ต้นตะกู ไม้เนื้อเบา มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ปลูกสร้างรายได้มหาศาล

ชื่อภาษาอังกฤษ

Bur-flower Tree

ชื่อวิทยาศาสตร์

Anthocephalus chinensis (Lamk.) A. Rich. ex Walp.

ความหมาย

ตะกู คือ ต้นไม้ชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ไม้ตะกู ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้เศรษฐกิจ เมื่อต้นโตเต็มที่นิยมตัดขายหรือนำไปแปรรูปต่างๆ เนื้อไม้มีความแข็งแรง ทนทาน อีกทั้งเนื้อไม้ยังมีสีสวยงาม

ความเชื่อ

ต้นตะกูเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง ที่นิยมนำมาแกะสลักเป็นรูปปั้นพระพุทธรูป หรือนำมาทำเป็นของขลังกราบไหว้ พกติดตัว ไม้ตะกูเชื่อว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์

ต้นตะกู

ตะกู คือ ต้นไม้ชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ไม้ตะกู ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้เศรษฐกิจ เมื่อต้นโตเต็มที่นิยมตัดขายหรือนำไปแปรรูปต่างๆ เนื้อไม้มีความแข็งแรง ทนทาน อีกทั้งเนื้อไม้ยังมีสีสวยงาม วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับต้นตะกูกันให้มากขึ้น ไปดูกันว่าต้นตะกู มีลักษณะอย่างไร สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง รวมถึงมีวิธีการปลูก การขยายพันธุ์ และการดูแลรักษาอย่างไร ถ้าอยากรู้แล้วตามไปชมกันเลย 

ต้นตะกุ
https://medthai.com

ข้อมูลทั่วไปของต้นตะกู

  • ชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ Anthocephalus chinensis (Lamk.) A. Rich. ex Walp.
  • ชื่อภาษาอังกฤษ คือ  Bur-flower Tree
  • ชื่อวงศ์ RUBIACEAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นตะกู

ต้น

ต้นตะกูเป็นไม้ขนาดใหญ่ โดยมีความสูงประมาณ 15-30 เมตร เรือนยอดเป็นทรงพุ่ม ลำต้นตรงเปลา เปลือกลำต้นมีสีเทาปนสีน้ำตาล เปลือกจะแตกออกเป็นร่องตามแนวยาว ส่วนเนื้อไม้จะมีสีเหลืองอ่อนอมสีเทา ไม่มีแก่น เนื้อมีความมันวาว เสี้ยนตรง และเนื้อค่อนข้างหยาบแต่สม่ำเสมอ กิ่งตั้งฉากกับลำต้น และลิดกิ่งเองตามธรรมชาติ เมื่อมีลมแรง พายุ กิ่งอาจหักง่าย

ต้นไม้ ทํา เฟอร์นิเจอร์
https://medthai.com

ต้นตะกูมีลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว รูปทรงรีหรือรูปไข่ ออกเป็นคู่ตรงกันข้าม ใบมีความกว้างประมาณ 5-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 12-24 เซนติเมตร โคนใบป้าน ส่วนปลายใบมนหรือเป็นติ่งแหลม เนื้อใบหนา หลังใบมีขนสากๆ สีของใบจะเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนท้องใบมีสีเขียวอ่อน เส้นแขนงใบมีประมาณ 7-14 คู่

ดอก

ดอกของต้นตะกูมีขนาดเล็ก ออกดอกเป็นช่อติดกันแน่น ดอกมีสีขาวปนสีเหลืองหรือสีส้ม กลิ่นดอกหอมอ่อนๆ ซึ่งจะออกดอกเป็นกระจุกหรืออาจเป็นช่อเดี่ยวที่บริเวณปลายกิ่ง แต่จะไม่เกิน 2 ช่อ โดยดอกจะออกในช่วงเดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน

 ผล

มีลักษณะเป็นผลเดี่ยว ผลมีทรงกลมอยู่บนช่อของดอก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของผลคือ 2.4-6 เซนติเมตร ผลมีสีเหลืองเข้ม ด้านในมีเมล็ดขนาดเล็กประมาณ 0.66-0.44 มิลลิเมตร หากต้องการเมล็ดจำนวน 1 กิโลกรัม อาจต้องใช้เมล็ดประมาณ 18-26 ล้านเมล็ดเลยทีเดียว

