มะกอกน้ำ ผลไม้พื้นบ้านไทย ไม้ทนน้ำท่วม ผลผลิตสูง ราคาดี

ชื่อวิทยาศาสตร์ Elaeocarpus hygrophilus Kurz

ชื่อวงศ์ ELAEOCARPACEAE

ชื่ออื่น ๆ สมอพิพ่าย(ระยอง),สารภีน้ำ(ภาคกลาง),สีชัง

ต้นมะกอกน้ำ เป็นผลไม้พื้นบ้านของไทย ทนน้ำท่วม จัดเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบแต่ไม่พร้อมกัน มีความสูงของต้นประมาณ 8-15 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มโปร่ง มีรูอากาศเป็นแนวยาว เปลือกลำต้นค่อนข้างเรียบเป็นสีน้ำตาล มีรอยแตกเป็นร่องเล็ก ๆ ตื้น ๆ ตามความยาวของลำต้น ตามกิ่งมีรอยแผลใบชัดเจน ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดและการตอนกิ่ง เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ชื้นหรือบริเวณริมน้ำ ในประเทศไทยพบได้มากในภาคกลาง โดยเฉพาะในพื้นที่ชุ่มชื้นและอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ ริมน้ำ ตามชายฝั่งทะเล ตามป่าโกงกาง ป่าพรุ

มะกอกน้ำ ประโยชน์
www.เกร็ดความรู้.net

แหล่งกำเนิดและการแพร่กระจาย

มะกอกน้ำ ไม่ทราบแหล่งกำเนิดที่ชัดเจน แต่หากดูจากนิสัยแล้วทำให้เชื่อว่ากำเนิดในลุ่มของป่าฝนเมืองร้อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถวแถบคาบสมุทรมลายูขึ้นมาถึงภาคเหนือตอนล่างของไทย มะกอกน้ำขึ้นได้ดีตั้งแต่มาเลเซียจนถึงจังหวัดเหนือสุดของไทย พบได้บริเวณริมน้ำและลำห้วย ปัจจุบันนิยมปลูกทั่วไป ออกดอกและติดผลช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม

ลักษณะทั่วไป

  • ลำต้นมะกอกน้ำ
    เปลือกลำต้นค่อนข้างเรียบ สีน้ำตาล ตามกิ่งมีรอยแผลใบชัดเจน
  • ใบมะกอกน้ำ
    ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนสลับหนาแน่นที่บริเวณปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนาน รูปไข่กลับ หรือเป็นรูปแกมรูปใบหอก ปลายใบมนหรือป้าน โคนใบสอบ ส่วนขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 6-12 เซนติเมตร ท้องใบและหลังใบเรียบ ผิวใบเป็นมันสีเขียวเข้ม ส่วนใบอ่อนเป็นสีเขียวอมเหลือง ก้านใบอ่อนเป็นสีออกแดงเข้ม ส่วนก้านใบแก่เป็นสีแดงอมน้ำตาล ยาวประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร
  • ดอกมะกอกน้ำ
    ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ ช่อดอกยาวประมาณ 2-10 เซนติเมตร ส่วนก้านดอกยาวประมาณ 2-7 เซนติเมตร ดอกย่อยเป็นสีขาว ลักษณะห้อยลงคล้ายระฆัง มีขนาดประมาณ 4-8 มิลลิเมตร ดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ ลักษณะเป็นรูปไข่กลับ มีขนาดกว้างประมาณ 3-4 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 5-8 มิลลิเมตร ปลายกลีบดอกจักเป็นฝอยเล็ก ๆ ยาวประมาณครึ่งหนึ่งของความยาวกลีบ ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ เป็นสีเขียว ปลายกลีบแหลม ดอกเป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศ ภายในดอกมีเกสรเพศผู้ประมาณ 15-25 ก้าน มีเกสรเพศเมีย 1 ก้าน โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม บ้างว่าออกดอกและติดผลในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม
  • ผลมะกอกน้ำ
    ผลเป็นผลสดแบบมีเนื้อ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมรีหรือรูปไข่ มีขนาดกว้างประมาณ 1.5-2 เซนติเมตรและยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร ปลายผลเรียวแหลม ผิวผลเรียบเป็นสีเขียว ผลสามารถใช้รับประทาน โดยผลอ่อนจะเป็นสีเขียวอ่อน ผิวผลเกลี้ยง เนื้อในอ่อนนุ่ม มีรสเปรี้ยวอมฝาด ส่วนผลสุกจะเป็นสีส้มหรือสีแดงเข้ม มีรสเปรี้ยวอมหวานและฝาดเล็กน้อย ภายในมีเมล็ดเดี่ยว
ผลมะกอกน้ำ
  • เมล็ด
    ลักษณะของเมล็ดมะกอกน้ำเป็นรูปกระสวยหรือรูปรี ปลายเรียวแหลม ผิวเมล็ดขรุขระและแข็งมาก เมล็ดเป็นสีน้ำตาลอ่อน ส่วนก้านผลยาวประมาณ 0.7-1 เซนติเมตร ให้ผลในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน

