ควาย วิธีการเลี้ยงและช่องทางการสร้างรายได้ให้กำไรงาม

ควาย หรือที่รู้จักกันในภาษาทางการว่า กระบือ เป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับสังคมเกษตรกรรมของไทยมายาวนานจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากสภาพอากาศและภูมิประเทศของไทยเหมาะกับการเลี้ยงควายมาก ชาวนาไทยจึงนำควายมาใช้ในการไถพรวนที่นาหรือใช้เก็บเกี่ยวผลผลิต จนเรียกได้ว่าควายได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเกษตรกรรมไปแล้ว อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีวัฒนธรรมไทยที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น จนเริ่มมีบทบาทมากขึ้นอย่างการนำเนื้อมาเป็นอาหาร การเลี้ยงเพื่อเอามูลสัตว์ไปขาย รวมไปถึงการเลี้ยงควายเพื่อศึกษาและปรับปรุงสายพันธุ์

แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อสังคมมีความเปลี่ยนแปลงไปชาวนาก็มักจะกันมาใช้งานรถไถแทนควาย เพราะได้ความสะดวดสบายและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้รวดเร็วกว่า จึงไม่แปลกที่ในปัจจุบันจากผลสำรวจจะพบว่าประเทศไทยมีควายหลงเหลืออยู่เพียงแค่ 700,000 ตัวเท่านั้นและเป็นวิกฤติสำคัญที่ต้องหาทางอนุรักษ์ไว้ ทำให้มีหน่วยงานหลายภาคส่วนได้พยายามจัดหาวิธีอนุรักษ์ควายเพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของควายไทยให้แก่เกษตรกรและคนไทยทั่วไปทั้งในแง่สังคมและเศรษฐกิจ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการเลี้ยงควายทุกวันนี้สามารถสร้างรายได้มหาศาลได้โดยไม่จำเป็นต้องเลี้ยงไว้ใช้แรงงานเท่านั้น

ควาย

เมื่อไม่นานมานี้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กล่าวถึงปัญหาของภาคเกษตรที่ต้องเผชิญกับภัยแล้ง ผลผลิตเสียหาย ทำให้ทางหน่วยงานต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้เกษตรกรมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ซึ่งการหันมาพึ่งการทำปศุสัตว์แทนก็ถือว่าเป็นการส่งเสริมเกษตรกรให้สร้างรายได้อีกทาง เพราะใช้การลงทุนที่ค่อนข้างน้อยแต่สามารถใช้งานควายได้นาน โดยทางรัฐมนตรีได้ยกวิธีเลี้ยงควายเพื่อหารายได้ตามแบบศิริฟาร์ม ซึ่งได้มีการเลี้ยงแม่พันธุ์ควายไว้จำนวน 160 ตัวแต่มีพ่อพันธุ์เพียง 2 ตัวก็สามารถผลิตลูกได้ถึง 58 ตัว อีกทั้งทางฟาร์มก็ได้มีการส่งลูกควายออกจำหน่ายปีละ 50 – 80 ตัว โดยจะมีราคาขั้นต่ำสูงถึงตัวละ 60,000 บาทและตลาดที่รับซื้อนั้นจะเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์เพื่อนำไปปรับปรุงสายพันธุ์ควายต่อไป นอกจากนี้ทางรัฐบาลก็ยังมีการส่งเสริมให้แปรรูปผลิตภัณฑ์จากควายเพื่อการส่งออกด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้นอกจากข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับควายแล้ว เรายังอยากจะมาแนะนำช่องทางที่สามารถหารายได้จากการเลี้ยงควายเพ่ื่อเป็นตัวช่วยให้กับเกษตรกร เดี๋ยวมาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับควาย

