ไข่มุกอันดามัน (Malaysian orchid) เป็นไม้พุ่มเนื้ออ่อนเติบโตได้ตามซอกหิน อาศัยอยู่กับต้นไม้ใหญ่หรือนำมาปลูกลงดินที่มีความสูงได้ประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1.2 เมตร เป็นไม้ที่อิงอาศัยกับต้นไม้ชนิดอื่นได้ (Hemi-epiphytic plants) มีอายุยืนได้หลายปีและมีดอกจำนวนมาก ตอนผลกลมจะมีสีชมพูสวยเหมือนกับเม็ดไข่มุก จึงเป็นที่มาของชื่อไม้ชนิดนี้ โดยในปัจจุบันไม้ดอกชนิดนี้นับว่ากำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่าต้นไข่มุกอันดามันมีลักษณะอย่างไรและมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ต้องมาติดตามเนื้อหาที่เกษตรทูเดย์คัดสรรมาฝากกัน
ข้อมูลทั่วไปของต้นไข่มุกอันดามัน
ชื่อไทย: ไข่มุกอันดามัน
ชื่อสามัญ: Malaysian orchid
ชื่อวิทยาศาสตร์: Medinilla Myriantha
ชื่อวงศ์: Melastomaceae
ความเป็นมาของต้นไม้
ไข่มุกอันดามันเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนชื้นพบได้ตามพื้นที่ของประเทศมาเลเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งจะไม่ใช่พันธ์ุไม้ที่พบในประเทศไทยตั้งแต่แรก ด้วยความสวยงามของดอกที่ออกดอกตลอดทั้งปีและมีสีสันสวยงามทำให้มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศที่เหมาะสำหรับปลูกไม้ชนิดนี้ นิยมนำปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งสวนในพื้นที่ที่ร่ม ไม่โดดแดดจัด หรือตามสวนน้ำตกให้ความรู้สึกสดชื่น
เกร็ดความรู้
ไข่มุกอันดามัน ถูกจัดอยู่ในวงศ์ของโคลงเคลง (Melastomaceae) เป็นได้ทั้งไม้พุ่ม ไม้ยืนต้น ไม้ล้มลุกหรือไม้เลื้อย ใบเดี่ยวติดตรงข้าม กลีบดอกชัด และดอกสมบูรณ์เพศ สำหรับสกุล Medinilla คือสกุลเคลงแดง เป็นไม้พุ่มอิงอาศัยทั่วโลกสามารถพบได้ประมาณ 150 ชนิด ส่วนในประเทศไทยถูกค้นพบประมาณ 8 – 9 ชนิด
ควรปลูกบริเวณใดของบ้าน
ส่วนใหญ่จะนิยมนำมาเป็นไม้ประดับปลูกในกระถางหรือตกแต่งสวน ถ้าปลูกในกระถางสามารถนำไปวางไว้ส่วนใดของบ้านหรืออาคารได้ แต่จะต้องไม่ให้โดนแสงแดดจัด ๆ เพราะจะส่งผลต่อต้นและใบทำให้ใบเหี่ยว ไหม้ได้ ถ้าอยู่คอนโด อพาร์ตเมนต์ก็สามารถปลูกใส่กระถางแบบห้อยได้ และปลูกลงดินต้องหาที่ร่ม โดนแดดรำไรหรือปลูกร่วมกับต้นไม้ใหญ่ให้แสงลอดผ่านเข้ามา ต้นไข่มุกอันดามันสามารถเจริญเติบโตร่วมกับต้นไม้ใหญ่เพราะเป็นอิงอาศัยกับต้นอื่น
ลักษณะของไข่มุกอันดามัน
ลำต้น
ลำต้นกลมกระบอกมีสีน้ำตาลอมเทาหรือขาว ส่วนกิ่งอ่อนจะมีสีเขียว เป็นทรงพุ่มแบบแผ่กว้างมีความสูงได้ประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1.2 เมตร ความกว้างทรวพุ่มได้ประมาณ 80 เซนติเมตรถึง 1 เมตร เนื้อไม้จะมีความอ่อนมีอายุยืนได้หลายปี
ใบ
ลักษณะใบเลี้ยงแบบคู่ตรงข้ามแต่จะไม่เหมือนใบเลี้ยงคู่ทั่วไป เส้นใบจะมีร่องสีเขียวอ่อนจากโคนไปจนขอบใบที่อยู่ปลายใบ เส้นใบคู่ขนานกันทั้งสองฝั่ง ปลายใบแหลม เนื้อใบค่อนข้างหนาแต่มีความเปราะ เวลาตัดแต่งใบต้องระวังให้มากเพราะจะทำให้ใบแตก ขาดได้
ดอก
ออกดอกตลอดทั้งปี เป็นช่อดอกรวมช่วงดอกตูมจะมีลักษณะกลม สีชมพู คล้ายกับเม็ดไข่มุกให้สีสันสวยงาม จึงเป็นที่มาของชื่อไม้ชนิดนี้ เวลาดอกบานก็จะค่อย ๆ บานตั้งแต่ด้านล่างไล่ขึ้นมา
ผล
ติดผลให้เมล็ดสีดำที่สามารถนำมาเพาะพันธุ์ต่อได้
วิธีการปลูกและการดูแล
แสง
ขอแนะนำว่าไม่ควรให้ต้นไข่มุกอันดามันโดนแสงแดดจัดเด็ดขาด เพราะจะทำให้ใบไหม้ แห้งเหี่ยวและตายลง ต้องให้โดนแสงอ่อนในตอนเช้าไม่เกิน 9 โมงเช้า หรือช่วงเย็นตั้ง 4 -5 โมงเป็นต้นไป หรือปลูกร่วมกับต้นไม้ใหญ่ที่มีแสงรำไรลอดผ่าน
