เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินคำกล่าว มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก กันมาบ้าง มันเป็นประโยคที่หมายความถึง การพูดจาตลบตะแลงไปมาจนจับคำไม่ได้หรือหมายถึงคนที่พูดจากลับกลอก แต่ในที่นี้เรามิได้จะพูดเกี่ยวกับคนประเภทนั้น เราเพียงเกริ่นพาดพิงถึงคำๆ หนี่งที่ต้องการจักนำเสนอ ซึ่งก็คือ มะกอกฝรั่ง นั่นเอง…ตามไปดูกันเถิดว่าสาระของสิ่งนี้จะมีอันใดบ้าง
มะกอกฝรั่ง เป็นพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเซียใต้และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ ‘Spondias dulcis Parkinson’
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ‘Evia dulcis (Parkinson) Comm. ex Blume, Poupartia dulcis (Parkinson) Blume และ Spondias cytherea Sonn.’
ชื่อสามัญ ว่า ‘Jew’s plum, Otatheite apple และ Golden apple’
ชื่อท้องถิ่น เรียก ‘มะกอกดง, มะกอกเทศ และ มะกอกหวาน (ภาคกลาง)’ และถูกจัดอยู่ในวงศ์ ‘ANACARDIACEAE’ ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับมะม่วง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะกอกฝรั่ง
ต้น เป็นประเภทไม้ยืนต้นที่มีความสูงราวๆ 7-12 เมตร โดยเปลือกของต้นจะเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาลปนแดง
ใบ มีลักษณะใบประกอบแบบขนนก โดยใบย่อยจะเป็นรูปไข่ที่เรียวแหลม ปลายใบกับโคนใบก็จะแหลม ขอบใบหยักนิดๆ และก้านใบมีความยาว
ดอก การออกดอกจะออกแบบพานิเคิล คือ ช่อดอกจะแตกออกจากช่อดอกใหญ่ แล้วก็จะออกดอกตามปลายยอด ซึ่งดอกจะเป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศที่มีดอกย่อยเป็นสีขาว กลีบดอกมีจำนวน 5 กลีบ และฐานรองดอกเป็นสีเหลือง
ผล มีลักษณะรูปไข่หรือรูปกระสวย โดยจะมียางคล้ายๆ ไรไข่ปลา เมื่อผลยังอ่อนจะมีสีเขียวเข้ม พอผลแก่จะเป็นสีเขียวอมเหลือง หากผลสุกก็เปลี่ยนเป็นสีส้ม ส่วนของเนื้อในจะออกสีขาวปนเขียวมีรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ และกรอบอร่อย ข้างในผลจะมีเมล็ด 1 เมล็ด เป็นรูปทรงกลมรีและมีเปลือกแข็งหุ้มเมล็ดกับมีขนแข็งๆ อยู่ตามเปลือกหุ้มเมล็ดด้วย
การขยายพันธุ์ มะกอกฝรั่ง
สามารถทำได้ 3 วิธี คือ (1) การเพาะเมล็ด (2) การตอนกิ่ง (3) การปักชำ ทั้งนี้สามารถเลือกขยายพันธุ์ได้ตามความถนัดและสะดวก
สำหรับการปลูกและการดูแลมีคำแนะนำ ดังต่อไปนี้
- สามารถปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิด แต่จะชอบดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี
- ให้ขุดหลุมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร และ ลึก 40 เซนติเมตร โดยรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- ให้นำกล้าพันธุ์ลงปลูก โดยปลูกในลักษณะตั้งตรง