ชื่อภาษาไทย: ควายหรือกระบือ

ชื่อภาษาอังกฤษ: Buffalo

ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Bubalus bubalis

ตระกูลสัตว์: Bovidae

ควาย

ลักษณะโดยทั่วไปของควาย

ควาย เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเท้าเป็นกีบ ขนาดตัวมักใกล้เคียงกับวัวเมื่อโตเต็มที่แล้ว ควายตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย ผิวของควายจะมีสีเทาไปจนถึงสีดำ มีเขาเป็นลักษณะเด่น โดยปลายเขาจะมีความโค้งคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยว

ลักษณะควายไทย

ควายไทยมีลักษณะตัวกำยำล่ำสันและมีน้ำหนักมาก ขนาดลำตัวค่อนข้างใหญ่และลึก หน้าอกกว้างอวบแข็งแรง คอใหญ่ หัวค่อนข้างยาวแต่หน้าผากแคบ บางตัวจะมีเขาสั้นกุด แต่บางตัวจะมีเขาโค้งแอ่นเข้าหากัน หางของควายไทยจะยาวไปถึงข้อเข่าหลัง พู่ที่บริเวณหางจะไม่ใหญ่มากนัก กีบเท้าจะชิดกันและมีขนาดใหญ่ ส่วนผิวหนังจะเป็นสีเทาแก่ไปจนถึงสีดำ และมีขนบาง ๆ ปกคลุมทั่วร่างกาย

ลักษณะควายงาม

สำหรับควายงามจะต้องมีรูปร่างลักษณะที่ใหญ่สมส่วนกลมกลืนกัน อีกทั้งความลึก หนา ยาวของร่างกายควรสัมพันธ์กับส่วนสูง ขนเรียบ ละเอียด ผิวเป็นมัน กล้ามเนื้อเต็ม ดูสุขภาพดี และควรยืนสง่า เดินคล่องแคล่ว นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ควายงามยังควรเป็นควายที่อารมณ์ดี ไม่ดุร้าย และปราดเปรียวด้วย

ลักษณะควายที่ไม่นิยมเลี้ยง

ส่วนควายที่ไม่นิยมเลี้ยง คือ ควายที่มีลักษณะไม่สวยงามและอาจเสี่ยงต่อการมีความผิดปกติ ซึ่งอาจสังเกตได้จากร่างกายที่ดูไม่สมส่วนกัน อาจดูผอมหรืออ้วนจนเกินไป จมูกของควายที่ไม่นิยมเลี้ยงมักจะดูแอ่น แห้ง และบาน บริเวณตาจะค่อนข้างเล็กและเบ้าตาไม่ลึก เขามีขนาดใหญ่แต่สั้นไม่สมส่วน รวมไปถึงบริเวณขาที่ดูเกถ่างและยืนไม่ตรง เป็นต้น

การจำแนกประเภทและสายพันธ์ควาย 

การจำแนกควายไทยนั้นสามารถจำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ ควายปลัก ควายแม่น้ำ และควายลูกผสม โดยควายแต่ละประเภทมีความโดดเด่นและมีจุดสังเกตได้ ดังนี้

ควายปลัก (Swamp buffalo) 

ควายปลักจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปตามถิ่นที่อยู่หรือบริเวณที่พบ โดยกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กล่าวว่าควายปลัก เป็นควายที่มีถิ่นฐานมาจากทวีปเอเชีย เช่น พม่า ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว กัมพูชา เป็นต้น ในสมัยก่อนมักถูกเลี้ยงไว้ใช้เป็นแรงงานในการไถนา บรรทุกสิ่งของ และใช้งานในการลากจูงต่าง ๆ เมื่อควายอายุมากขึ้นก็จะถูกส่งเข้าโรงเชือดเพื่อใช้เนื้อเป็นอาหาร

ในประเทศไทย ควายปลัก คือ ควายพื้นเมืองของบ้านเรา ที่ถูกเรียกว่าคลายปลัก เพราะมีพฤติกรรมชอบนอนแช่ปลักและลงเล่นน้ำเมื่ออากาศร้อน ควายปลักมีรูปร่างล่ำสัน ลำตัวลึกหนา หัวยาวแคบ เขามีลักษณะแบนโค้งไปด้านหลัง และมีผิวหนังสีเทาเข้มไปจนถึงสีดำ

