เบิร์ดออฟพาราไดซ์ด่าง (bird of paradise flower/plant) ไม้ดอกไม้ประดับ หรือจะเรียกให้ถูกตามแหล่งกำเนิดของเขาคือ ไม้ป่าจากแดนไกล เป็นดอกไม้ในอุดมคติความเชื่อของหลาย ๆ ชนเผ่า ในมุมโลกหนึ่ง ซึ่งก็ได้มีการนำเข้ามาปลูกในไทยมานานแล้ว และคนสมัยก่อนก็มีความเชื่อเกี่ยวกับไม้ดอกชนิดนี้ว่าจะสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับคนปลูก
เบิร์ดออฟพาราไดซ์ด่าง เป็นไม้ดอกไม้ประดับ ที่ยังมีคนไทยหลายคนทราบข้อมูลบางอย่างมาแบบผิด ๆ อยากเช่นคนคิดว่า ต้นเฮลิโคเนีย รอลินเลียน่า กับ ต้นเบิร์ดออฟพาราไดซ์ คือต้นเดียวกัน แต่จริง ๆแล้วมันต้นละต้นกันเลย ซึ่ง Kaset today ก็อยากจะมาแก้ไขความรู้ในส่วนนี้ใหม่สักหน่อย และในบทความนี้เรายังมีเนื้อหาดี ๆ เกี่ยว ลักษณะ สายพันธุ์ การปลูกการดูแล ที่จะทำให้ผู้อ่านทุกคน สนุกไปกับการปลูกมากขึ้น
ข้อมูลทั้วไปของเบิร์ดออฟพาราไดซ์ด่าง
ชื่อภาษาไทย : ปักษาสวรรค์ หรือ เบิร์ดออฟพาราไดส์
ชื่อภาษาอังกฤษ : bird of paradise flower/plant
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Strelitzia reginae Banks ex Dryander
ชื่อวงศ์ : Strelitziaceae
ความเชื่อ
ต้นเบิร์ดออฟพาราไดส์มีตำนานความเชื่อที่ว่า เป็นไม้ดอกไม้ประดับที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาใต้ โดยชนเผ่าที่อาศัยในป่ามีความเชื่อว่าดอกของพืชชนิดนี้เวลาผลิดอกออกมานั้น รูปทรงของดอกจะเหมือนนกบนสวรรค์ ที่มีสีสันสวยงาม เป็นนกที่อยู่ในความเชื่อของทวีปอเมริกาใต้
และยังเชื่ออีกว่า การออกดอกของต้นเบิร์ดออฟพาราไดส์ จะอวยพรให้คนที่ปลูกหรือผู้พบเห็น มีชีวิตที่สุขสงบ มีอายุไขยืนยาว ร่างกายแข็งแรง เราจึงจะเห็น ว่ามีอยากอย่างที่เอาดอกไม้ชนิดนี้นำไปทำเป็นสัญญาลักษณ์ เช่น อยู่ด้านหลังเหรียญ 50 เซ็นต์ เพราะรูปทรงดอกคล้ายกับนกกระเรียน หรือ ใช้เป็นสัญลักษณ์ดอกไม้ของเมืองลอสแองเจลิส
นอกจากนี้ ดอกของต้นเบิร์ดออฟพาราไดซ์จัดเป็นดอกไม้ประจำราศีธนู เพราะเป็นดอกไม้ที่แทนความสดใส ซึ่งตรงตามลักษณะของผู้เกิดในราศีธนูที่เป็นคนชอบความสนุกสนาน ชีวิตเต็มไปด้วยความพยายามมีความทะเยอทะยานและมองโลกในแง่ดี ตามนิสัยแบบนี้ คนราศีธนูจึงเหมาะกับการเป็นนักเดินทาง นักวาดการ์ตูน นักแสดงตลก นักการเมือง สัตวแพทย์ และนักบิน ดังนั้นหากชาวราศีธนูอยากจะมีความสดใสเบิกบานมากขึ้นก็นำต้นไม้ชนิดนี้ไว้กับตัว เพื่อเป็นการเสริมดวงอีกทาง
