ร่วงลงในถุงกระดาษนั้นเร็วขึ้น แล้วจึงนำสปอร์ที่ร่วงเป็นผงอยู่ในถุงกระดาษไปเพาะโดยหว่านลงใน media ที่มีส่วนผสมลงดินเพาะ โดยใช้ดินร่วนละเอียดผสมกับอิฐเผาป่นละเอียดเป็นดินเพาะ อาจใช้กระถางอิฐเผาก้นตื้นเป็นภาชนะเพาะเฟิร์นฮาวายก็ได้ โดยมีอิฐหักรองก้นกระถางให้ระบายน้ำได้ดีก่อน ใส่ดินผสมที่จะเพาะสปอร์ ดินร่วนนั้นอาจมีส่วนผสมของใบไม้ผุครึ่งต่อครึ่งก็ได้ เมื่อใส่ดินปลูกในกระถางเรียบร้อยแล้ว ก็ควรนำกระถางเพาะพร้อมทั้งดินเพาะไปอบให้ร้อน เพื่อฆ่าเชื้อราและเมล็ดพันธุ์พืชอื่น ๆ ที่ติดมาให้หมด หรืออาจจะใช้ดินคั่วเพาะก็ได้ หรือจะใช้ดินที่ผสมดิรแล้วนำไปอบไอน้ำนึ่งอย่างหนึ่งอย่างใด เป็นการฆ่าเชื้อ (Sterilize) ก่อน เมื่อฆ่าเชื้อโรค ต่าง ๆ ในแปลงเพาะแล้ว จึงฉีดน้ำเป็นฝอยที่ดินเพาะ แล้วจึงนำสปอร์ของเฟิร์นฮาวายไปหว่านลงในกระถางฉีดน้ำเป็นฝอยอีกครั้งหนึ่งให้ทั่ว แล้วใช้กระจกแก้วใสปิดปากกระถาง หรือจะใช้แผ่นพลาสติคใสปิดปากกระถางให้แน่น ตั้งกระถางเพาะไว้ในที่ร่มเย็น จะนำกระถางเพาะตั้งบนจานหล่อน้ำก็ได้ จะทำให้ดินเพาะมีความชื้นสูงขึ้น เมื่อสปอร์เริ่มงอก จึงนำออกมาปลูกในกระบะชำที่มีดินผสมใบไม้ผุอยู่ในดินชำ เมื่อโตดีจนมีใบ จึงนำมาแยกปลูกอีกทีหนึ่งในกระถางหรือปลูกลงดินในสวนตามที่ต้องการอีกครั้ง
ประโยชน์ของเฟิร์นฮาวาย
เนื่องจากใบของเฟิร์นฮาวายจะใหญ่ สีเขียวสด มีเส้นสายของใบที่สวยงาม น่าสนใจ เหมาะกับการนำไปจัดสวนน้ำ จัดสวน หรือปลูกริมทางเดินก็ได้ เฟิร์นฮาวายเป็นเฟินร์ที่ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย แนะนำว่าถ้าช่วงหน้าฝนละก็หามาปลูกไว้ที่บ้าน ใช้เวลาไม่นานเฟิร์นฮาวายก็จะกอใหญ่ ใบเขียวสวยงาม เพิ่มสีสันให้กับบ้านได้อย่างแน่นอน
ข้อดีของต้นเฟิร์นฮาวาย
- ดูแลน้อย เฟิร์นฮาวายเป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำเยอะ ๆ คือ ให้ที่กระถางหรือที่ปลูกต้นไม้มีความชื้นอยู่สม่ำเสมอ ส่วนเรื่องอื่น ๆไม่ต้องดูแลมากเลย ไม่ต้องใส่ปุ๋ยก็ยังสวยอยู่เสมอ
- สามารถปลูกกลางแดด หรือในที่ร่มก็ได้ เฟิร์นฮาวายสามารถปลูกได้ทั้งกลางแดด และในที่ร่ม แต่ถ้าจะปลูกกลางแดดจัด ๆ ก็ต้องดูเรื่องน้ำให้เพียงพอ เช่น หาถาดรองกระถาดขนาดใหญ่ หรือจะหาขวดน้ำมาตั้งให้น้ำค่อย ๆ ไหลลงไปในดินใกล้ ๆ เฟิร์นฮาวายก็ได้เช่นเดียวกัน
- ใบสวยตลอดปี เฟิร์นสามารถชมความงามได้จากใบ ทำให้เราไม่ต้องรอดูดอกไม้กันตามฤดูกาล
- ราคาถูก สำหรับผู้ที่อยากประหยัดงบในการจัดสวน ต้นไม้ชนิดนี้มีราคาไม่แพง ราคาเริ่มต้นเพียง 20 บาทเท่านั้น
- ใต้ใบก็ยังดูสวย มีเสน่ห์ ตามปกติแล้วจะมีสปอร์ที่ด้านใต้ใบ โดยต้นเฟิร์นฮาวายจะมีสปอร์ที่ดูแปลกตา
ข้อเสียของต้นเฟิร์นฮาวาย
- จัดสวนไม่ดีก็ไม่สวย หากจะปลูกเฟิร์นฮาวาย ต้องมีการวางแผน จัดสรรพื้นที่ และให้ความชุ่มชื่นกับดินอยู่เสมอ เพราะหากจัดวาง หรือจัดสรรไม่สวย ก็จะทำให้เฟิร์นฮาวายดูไม่มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาของผู้พบเห็น
- ไม่มีดอก เนื่องจากเฟิร์นฮาวายเป็นพืชไม่มีดอก จึงทำให้บางคนไม่ชอบนั่นเอง