ควายแม่น้ำ (River buffalo)

ควายแม่น้ำ เป็นควายที่พบได้ตามประเทศอินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ อียิปต์ หรือตามยุโรปตอนใต้หรือตะวันออก ควายประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่ รูปร่างแข็งแรง ผิวหนังมีสีดำ หัวสั้น และมีเขาสั้น บิดงอ 

ควายแม่น้ำมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์มูร่าห์ นิลิราวี เมซานี เมดิเตอเรเนียน เป็นต้น ควายแม่น้ำสายพันธุ์ยอดนิยม คือ ควายพันธุ์มูร่าห์ ซึ่งนิยมเลี้ยงไว้ใช้ประโยชน์ในการรีดนม โดยสามารถให้นมมากถึง 2,000 กิโลกรัมต่อช่วงการให้นม 

นมของควายมูร่าห์ เป็นควายที่มีคุณประโยชน์ทางด้านโภชนาการสูง โดยพบว่ามีปริมาณแคลเซียมสูงกว่านมวัวทั่ว ๆ ไปถึง 2 เท่า อีกทั้งยังเป็นแคลเซียมจากธรรมชาติที่ไม่ผ่านการสังเคราะห์ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ 100% จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่มีปัญหาแพ้นมวัวหรือผู้ที่อยู่ในช่วงวัยกำลังเจริญเติบโต

ควายลูกผสม (Crossbred buffalo)

ควายลูกผสม คือ ควายที่ผ่านการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ระหว่างควายปลักและควายแม่น้ำ ลูกที่ได้ออกมาจึงมีลักษณะของควายทั้ง 2 สายพันธุ์ คือ เขาไม่ม้วนขดมาก แต่ชี้ออกทางด้านข้างและชี้ขึ้นไปด้านบน ผิวหนังเป็นจุด ๆ สีดำ หัวของควายลูกผสมจะมีลักษณะค่อนไปทางควายแม่น้ำ และเต้านมเจริญดีกว่าควายปลัก 

ในเชิงเศรษฐกิจ ควายลูกผสมมีข้อดีตรงที่โตเร็ว ให้เนื้อมากและสามารถใช้แรงงานได้ดี แต่ก็มีข้อด้อยที่พบได้ในควายลูกผสมเช่นกัน คือ ผสมพันธุ์ติดยาก และให้ลูกห่าง อีกทั้งเกษตรกรไทยที่เคยเลี้ยงควายลูกผสมมักกล่าวว่าควายประเภทนี้เลี้ยงยากกว่าควายไทย เพราะมักเลือกกิน และดื้อ อีกทั้งยังมีลักษณะที่ไม่สวยงามเหมือนควายไทยด้วย

เกร็ดความรู้เรื่องควาย

นอกเหนือจากควายที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งานหรือเลี้ยงเพื่อส่งออกผลผลิตแล้ว ยังมีควายอื่น ๆ ที่คนไทยควรทำความรู้จัก ได้แก่
ควายเผือก (Albinoid buffalo) เป็นควายที่มีผิวหนังสีชมพู มีขนสีขาว กีบและเขาสีเหลือง และมักมีรอยตกกระเป็นจุด ๆ โดยคุณประสบได้ทำการศึกษาทดลองร่วมกับ ดร.ดี.ซี.ไรฟ์ ได้ผลการศึกษาออกมาว่าควายเผือกแท้ ๆ จะต้องไม่มีการตกกระ และควรเรียกควายเหล่านั้นว่าควายขาวแทน แต่คนทั่ว ๆ ไปพอใจที่จะเรียกควายขาวว่าควายเผือกมากกว่า
ควายป่า (Wild water buffalo) ถือเป็นสัตว์ป่าที่ปราดเปรียวและพบเห็นได้ยาก แต่เดิมเชื่อว่าได้สูญพันธุ์จากประเทศไทยไปแล้ว แต่ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงแหล่งเดียวที่ยังมีควายป่าอยู่ คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ควายป่ามักดุร้ายกว่าควายบ้าน อีกทั้งยังมีผิวสีเทาเข้มไปจนถึงสีน้ำตาลดำ และเขามีลักษณะตีโค้งกว้างกว่าควายทั่ว ๆ ไป
ควายแคระ (Anoas-Anoa) ควายแคระมีลักษณะโดยทั่วไปเหมือนควายปกติทุกอย่าง เพียงแต่ย่อส่วนลงมามีลักษณะแคระ มีความสูงเต็มที่อยู่ที่ประมาณ 1 เมตรเท่านั้น คุณไผ่ จากต้นไผ่ฟาร์ม กล่าวว่า ควายแคระบางตัวมักจะมีฟันเหยินและขาหน้าโก่ง แต่บางตัวก็มีลักษณะเหมือนควายปกติทุกอย่าง แถมยังมีนิสัยขี้เล่นและแข็งแรงอีกด้วย