ลักษณะของเบิร์ดออฟพาราไดซ์
- ลำต้น
จะมีลำต้นหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน โดยลักษณะของลำต้นจะเป็นกอ มีความสูงประมาณ 2-5 ฟุต ส่วนรากจะเป็นระบบเดียวกับต้นข่าที่สามารถเก็บน้ำได้
- ใบ
เป็นลักษณะใบเดี่ยว รูปหอกขอบขนาน คล้ายกับใบกล้วย ปลายใบจะแหลมๆ ส่วนโคนออกมนถึงสอบ ขอบใบจะเรียบ ความกว้างของใบราว 10-15 เซนติเมตร ความยาว 30-100 เซนติเมตร ก้านใบจะยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตร โคนใบจะเป็นกาบหุ้มซ้อนเรียงสลับกัน ผิวใบจะคล้ายฉาบขี้ผึ้งบางๆ ใบมีความหนาเส้นใบเป็นแบบขนานกัน และใบมีความด่างซึ่งจะมีสีเขียวสลับเหลืองอ่อนกับขาว แต่จะไม่ออกสีขาวมากนัก
- ดอก
จะออกเป็นช่อจากโคนกาบใบ มีหลายดอกในช่อเดียวกัน รูปทรงของดอกเหมือนนกกำลังกางปีก แต่ละดอกจะมีกลีบเลี้ยงลักษณะรูปหอกอยู่ 3 กลีบ และกลีบดอกเป็นรูปหัวลูกศรอยู่ 2 กลีบ ปลายของกลีบจะติดกัน ที่ดอกจะมีเกสรเพศผู้กับเพศเมียอยู่ข้างใน ดอกที่มีความสมบูรณ์กับบานเต็มที่จะมีความยาวประมาณ 8-12 เซนติเมตร การออกดอกจะเริ่มเมื่อต้นมีอายุตั้งแต่ 3-6 ปี
การขยายพันธุ์
การขยายพันธุ์ สามารถทำได้โดยวิธี การเพาะเมล็ด และ การแยกหน่อหรือกอ แต่วิธีที่นิยมจะได้แก่ การแยกหน่อหรือกอ ซึ่งวิธีการปลูก คือ
- เตรียม ต้นเบิร์ดออฟพาราไดซ์ด่าง ที่ทำการแยกหน่อหรือกอแล้ว และมีอายุรากประมาณ 3 เดือน
- เตรียมดินปลูก โดยจะใช้ดินพีทมอสและดินดำ ผสมรวมกันในอัตราส่วน 1:1
- เตรียมกระถางสำหรับปลูกขนาด 6 นิ้ว แบบมีรูที่ก้นกระถาง หรือ รอบ ๆ กระถาง
- เตรียมขุยมะพร้าวแบบละเอียด
- เตรียมปุ๋ยสำหรับเร่งใบ
- ต่อไปเป็นขั้นตอนในการปลูกลงดิน โดยให้นำดินที่จัดเตรียมไว้ใส่ลงไปให้เกือบจะเต็มกระถาง แล้วก็แหวกดินตรงกึ่งกลาง นำต้นพันธุ์ที่เตรียมไว้ใส่ลงไป จากนั้นก็กลบดินและใส่ปุ๋ยเร่งใบโรยบนดิน ก่อนจะใส่ขุยมะพร้าวให้เต็มกระถาง
การปลูกและการดูแล
การปลูก
- แสงแดด
เป็นไม้ที่ชอบแดดมากและทนต่อความร้อนจากแสงแดดได้ถึง 42-43 องศาเซลเซียส ฉะนั้นจึงสามารถปลูกไว้กลางแจ้งได้แถมจะเป็นข้อดีอีกด้วย เพราะใบสามารถสังเคราะห์แสงได้เป็นอย่างดี
