ต้นเมล่อนญี่ปุ่น (Musk Melon) เป็นไม้ผลที่ให้รสชาติหอมหวาน เมล่อนญี่ปุ่นถูกจัดอยู่ในพืชตระกูลแตง หากดูเผิน ๆ อาจมีลักษณะคล้ายคลึงกับแคนตาลูป แต่มีความแตกต่างกันที่กลิ่น รสชาติ เนื้อสัมผัสและลวดลายบนผล โดยเมล่อนญี่ปุ่นนั้นจะมีความหอมหวาน รสชาติอร่อย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของผลไม้ชนิดนี้
ข้อมูลทั่วไปของต้นไม้
ชื่อทั่วไป: เมล่อนญี่ปุ่น
ชื่อภาษาอังกฤษ: Must Melon
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cucumis melo L. var. cantalpensis
ชื่อวงศ์: Cucurbitaceous
ความเป็นมาของต้นเมล่อนญี่ปุ่น
สำหรับต้นเมล่อนญี่ปุ่นนั้น หลาย ๆ คนอาจเชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น แต่จริง ๆ แล้วมันมีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาเหนือ เมล่อนญี่ปุ่นเป็นผลไม้ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานกันในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากรสชาติที่หอมหวาน มีความฉ่ำ เป็นผลไม้ที่ช่วยคลายร้อนและเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี ในประเทศไทยเราเองก็ได้นำเข้าเมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่นเพื่อมาปลูกและเพาะพันธุ์ในประเทศไทยในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพราะเมล่อนญี่ปุ่นนั้นต้องการการเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาการปลูก 90 วัน
เกร็ดความรู้ สำหรับคนญี่ปุ่นนั้นนิยมมอบเมล่อนญี่ปุ่นให้เป็นของขวัญและของฝากแก่เพื่อน ๆ ญาติ หรือคนรัก ในช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ เนื่องจากเป็นผลไม้ รสเลิศและเป็นผลไม้ที่มีรสชาติดี โดยเชื่อว่าเป็นการแสดงถึงความใส่ใจและการแสดงความห่วงใยจนกลายเป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันต่อมาของ ชาวญี่ปุ่น
ต้นเมล่อนญี่ปุ่น ควรปลูกบริเวณใด
การปลูกต้นเมล่อนญี่ปุ่นนั้นแนะนำให้ปลูกในบริเวณที่ถูกจัดสรรไว้โดยเฉพาะ เช่น ในโรงเรือน เพราะสามารถควบคุมปริมาณแสงได้ดีกว่า อีกทั้งยังสามารถดูแลได้ง่าย ทั้งในเรื่องของการให้น้ำ ให้ปุ๋ย และการป้องกันแมลงและศัตรูพืชอีกด้วย
ลักษณะของต้นเมล่อนญี่ปุ่น
ใบ
ใบของต้นเมล่อนญี่ปุ่นมีลักษณะเป็นรูปวงรี มีกลีบเล็กน้อยในแต่ละด้าน และใบมีขอบหยักชัดเจน เมื่อโตขึ้น ใบของต้นเมล่อนญี่ปุ่นจะห้อยเป็นตุ้มและดูเหมือนเป็นรูปหัวใจที่มีขอบเรียบ รูปร่างของใบอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับความหลากหลายของแต่ละต้น
ดอก
ดอกของต้นเมล่อนญี่ปุ่นนั้นมีสีเหลืองสดใส กลีบฐานรองดอกมีสีเขียว ดอกตัวผู้จะมีเกสรตัวผู้ซึ่งเป็นก้านเกสรที่ปกคลุมอยู่ตรงกลางดอก ส่วนดอกตัวเมียจะมีปุ่มเหนียว ๆ อยู่ด้านใน มีลักษณะพับเป็นวงกลมตรงกลางดอก
ผล
ลักษณะผลของเมล่อนญี่ปุ่นนั้นคล้ายคลึงกับผลของแคนตาลูป โดยบนเปลือกนั้นจะมีลวดลายที่ดูสวยงามชัดเจนดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ผลของเมล่อนญี่ปุ่นนั้นมีความพิเศษคือมีรสชาติที่หอมหวานอร่อย
สายพันธุ์ของต้นเมล่อนญี่ปุ่น
สายพันธุ์ของต้นเมล่อนญี่ปุ่นแท้ ๆ จะมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ ได้แก่ เพิร์ลเมล่อนเนื้อสีเขียว เพิร์ลเมล่อนเนื้อสีส้ม ร็อคกี้เมล่อนเนื้อสีส้ม และกาเลียเมล่อนเนื้อสีขาว