หลักการเลี้ยงควายให้แข็งแรงได้มาตรฐาน

หลังจากที่เรารู้แล้วว่าควายมีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร ทีนี้ก็มาถึงวิธีการเลี้ยงควายให้แข็งแรงได้มาตรฐาน เพื่อที่จะสามารถสร้างรายได้จากการเลี้ยงควายได้

ควาย

การสร้างคอกเลี้ยงควาย 

การสร้างคอกควายอาจไม่ต้องพิถีพิถันเหมือนการสร้างคอกวัวมากนัก โดยพื้นที่เหมาะกับการสร้างคอกควาย คือ พื้นปูนคอนกรีต เพราะสามารถล้างทำความสะอาดได้ง่าย พื้นคอกควรลาดเทไปทางด้านหลังซึ่งมีร่องคอยรองรับมูลควายให้ไหลลงไปรวมที่บ่อหมักเพื่อใช้ประโยชน์ทำปุ๋ยต่อไป พื้นที่ของคอกควายควรมีประมาณ 4-5 ตารางเมตรต่อควาย 1 ตัว ด้านหน้าควรมีรางใส่อาหารและควรตั้งอ่างน้ำดื่มที่ด้านนอกคอกควาย เพื่อป้องกันไมให้ควายลงไปแช่น้ำจนอ่างน้ำพังเสียหาย

การให้อาหารควาย

อาหารที่ร่างกายของควายต้องการ แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท คือ พลังงาน โปรตีน แร่ธาตุ วิตามิน และน้ำ สำหรับการให้อาหารควาย จากการศึกษาในบทความของ Wanapat และ Wachirapakorn ซึ่งสรุปได้ว่าควายปลักที่ได้รับอาหารหยาบจะเติบโตได้ดีกว่าและให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจดีที่สุด โดยหลักการให้อาหารควายตามหลักโภชนศาสตร์จะสามารถทำได้ดังนี้

พลังงาน จะได้จากแป้งและคาร์โบไฮเดรต ซึ่งสามารถพบได้ในมันสำปะหลัง ข้าวโพด ปลายข้าว กากน้ำตาล นอกจากนี้ พลังงานยังได้จากไขมันอีก ซึ่งพบได้ในไขมันทั้งจากพืชและจากสัตว์

โปรตีน ได้จากทั้งโปรตีนจากพืชและสัตว์ เช่น กากถั่วเหลือง กากถั่วลิสง และปลาป่น เป็นต้น

แร่ธาตุ ที่ควายต้องการจะมีทั้งหมด 15 ชนิด คือมีทั้งแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการมาก และแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการน้อย

วิตามิน แบ่งออกเป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน มักจะพบในพืชสด และวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ ที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้จากแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร

น้ำ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ดังนั้น จึงควรมีน้ำดื่มเตรียมไว้ให้ควายตลอดเวลา