ต้นไม้โตเร็ว

ประโยชน์ของต้นตะกู

  • นำเนื้อไม้ไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ทุกชนิด เนื่องจากไม้ตะกูมีสีสวยงาม นั่งก็คือสีเหลือง หรือสีขาว จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของไม้ตะกู คือ เนื้อไม้เบา เมื่อเทียบกับไม้ประดู่ หรือไม้มะค่า อีกทั้งยังสามารถทนทานต่อปลวกหรือมอดไม่ให้กัดกินได้
  • เนื้อไม้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในงานก่อสร้าง เช่น ไม้คาน ตง ฝ้า ผนัง หรือแม้แต่เสาบ้าน ทั้งนี้ อาจต้องเลือกไม้ตะกูที่มีความแข็งแรง และควรมีอายุต้นไม่ต่ำกว่า 10 ปี  ขึ้นไป
  • นำเนื้อไม้ไปทำเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ต่างๆ ตามความเหมาะสม รวมทั้งการแกะสลักสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะอันทรงคุณค่า ไม้ตะกู คือ ทางเลือกใหม่ที่กำลังน่าจับตามองในอนาคตด้วยความแข็งแรง ทนทานของเนื้อไม้ ปัจจุบันนิยมปลูกเป็นสวนป่า เพื่อใช้สอยหรือปลูกเป็นไม้เศรษฐกิจในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย เป็นต้น
  • เนื้อไม้ตะกูสามารถนำไปแปรรูปใช้ทำเยื่อกระดาษ โดยสามารถใช้ได้เมื่อต้นตะกูมีอายุประมาณ 3 ปี เนื่องจากไม้ตะกูเป็นเนื้อไม้ชั้นดี ทำให้ได้เยื่อกระดาษที่มีความเหนียวและเป็นกระดาษที่มีคุณภาพสูง  การนำไม้ตะกูไปใช้ทำเยื่อกระดาษได้รับความนิยมในประเทศฟิลิปปินส์อย่างมาก
ปลูกต้นตะกู
https://www.nongbell.com

การปลูก การขยายพันธุ์ และการดูแลรักษาต้นตะกู

การปลูกหรือการขยายพันธุ์ต้นตะกู นิยมวิธีการเพาะเมล็ด เริ่มต้นด้วยการนำเมล็ดพันธุ์ไปแช่ในน้ำประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อช่วยส่งเสริมการงอกหรือการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น ลดอัตราการตาย ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเพาะเมล็ด คือ ช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม ดินที่ใช้ในการเพาะควรเป็นดินร่วนปนดินทราย โดยปกติแล้วเมล็ดจะงอกแทงราก หลังจากการเพาะประมาณ 10-14 วัน จากนั้นเมื่อต้นเจริญเติบโตได้ประมาณ 3 เดือน ให้นำลงถุงเพาะกล้า โดยถุงพลาสติกที่ใช้ในการเพาะควรมีขนาด 4 x 6 นิ้ว นำดินทรายมาผสมขี้เถ้าและแกลบในอัตราส่วน 1 :1 : 1 เมื่อต้นกล้ามีความสูงประมาณ 25-30 เซนติเมตรแล้ว จึงเหมาะแก่การย้ายนำไปปลูกลงในแปลงปลูก สาเหตุที่นิยมการขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมกว่าวิธีอื่นก็เพราะเมล็ดไม้ตะกูมีขนาดเล็กและมีจำนวนมากสามารถขยายพันธุ์ได้จำนวนมากและเป็นการลดต้นทุนการผลิตที่ดีเลยทีเดียว

การปลูกและระยะการปลูกที่เหมาะสมควรใช้ระยะปลูก 2 x 3 เมตร หรือ 4 x 4 เมตร ไม้ตะกูเป็นไม้ที่โตเร็ว และต้องการความชุ่มชื้นสูง ดังนั้น ในระยะปลูกแรกเริ่ม อาจใช้ต้นหญ้าปกคลุมหน้าดิน หรือฝางแห้ง เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น สำหรับวิธีการดูแลรักษา ในช่วงแรกเริ่มปลูกประมาณ 3-4 เดือน ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอสำหรับการใส่ปุ๋ยแนะนำให้ใส่ปุ๋ยปีละ 2 ครั้ง ช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม แนะนำให้ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15  หรือ 12-4-7 ในอัตรา 1 กระสอบต่อไร่