- เพิร์ลเมล่อนเนื้อสีเขียว มีเนื้อสัมผัสที่มีความชุ่มฉ่ำ หอมหวานแบบเย็น ๆ เมื่อรับประทานแล้วจะรู้สึกสดชื่น
- เพิร์ลเมล่อนเนื้อสีส้ม มีเนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำไม่ต่างกับเนื้อสีเขียว อีกทั้งยังให้รสชาติที่หอมหวานลงตัว
- ร็อคกี้เมล่อนเนื้อสีส้ม เป็นเมล่อนสายพันธุ์ที่มีกลิ่นหอมเมื่อเคี้ยว รสชาติมีความหวานกำลังพอดี
- กาเลียเมล่อนเนื้อสีขาว มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มเหมือนปุยหิมะ กลิ่นหอมเข้มข้น ยิ่งเคี้ยวกลิ่นยิ่งชัด
วิธีการปลูกและการดูแลต้นเมล่อนญี่ปุ่น
ในเว็บไซต์ harvesttotable ได้กล่าวถึงข้อแนะนำในการปลูกต้นเมล่อน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นต้นไม้ที่ต้องการการดูแลและเอาใส่พอสมควร เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีความไวต่อปริมาณน้ำและธาตุอาหารต่าง ๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อคุณภาพของผลเมล่อนเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากต้องการปลูกต้นเมล่อนเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี จึงอาจจำเป็นต้องจัดสรรสภาพแวดล้อมในการปลูกต้นเมล่อนให้เหมาะสม
แสง
ปริมาณแสงแดดที่เหมาะสมสำหรับการปลูกต้นเมล่อนนั้น แนะนำว่าไม่ควรปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดในระยะการอนุบาลต้นกล้าของต้นเมล่อน แต่เมื่อต้นกล้าเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ก็สามารถเริ่มรับแสงแดดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ได้ ทั้งนี้ หากต้นเมล่อนญี่ปุ่นได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้ลำต้นดูผอมบางและไม่แข็งแรงได้
น้ำ
เนื่องจากคุณภาพผลผลิตของต้นเมล่อนญี่ปุ่นนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยการให้น้ำและการได้รับธาตุอาหารต่าง ๆ การให้น้ำต้นเมล่อนญี่ปุ่นจึงนิยมใช้ระบบการให้น้ำแบบหยดที่บริเวณรากและโคนต้นโดยตรง เพราะมีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประหยัดน้ำ อีกทั้งยังสามารถผสมปุ๋ยต่าง ๆ ลงไปในน้ำได้
ดิน
ดินที่เหมาะสมกับการปลูกต้นเมล่อนญี่ปุ่นนั้น แนะนำให้ปลูกในดินร่วนหรือดินทราย เพราะเป็นดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี และไม่ควรปลูกต้นเมล่อนญี่ปุ่นในดินเหนียวหรือสภาพดินที่ไม่สามารถระบายน้ำได้ เนื่องจากอาจทำให้ระบบรากเน่า อีกทั้งยังทำให้เกิดการสะสมของโรค และอาจตกค้างในดินติดต่อไปยังฤดูกาลปลูกถัดไปได้
ปุ๋ย
การให้ปุ๋ยต้นเมล่อนที่มีประสิทธิภาพนั้นควรมีการวิเคราะห์คุณภาพของดินเพื่อตรวจหาสารอาหาร แร่ธาตุและตรวจสอบความอุดมสมบูรณ์ของดิน จากนั้นจึงจะสามารถกำหนดปริมาณสารอาหารที่จะเติมลงไปในกินได้ เพราะอย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นแล้วว่าคุณภาพผลผลิตของต้นเมล่อนญี่ปุ่นนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยการให้น้ำและสารอาหาร การให้ปุ๋ยต้นเมล่อนญี่ปุ่น สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้