ควาย

การดูแลควายในระยะต่าง ๆ 

การดูแลควายในช่วงวัยต่าง ๆ นั้นมีความแตกต่างกันไปตามอายุและสถานภาพของควายในช่วงอายุนั้น ๆ โดยสามารถจัดแบ่งได้เป็นช่วงระหว่างช่วงตั้งท้อง ช่วงคลอด ช่วงหย่านม และช่วงการตอน

  • ช่วงตั้งท้อง คือ ช่วงที่แม่คลายผ่านการผสมพันธุ์แล้วโดยไม่ติดสัดภายใน 20-28 วัน ควายจะใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 10-11 เดือน และในช่วง 1-2 เดือนแรก ควรหยุดใช้านแม่ควายตั้งท้อง เพราะเป็นช่วงที่เสี่ยงแท้งได้สูง ช่วงนี้ควรให้แม่ควายกินอาหารอย่างเต็มที่ รวมทั้งให้สารอาหารจำพวกเกลือแร่และวิตามิน 
  • ช่วงก่อนคลอดประมาณ 1 สัปดาห์ คือ ให้แยกแม่วัวออกจากฝูงต่างหากเพื่อเตรียมตัวคลอดและควรเตรียมคอกให้สะอาดโดยมีฟางหรือหญ้าแห้งรองรับการคลอด
  • ช่วงคลอด การคลอดปกติของควาย คือ จะเอาเท้าหน้าโผล่ออกมาก่อน แล้วตามด้วยจมูก ปาก หัว ระยะเวลาในการคลอดจะใช้เวลาประมาณ​ 1-2 ชั่วโมง เมื่อคลอดแล้วให้ใช้มีดคม ๆ ที่ผ่านการเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์มาตัดสายสะดือออก และควรให้ลูกควายกินนมแม่ภายใน 24 ชั่วโมง
  • หลังจากคลอดภายใน 7 วัน ให้ขังควายแม่ลูกอ่อนในคอกก่อน แล้วจึงค่อยปล่อยกลับเข้าฝูง   ในช่วง 2-3 เดือนแรก ลูกควายจะเริ่มหัดกินหญ้าได้บ้างแล้ว ช่วงนี้ควรควักเอาเอื้องที่แม่ควายเคี้ยวให้ลูกควายกินเพื่อให้ลูกควายได้รับเชื้อจุลินทรีย์ที่จะไปช่วยย่อยพืช การฝึกให้ลูกควายกินหญ้าได้เร็ว จะช่วยให้ลูกควายโตอย่างเต็มที่ อีกทั้งการให้อาหารข้นเป็นอาหารเสริมจะช่วยให้ลูกควายโตเร็ว และมีน้ำหนักช่วงหย่านมสูงกว่า
  • ช่วงหย่านม ควรอยู่ในช่วงที่ลูกควายอายุได้ประมาณ 8 เดือน ยิ่งให้ลูกควายหย่านมได้เร็วเท่าไหร่ ร่างกายแม่ควายก็จะฟื้นฟูได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น การหย่านมควรแยกลูกควายออกจากแม่ควาย โดยการขังแยกคอก
  • ช่วงการตอน จะทำเมื่อลูกควายตัวผู้อายุประมาณ​ 4-5 เดือน และจะตอนในวัวที่มีลักษณะไม่ดีเพื่อไม่ให้มีโอกาสขยายพันธุ์ แต่ในควายตัวที่ไม่ต้องการให้ขยายพันธุ์แต่ต้องการเก็บไว้ใช้งาน แนะนำให้ตอนเมื่ออายุ 3-4 ปี เพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนหน้าบนร่างกายเจริญเติบโตได้เต็มที่เสียก่อน 