น้ำ
รดน้ำวันละ 1 ครั้งต่อวัน หรือสังเกตจากความชื้นของหน้าดิน ถ้าเริ่มแห้งก็รดได้เลย แต่ห้ามให้ดินแฉะหรือนำท่วมขัง เพราะจะส่งผลต่อรากทำให้รากเน่าและตายได้
ดิน
ผสมดินปลูก 1 ส่วน กับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก และใส่หินภูเขาไฟลงไปเพื่อช่วยในการระบายน้ำ และจะต้องเป็นดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี การผสมปุ๋ยไปในดินปลูกด้วยจะช่วยให้ดินมีอินทรียวัตถุสูงเป็นธาตุอาหารสำหรับบำรุงต้น
ปุ๋ย
ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์ที่มีอินทรียวัตถุบำรุงได้ทุกเดือน เพื่อส่งเสริมการระบายน้ำและถ่ายเทอากาศให้กับรากและลำต้น
การดูแลรักษา
-
- ตัดแต่งกิ่งก้านและกิ่งดอก เพื่อให้เกิดการงอกใหม่และออกดอกเร็วขึ้น
-
- ถ้าใบสลดลงให้ตรวจตรงผิวดินว่าดินมีความชื้นมากเกินไปหรือไม่ ถ้าปล่อยไว้นานจะทำให้รากเน่าและต้นตายลงในที่สุด
-
- การรดน้ำจะต้องรดให้พอชื้นเท่านั้น ไม่ชุ่มเกินไป ปลูกตรงที่น้ำขังหรือโดนแดดจัดก็จะทำให้เกิดใบไหม้ เหี่ยวและตายลง
การขยายพันธุ์
การขยายพันธ์ุทำได้ 2 วิธี ได้แก่ เพาะเมล็ดและการปักชำ ซึ่งจะนิยมการปักชำมากกว่า เพราะใช้เวลาน้อยกว่าเพาะเมล็ด ทำได้ดังนี้
-
- นำขี้เลื่อย กากมะพร้าว หรือวัสดุที่สามารถอุ้มน้ำได้ดีและนานมาแช่น้ำ
-
- นำขี้เลื่อยที่แช่น้ำมาใส่ภาชนะสำหรับปักชำอย่าง ลังโฟมที่มีการเจาะรูหรือมีช่องระบายน้ำระบายอากาศได้
-
- ตัดกิ่งของไข่มุกอันดามันแนวเฉียงหน่อย โดยจะต้องเหลือข้อไว้ให้รากงอก
-
- ตัดเสร็จแล้วนำกิ่งมาปักลงในภาชนะได้เลย
-
- จากนั้นทิ้งไว้และสังเกตประมาณ 30 วันหรือจนกว่าจะเห็นรากงอกขึ้นมาจึงนำไปเพาะลงกระถางต่อไป
-
- ข้อควรระวัง ห้ามตัดกิ่งที่อ่อนเกินไป เพราะจะทำให้กิ่งเน่าและรากไม่งอก
สาระน่ารู้
หลายคนมักจะเกิดความสับสนระหว่างต้นไข่มุกอันดามันกับต้นพวงไข่มุก สองต้นนี้มีชื่อที่ใกล้เคียงกันแต่ไม่ใช่ต้นเดียวกัน ต้นพวงไข่มุก (Sambucus simpsonii Rehder.) จัดอยู่ในวงศ์ Caprifoliacfaf เป็นไม้พุ่มเตี้ยสูงได้ประมาณ 2 – 4 เมตร แตกกิ่งเป็นจำนวนมาก เป็นพื้นท้องถิ่นทางทวีปอเมริกาเหนือ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกรูปไข่ ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก ออกดอกเป็นช่อมีสีขาว ผลอ่อนมีสีเขียวเมื่อสุกจะมีสีม่วงเข้ม มีสรรพคุณทางยาและอาหาร จากลักษณะดังกล่าวสามารถแยกได้ง่าย ๆ จากดอกหรือผลของต้น เพื่อกันความผิดพลาดในระหว่างที่เราไปเลือกซื้อได้
ประโยชน์ของต้นไข่มุกอันดามัน
-
- ต้นไข่มุกอันดามันเป็นไม้ที่มีทรงต้น ดอก และทรงพุ่มสวย จึงนิยมนำมาเป็นไม้กระถางประดับและสร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่สนใจปลูกเป็นอาชีพ
-
- ใช้เป็นไม้ตกแต่งสวนในที่ร่ม สวนน้ำตก เพิ่มความสวยงามและความสดชื่น
เรียกได้ว่าต้นไข่มุกอันดามันถือเป็นไม้อีกชนิดที่มีเสน่ห์ น่าดึงดูดใจ สำหรับผู้ปลูกหรือผู้ที่กำลังมองหาพันธุ์ไม้ใหม่ ๆ ให้กับสวนของตัวเอง โดยมีดอกที่มีสีชมพูสดใส เบ่งบานได้ตลอดทั้งปี ดูแลง่ายและเข้ากับสภาพอากาศในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี สามารถปลูกตรงไหนของอาคารเรือนที่โดนแดดไม่จัด ประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงาม สบายตาและเพิ่มสีสันให้พื้นที่นั้น อีกทั้งยังสร้างรายได้สร้างอาชีพได้อีกทางหนึ่งไม่แพ้ไม้ชนิดอื่น
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
Medinilla Magnifica Care plant – How to Grow a Rose Grape Chandelier Plant่