- การให้ปุ๋ยเคมีทางดิน: นิยมให้ในขณะเตรียมดินปลูก และหลังจากการย้ายต้นกล้าลงดินในช่วงก่อนออกดอกและติดผล โดยปุ๋ยที่นิยมใช้ใส่ต้นเมล่อนญี่ปุ่นนั้นมักจะเป็นปุ๋ยสูตร 15-15-15 ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับปุ๋ยสูตร 0-0-60 ได้
- การให้ปุ๋ยเคมีทางน้ำ: เหมาะกับการใช้ร่วมกับการให้น้ำในระบบหยด โดยถือว่าเป็นวิธีการให้ปุ๋ยที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด โดยสารอาหารที่ใช้ ได้แก่ ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปแตสเซียม ในช่วงหลังของการติดผลอาจเพิ่มปริมาณโปแตสเซียมเล็กน้อยและลดความเข้มข้นของไนโตรเจนและปริมาณน้ำลง เพื่อเพิ่มความหวานให้แก่ผลเมล่อนญี่ปุ่น
การขยายพันธุ์ต้นเมล่อนญี่ปุ่น
การขยายพันธุ์ต้นเมล่อนญี่ปุ่นนั้นสามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ด โดยวิธีการเพาะเมล็ดเมล่อนญี่ปุ่นนั้นสามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ดในกระบะเพาะเมล็ดเสียก่อนหรืออาจนำเมล็ดไปแช่ในน้ำหรือน้ำอุ่นสักประมาณ 3-4 ชั่วโมง ห่อด้วยผ้าเปียกทิ้งไว้อีกเป็นเวลา 1 คืนก่อนนำไปเพาะต่อในวัสดุเพาะ วิธีนี้จะช่วยให้เม็ดสามารถงอกได้ดีและงอกได้ไวยิ่งขึ้น
สาระน่ารู้
เนื่องจากเมล่อนญี่ปุ่นนั้นมีความหอมหวานและรสชาติอร่อย จึงเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก คุณไกรศรี หุ้มสิน เกษตรกรผู้ปลูกเมล่อนญี่ปุ่นจังหวัดเลยมาอย่างยาวนานเป็นระยะเวลาถึง 2 ทศวรรษ ได้กล่าวว่า การปลูกเมล่อนญี่ปุ่นนั้น ถึงแม้ว่าจะลงทุนเยอะในช่วงแรก แต่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว อีกทั้งยังมีตลาดรองรับอย่างแน่นอน โดยทางคุณไกรศรี หุ้มสิน ได้นำเมล่อนไปขายในตลาดชุมชนในราคากิโลกรัมละ 100-150 บาท ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ประโยชน์และสรรพคุณของต้นเมล่อนญี่ปุ่น
เมล่อนญี่ปุ่นนอกจากจะมีกลิ่นหอมหวานรสชาติอร่อย ช่วยเติมความสดชื่นให้แก่ร่างกายแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย โดยเว็บไซต์ healthshots ได้กล่าวถึงประโยชน์ของเมล่อนญี่ปุ่นที่มีต่อร่างกาย ดังนี้
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
- อุดมได้วยกากใยอาหารจึงช่วยส่งเสริมให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง และอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล
- บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- ช่วยบำรุงสายตา
เมล่อนญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่คนญี่นิยมรับประทานกันในช่วงหน้าร้อน เพราะมอบรสชาติที่อร่อย หอมหวาน จึงช่วยคลายร้อนและคืนความสดชื่นให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี และด้วยความที่รสชาติและคุณภาพของผลผลิตขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น น้ำ และธาตุอาหาร การดูแลต้นเมล่อนญี่ปุ่นนั้นจึงการการเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ แต่เมล่อนญี่ปุ่นนั้นไม่ได้มีดีที่รสชาติเพียงอย่างเดียว เพราะเมล่อนญี่ปุ่นอุดมไปด้วยสารพัดประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้อย่างมหาศาลอีกด้วย
แหล่งอ้างอิง
Melons Quick Growing Tips, harvesttotable
benefits of muskmelon, healthshots