การผสมพันธุ์ควาย

การคัดเลือกพันธุ์ควายที่ดี กรมปศุสัตว์ได้กล่าวไว้ว่าควรเลือกควายที่เกิดจากพ่อแม่ที่มีลักษณะดี โตเร็ว ให้ลูกดก ในตัวผู้ควรมีอัณฑะ 2 ข้างดูปกติ และมีอายุระหว่าง 3-10 ปี ส่วนในตัวเมียควรไม่เป็นหมัน และมีอายุระหว่าง 2-12 ปี นอกจากนี้ ควายที่จะนำมาผสมพันธุ์ควรมีสุขภาพดี ไม่ติดโรค และมีสีเทาเข้มไปจนถึงสีดำ 

การผสมพันธุ์วัว สามารถทำได้ 3 วิธี คือ

  • การปล่อยพ่อพันธุ์คุมฝูง เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะพ่อควายจะรู้ว่าตัวเมียติดสัดตอนไหน ผู้เลี้ยงจึงไม่ต้องเสียเวลาตรวจดูระยะการติดสัดของแม่ควาย การผสมพันธุ์วิธีนี้ควรขังพ่อควายไว้ในคอกและหาหญ้าให้กินแทน เพราะไม่เช่นนั้นพ่อควายจะไม่สนใจกินหญ้า และอาจไปชนกับพ่อควายตัวอื่นได้
  • การจูงเข้าผสม เป็นการจูงพ่อควายและแม่ควายมาผสมพันธุ์กัน (คล้าย ๆ กับการคลุมถุงชน) วิธีนี้จะเลี้ยงพ่อควายไว้ในคอกให้ห่างจากฝูง เพื่อให้ผู้เลี้ยงสามารถดูแลสุขภาพร่างกายของพ่อควายให้แข็งแรงได้ตลอดเวลา แต่มีข้อเสีย คือ ผู้เลี้ยงต้องหมั่นสังเกตอาการติดสดของแม่ควายเอง
  • การผสมเทียม มักเป็นวิธีการผสมพันธุ์ที่ไม่ค่อยได้ผล เพราะอาการติดสัดในควายตัวเมียมักสังเกตได้ยาก อีกทั้งอัตราการผสมเทียมติดนั้นค่อนข้างต่ำ 

สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักในการผสมพันธุ์ควาย คือ ควายไทยนั้นสามารถเป็นสัดได้ตลอดทั้งปี แต่ไม่ควรผสมเลือดชิดหรือผสมพันธุ์ในควายที่มีสายเลือดเดียวกัน เพราะลูกที่เกิดมามักจะอ่อนแอและมีอาการผิดปกติ

การดูแลโรคที่เกิดกับควาย

ปัญหาเรื่องโรคที่เกิดกับควายมักมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ สำหรับในประเทศไทยกรมปศุสัตว์ระบุว่าโรคติดต่อสำคัญที่เป็นปัญหา คือ โรคปากและเท้าเปื่อย โรคคอบวม โรคแท้งติดต่อ วัณโรค และโรคที่อาจพบได้ไม่บ่อยนัก คือ โรคแอนแทรกหรือกาลี ซึ่งโรคเหล่านี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

อีกหนึ่งปัญหาสุขภาพควายที่ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงควายเชิงเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก คือ โรคพยาธิ ในควายที่เพิ่งเกิดใหม่ มักพบปัญหาพยาธิตัวกลมที่สามารถติดต่อได้ผ่านนมแม่ ซึ่งทำให้ลูกควายซูบผอมและอาจเสียชีวิตได้ วิธีป้องกันทำได้โดยการถ่ายพยาธิ ส่วนในควายตัวเต็มวัยมักพบปัญหาพยาธิใบไม้ในตับ มักพบในควายที่อาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ วิธีการป้องกันและรักษา คือ การใช้ยาเฉพาะ และควบคุมการแพร่กระจายของพาหะพยาธิ

โดยสรุปแล้ว โรคที่เกิดขึ้นได้ในควาย มีดังนี้

  • เกิดจากการติดเชื้อโรค เช่น ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา
  • เกิดจากการขาดสารอาหาร หรือได้รับอาหารไม่เพียงพอ
  • เกิดจากการได้รับสารพิษต่าง ๆ
  • เกิดจากพันธุกรรม
  • เกิดจากอุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่าง ๆ
  • เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะ

สำหรับแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันโรคสามารถทำได้ดังนี้

  • เมื่อนำควายใหม่เข้าฝูง ควรกักตัวแยกเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • แยกควายที่ป่วยออกจากฝูง
  • หากมีควายตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรติดต่อสัตวแพทย์ให้มาตรวจดู
  • กำจัดพาหะนำโรคหรือสัตว์ที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง

การใช้ประโยชน์จากควายเพื่อสร้างรายได้

ควาย

อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นของบทความว่าควายเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนานนับตั้งแต่อดีตและบทบาทหน้าที่ของควายไทยก็มีความแตกต่างไปจากเดิม ดังนั้น คนที่กำลังคิดว่าอยากจะเลี้ยงควายก็ต้องขอบอกเลยว่าปัจจุบันนี้การเลี้ยงควายสามารถทำกำไรได้หลายช่องทางมาก ๆ และเราควรเรียนรู้จะใช้ประโยชน์จากมันเพื่อหารายได้มากขึ้นด้วย

1.ใช้เป็นแรงงาน 

ควาย เป็นสัตว์ที่มีความแข็งแรงทนทานมาก รูปร่างกำยำ มีกีบเท้ายังมีขนาดใหญ่ที่ข้างสามารถรับน้ำหนักได้ดี จึงไม่แปลกที่มันจะเป็นสัตว์ที่สามารถนำมาใช้เป็นแรงงานได้อย่างดี โดยปกติแล้วควายจะไถนาได้ประมาณวันละ 5 ชั่วโมง เฉพาะในช่วงเช้าและช่วงเย็นและไถได้ประมาณ 0.2-0.9 ไร่ต่อวัน ควายจะเริ่มถูกฝึกให้ไถนาเมื่ออายุได้ประมาณ 2-3 ปีและจะถูกใช้งานอย่างหนักในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 4-5 เดือนต่อปี

2.การให้เนื้อ 

เนื้อควายขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อที่มีคุณภาพดีและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคอีสานที่ใช้เนื้อควายเป็นวัตถุดิบหลักในอาหารจานโปรด นอกจากนี้อุตสาหกรรมการผลิตอาหารจากเนื้อควายกำลังมีแนวโน้มที่สูงขึ้น เนื่องจากเป็นเนื้อที่มีรสชาติอร่อย อีกทั้งยังมีปริมาณไขมันและไตรกลีเซอไรด์น้อยเมื่อเทียบกับเนื้อไก่ เนื้อวัว และเนื้อปลา อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและสารเคมีจากการรักษาโรคน้อยมาก เมื่อเทียบกับการผลิตเนื้อวัวในแถบประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งปัจจุบันนี้การทำฟาร์มควายถือว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมาก เพื่อให้สามารถทำตลาดแข่งกับต่างประเทศและสามารถส่งออกทำเงินได้ เช่น มาเลเซีย ที่ตอนนี้กำลังนิยมบริโภคเนื้อควาย จนถึงกับมีการวางขายตามห้างสรรพสินค้าและขึ้นป้ายว่าเป็น “buffalo meat” กันเลยทีเดียว ถือเนื้อคุณภาพพิเศษที่เรียกว่า natural grass-fed beef ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพด้วย

3. การเพาะพันธุ์และส่งออกควายสายพันธุ์ดี

อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าตลาดของรับซื้อควายปัจจุบันมีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่ต้องการลงทุนกับพ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์ควายที่มีลักษณะดี แข็งแรงและเหมาะจะนำไปขยายพันธุ์ต่อ เพื่อเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวไม่ว่าจะใช้ประโยชน์จากควายในด้านแรงงาน ขายเนื้อหรือนมก็ล้วนจำเป็นต้องใช้พ่อพันธุ์-แม่พันธูืควายที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถส่งออกไปยังประเทศเพื่อบ้านอย่างลาว พม่า กัมพูชาที่ต้องการพันธุ์ควายจากไทยมาก ๆ เพราะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศและใช้แรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.การใช้มูลเป็นปุ๋ย 