ต้นตะกู และความเชื่อ

ต้นตะกูเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง ที่นิยมนำมาแกะสลักเป็นรูปปั้นพระพุทธรูป หรือนำมาทำเป็นของขลังกราบไหว้ พกติดตัว ไม้ตะกูเชื่อว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากชาวไทยที่เคารพนับถือ หรือนิยมนำมาบูชาแล้วชาวอินเดียนิยมนำดอกตะกูไปใช้ในการบูชาเทพเจ้า นอกจากนั้นยังนิยมนำดอกตะกูไปเป็นส่วนผสมของน้ำหอมอีกด้วย

เนื้อไม้ ต้นตะกู
https://mgronline.com

ต้นตะกูในประเทศไทยของเรา ฟังดูแล้วหลายๆ คนอาจจะไม่เคยคุ้นหูมาก่อน ในความเป็นจริงแล้ว ต้นตะกูเป็นต้นไม้ที่ใกล้จะสูญพันธุ์จากป่าของประเทศไทย บางส่วนเกิดจากการถูกไฟป่าเผาทำลาย ในขณะที่บางส่วนถูกลักลอบตัดไม้ทำลายป่าหรือถูกบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ เพื่อนำมาใช้ในการแปรรูปทำเป็นสิ่งของเครื่องใช้ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งผิดกฎหมายของกรมป่าไม้ แต่หลังจากที่ประเทศไทยของเราได้มีการรณรงค์เรื่องการปลูกป่า และเข้มงวดเรื่องการลักลอบตัดไม้ทำลายป่ามากขึ้น ทำให้ในปัจจุบันต้นตระกูลกำลังเป็นที่รู้จักของคนไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าแนวโน้มอีก 5 ปีข้างหน้าประเทศไทยของเราจะมีป่าไม้ที่มีขนาดใหญ่และสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่โลก ลดปัญหาโลกร้อนได้

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นของต้นตะกู คือ เป็นพืชที่อุ้มน้ำสูง ทั้งราก กิ่งก้าน ใบ และลำต้น หากชาวเกษตรกรนำต้นตะกูไปปลูกในระบบวนเกษตรหรือปลูกไว้ตามหัวไร่ปลายนาก็เปรียบเหมือนการออมเงินไว้ในธนาคาร ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตไม้ตะกูจะสามารถสร้างรายได้เพื่อเลี้ยงชีพได้ดีเพราะเป็นอีกหนึ่งไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ปีละหลายหมื่นล้านเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ต้นตะกูเป็นไม้ที่โตเร็วเลี้ยงง่าย แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่บ้าง คือ ระยะเริ่มปลูกปีที่ 1 ถึงปีที่ 2 ควรหาวิธีป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย แกะ และแพะ มากัดกินยอดอ่อน อาจทำให้เกิดความเสียหาย ส่งผลให้มีการเจริญเติบโตที่ไม่สมบูรณ์ หรือเติบโตช้า ซึ่งอาจสร้างความเสียหายได้มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ทั้งหมดนี้ ก็คือ สาระน่ารู้และข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับต้นตะกู ต้นไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจและสามารถนำเนื้อไม้ไปแปรรูปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีปลูกง่าย ขยายพันธุ์ได้จำนวนมาก หากมีการดูแลที่ถูกต้องและถูกวิธีนั้น ต้นตะกูจะสามารถเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล แต่สำหรับใครที่ไม่ต้องการนำเมล็ดมาเพาะเพื่อปลูกเองให้ยุ่งยาก ก็สามารถหาซื้อพันธุ์ไม้หรือกล้าพันธุ์ต้นตะกูมาปลูก จากร้านจำหน่ายขายพันธุ์ไม้ทั่วไปหรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ก็สะดวกสบายไปอีกแบบ ทั้งนี้ก็ควรพิจารณาจากร้านจำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือ ส่วนราคาของต้นกล้าปัจจุบันมีการจำหน่ายอยู่ที่ราคาประมาณ 8 -15 บาท โดยต้นกล้าจะมีอายุประมาณ 3-5 เดือน

ที่มา

https://forprod.forest.go.th

อยากให้มีเนื้อหาเรื่องอะไรเพิ่มเติม หรือมีความคิดเห็นอย่างไร เชิญคอมเม้นท์ไว้ได้เลยครับ