- น้ำ
การรดน้ำให้รดในเวลาเช้าและเย็น
- ดิน
สามารถปลูกได้เกือบทุกสภาพดิน แต่ดินที่ปลูกได้ดีคือ ดินที่มีความชื้นสูง หรือเก็บน้ำได้ดี หรือปลูกได้ในดินที่มีเนื้อแน่น แบบดินทางภาคเหนือก็ได้
- ปุ๋ย
สามารถให้ปุ๋ยสูตรเสมอ เม็ดสีเหลือง หรือ ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักทุก ๆ 1-2 เดือน ไม่ต้องเยอะมาก แต่ถ้าต้องการเร่งดอกก็สามารถใส่ปุ๋ยเริ่งดอกได้เหมือนกัน แต่โดยธรรมชาตินั้น ต้นเบิร์ดออฟพาราไดซ์ด่างสามารถออกดอกได้ตลอดปีถ้าได้รับ แสงและน้ำเพียงพอโดยไม่ต้องพึ่งปุ๋ย
การดูแล
ศัตรูที่น่าเป็นห่วงจะมีแค่ แมลงเต่าทอง ซึ่งมักจะมาแทะกินใบอ่อน
วิธีการป้องกัน ก็ให้ทำน้ำหมักชีวภาพ หรือใช้น้ำส้มควันไม้ผสมกับน้ำ ในอัตราส่วน น้ำส้มควันไม้ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วต้น โดยเน้นไปที่ใบอ่อน แล้วเมื่อดอกออกสามารถนำเปลือกไข่และเปลือกถั่วโรยรอบๆ ต้น เพื่อเป็นการเพิ่มแคลเซียมกับไนโตรเจนให้กับดิน ดูแลเพียงเท่านี้ต้นไม้ก็จะเจริญงอกงาม
ประโยชน์
ในด้านประโยชน์ของต้นไม้ชนิดนี้ก็เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าใช้เป็นไม้ประดับและไม้ตัดดอก ซึ่งใช้เป็นของขวัญหรือของกำนัลได้
ยิ่งไปกว่านั้น ต้นเบิร์ดออฟพาราไดซ์ด่าง ยังมีคุณประโยชน์ในเรื่องการฟอกอากาศอีกด้วย หากนำไปประดับไว้ในบ้านหรือในห้องนอนจะช่วยให้อากาศดีขึ้นไม่มากก็น้อย
เกร็ดความรู้ ! เบิร์ดออฟพาราไดซ์ กับ เฮลิโคเนีย รอลินเลียน่า Heliconia และ bird of paradise และ กล้วย ต่างก็เกี่ยวโยงกันในอาณาจักรพืชโดยอยู่ใน Phylum เดียวกัน, Class เดียวกัน และ Order เดียวกัน มาต่างกันตรงที่ระดับของ Family ทำให้มีลักษณะที่คล้ายกันค่อนข้างมากโดยที่ Heliconia อยู่ใน Family Heliconiaceae ส่วน Bird of paradise อยู่ใน Family Streliziaceae และ กล้วย อยู่ใน Family Musaceae
ไอเดียการนำเบิร์ดออฟพาราไดซ์ไปปลูก
การปลูกเบิร์ดออฟพาราไดซ์ คุณสามารถเอาไปประยุกต์เกือบได้ทุกแบบการจัดสวนเลย สามารถปลูกลงกระถาง แล้วนำไปว่างในอาคาร หรือ ในห้องได้ เพราะมีใบที่สวยงาม มีดอกสีที่สวยแปลกตา และยังนิยมเอาไปจัดสวนแบบบาหลี มินิมอล หรือนำเอาไปปลูกเป็นไม้รั้วก็ยิ่งดี
แหล่งอ้างอิง BIRD OF PARADISE PLANT CARE