มูลหรือขี้ควายสามารถนำมาใช้ผลอตเป็นปุ๋ยเพื่อฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในดินที่ใช้ปุ๋ยเคมีเป็นเวลานานและต้องการเพิ่มธาตุอาหารให้กับพืชด้วย นอกจากนี้มูลควายยังสามารถนำไปส่วนประกอบหลักในการทำผ้าย้อมมูลควาย ซึ่งเป็น OTOP ของจังหวัดสกลนครและมีการทำในหลายพื้นที่ด้วย โดยควายที่โตเต็มที่จะถ่ายมูลคิดเป็นน้ำหนักของมูลแห้งประมาณปีละ 2-3 ตัน โดยเฉลี่ยแล้ว ควายถ่ายมูลได้วันละประมาณ 5-6 ครั้ง ซึ่งการใช้มูลควายเป็นปุ๋ยแทนปุ๋ยเคมีจะช่วยลดการสูญเสียเงินตราในการซื้อปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศคนที่เลี้ยงควายหลัก 10 ตัวก็สามารถสร้างมูลค่าจากมูลควายได้หลักหมื่นเลยทีเดียว

ปัญหาที่พบจากการเลี้ยงควายในปัจจุบัน 

ทางศูนย์สถิติการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้รายงานว่า ในปี พ.ศ. 2545 – 2555 ประชากรควายปักมีจำนวนลดลงถึง 3.66% ในแต่ละปี โดยสาเหตุหลักมาจากปัจจุบันเกษตรกรและชาวนาไทยไม่ได้ใช้ควายในการไถนาเหมือนแต่ก่อน เพราะค่านิยมในการถือครองเครื่องจักรและรถไถนาทำให้เห็นความสำคัญในการเลี้ยงควายไทยลดน้อยลง อีกทั้งคนวัยหนุ่มสาวนิยมออกไปทำงานตามบริษัทหรือโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่าการทำงานภาคเกษตรกรรม จึงทำให้ชาวนาและเกษตรกรส่วนใหญ่หันมาใช้เครื่องจักรหรือเครื่องทุ่นแรงในการทำงานด้านเกษตรกรรมแทน อีกทั้งปัจจุบันชาวนายังประสบปัญหาการขาดแคลนพื้นที่เลี้ยงสัตว์ เนื่องจากที่ดินมีราคาแพงมากขึ้นและนายทุนมักจะกว้านซื้อที่ดินที่เคยเป็นแหล่งทำเกษตรกรรม ทำให้ขาดพื้นที่และอาหารในการเลี้ยงสัตว์นั่นเอง

ถึงแม้ว่าการเลี้ยงควายไทยจะไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับในอดีต เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยได้พลิกจากสังคมเกษตรกรรมสู่สังคมอุตสาหกรรม ทำให้เหล่าเกษตรกรและชาวนาไม่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเลี้ยงควายไทย แต่อย่างไรก็ตามควายไทยก็ยังถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของคนไทย อีกทั้งในปัจจุบันการเลี้ยงควายไทยสามารถสร้างกำไรได้หลายช่องทาง แม้ว่าการขายเนื้อควายจะไม่ใช่การอนุรักษ์ตามแบบแผนที่ดีแต่ก็ช่วยให้คนหันมาเพาะพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์ควายไทยให้ดีขึ้นและสามารถสร้างรายได้จากมันได้มากขึ้นเช่นกัน

แหล่งที่มา
คู่มือการเลี้ยงกระบือไทย, กรมปศุสัตว์
การผลิตและการจัดการกระบือ, มหาวิทยาลัยนเรศวร
ยุทธศาสตร์ควายไทย, ศูนย์สถิติการเกษตร

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้