- นำหน้าดินหรือดินดีกลบให้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม พร้อมทั้งใส่ปุ๋ยคอก
- ฉีดน้ำหมักมูลสุกรบำรุงต้น เดือนละ 1-2 ครั้ง แล้วเมื่อต้นติดผลก็ให้หยุดฉีดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ผลร่วง
- การปลูกควรปลูกกลางแจ้ง เนื่องจากเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน
- การให้น้ำ ควรให้ในระดับปานกลางและระวังไม่ให้มีน้ำท่วมขัง
- ฤดูฝนเป็นฤดูที่เหมาะแก่การเริ่มปลูก
(หมายเหตุ : มะกอกฝรั่ง เป็นต้นพืชที่ค่อนข้างจะแข็งแรงจึงไม่ค่อยพบปัญหาเรื่องแมลงและศัตรูพืช ในการปลูกจะ
เน้นการดูแลในช่วงปีแรก โดยให้หมั่นรดน้ำและกำจัดวัชพืช รวมถึงถอนหญ้าไม่ให้ปกคลุม เพราะจะทำให้ต้นมะกอกเติบโตช้า)
ด้านคุณประโยชน์ มะกอกฝรั่ง
จัดเป็นต้นพืชที่ส่วนของผลประกอบไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี2 วิตามินบี 3 ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส โซเดียม เบต้าแคโรทีน รวมถึงมีเส้นใย ให้พลังงานและไขมันด้วย อีกทั้งมีสรรพคุณทางยามากมาย อาทิ ช่วยลดไขมันในเลือด, ช่วยลดน้ำตาลในเลือด, ช่วยระงับกลิ่นปาก, ช่วยลดอาการเจ็บคอและทำให้ชุ่มคอ, ช่วยแก้ไอ, ช่วยขับเสมหะ, ช่วยแก้ไข้และแก้หวัด, เป็นยาระบายอ่อนๆ, ช่วยขับปัสสาวะ, ช่วยบำรุงกระดูก, ช่วยบำรุงฟัน, ช่วยบำรุงประสาท, ช่วยเจริญอาหาร, แก้อาการหอบ, แก้ธาตุพิการ, แก้ร้อนใน และ ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้น ผลสามารถใช้รับประทานเป็นผลไม้จิ้มกับพริกเกลือ บางทีก็ใช้ปรุงอาหาร หรือนำน้ำที่คั้นจากผลไปทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรได้
นอกเหนือจากที่กล่าวไป มะกอกฝรั่ง ยังมีคุณประโยชน์ทางด้านป้องกันการพังทลายของคันดินและการประดับตกแต่งอีกด้วย เนื่องจากเป็นไม้ยืนต้นที่สามารถจัดและปรับให้มีความสูงได้ตามต้องการจึงถูกนำไปใช้เป็นไม้ประดับสำหรับตกแต่งสวน ไม่ว่าจะ สวนภายในบริเวณบ้านเรือน สวนสาธารณะ สวนตามอาคารสถานที่ต่างๆ หรือริมคลองและริมทางเดิน ทั้งนี้ก็สามารถนำไปประยุกต์ให้เข้ากับสไตล์การจัดสวนได้ง่ายขึ้น เป็นต้นว่า สวนสไตล์ไทย, สวนสไตล์อังกฤษ, สวนสไตล์ทรอปิคอล และ สวนสไตล์โมเดิร์น
ทั้งนี้ในเรื่องความเชื่อของการปลูก มะกอกฝรั่ง ซึ่งเป็นต้นพืชที่มีผลโดดเด่น ก็มีข้อแนะนำว่าควรจะปลูกในตอนเช้าของวันศุกร์ เพื่อให้ผลมีความดกดื่นและต้นเจริญงอกงามดี
ต่างๆ นานาสาระข้างต้นล้วนเป็นข้อดีที่ดีจริงๆ ของพรรณไม้ชนิดนี้อันจะทำให้คุณๆ ชื่นชอบได้ไม่ยากเลย หากชื่นชอบหรือชื่นชมแล้ว ก็สามารถไปเสาะหาได้ตามตลาดขายต้นไม้ทั่วไปซึ่งมีทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังแถมยังสามารถนำผลผลิตไปขายเป็นรายได้เสริมที่ดีไม่น้อยเลยด้วยนะ