สายพันธุ์

นางสาวอินทิรา จารุเพ็ง ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์ของมะกอกน้ำ ไว้ในเรื่องการศึกษาเปรียบเทียบลักษณะประจำพันทางกิ่งใบและผลของมะกอกน้ำ 3 พันธุ์สายพันธุ์ ไว้ว่า มะกอกน้ำ ที่รู้จักทั่วไปมีอยู่ 3 สายพันธุ์ คือ

  1. พันธุ์กระดูก
    มีลักษณะ ขั้วและปลายผลเรียวแหลม ผลเล็ก เมล็ดใหญ่ ผิวผลขรุขระ เนื้อน้อยและค่อนข้างแข็ง รับประทานไม่อร่อย รสเปรี้ยวอมฝาด ไม่นิยมปลูกเป็นการค้า
  2. พันธุ์หม้อ
    มีลักษณะ ผลโตกว่าพันธุ์กระดูก ผลกลม ปลายผลแหลม เมล็ดเล็กเนื้อมาก นุ่ม รสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย ผลผลิตน้อยกว่าพันธุ์กระดูก นิยมใช้ดอง
  3. พันธุ์ไข่
    มีลักษณะ ผลกลม ผิวเรียบ เนื้อหนา เมล็ดเล็ก เนื้อนุ่ม นิยมนำมาดองเค็มและเชื่อมขาย

นอกจาก 3 สายพันธุ์ที่กล่าวมาแล้ว ยังพบว่ามีมะกอกน้ำที่มีลักษณะประจำพันธุ์พิเศษออกไปอีก 3 พันธุ์คือ

  1. พันธุ์ทะวาย
    มะกอกน้ำพันธุ์นี้มีลักษณะค่อนไปทางพันธุ์กระดูก แต่ลักษณะเด่นคือ ให้ผลตลอดปี พบที่ชลบุรี
  2. พันธุ์เนื้อไม่ฝาด
    มีถิ่นกำเนิดที่ ต.สัมปทวน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ลักษณะผลเหมือนพันธุ์มะกอกหม้อทั่วไป ผลขนาดกลาง ข้อดีคือ เนื้อไม่เปรี้ยวมาก ไม่มีรสฝดเลยถึงผลจะยังไม่แก่จัด
  3. พันธุ์ผลโต
    ผลโตขนาดผลมะปราง ผิวผลเรียบ เนื้อนุ่ม เมล็ดเล็ก รสดี ปัจจุบันพบอยู่ 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ฉะเชิงเทรา มีนบุรี และกระทุ่มแบน (สมุทรสาคร)

ส่วนมะกอกน้ำพันธุ์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ

  1. พันธุ์แก้มแหม่ม
    พบครั้งแรกที่ จ.สุพรรณบุรี มีลักษณะพิเศษ คือ ผลดก และมีขนาดใหญ่ เนื้อนุ่ม เมล็ดเล็ก
  2. พันธุ์แขกดำ
    มะกอกน้ำพันธุ์นี้ได้พันธุ์มาจาก อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ผลจะมีสีเขียวอ่อน ก้นงอน แหลมเล็กน้อย เนื้อหนาและล่อน ไม่ฝาด เมล็ดเล็ก น้ำหนักดี ขนาดผลเมื่อแก่จัดเฉลี่ย 48-55 ผล/กก.
  3. พันธุ์สีนวล
    ได้พันธุ์มาจาก อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ผลมีสีเขียว ก้นผลแหลมแต่ไม่งอน เนื้อหนาแน่น น้ำหนักดี ขนาดผลเฉลี่ยเล็กกว่าพันธุ์แขกดำเล็กน้อย

วิธีการปลูกมะกอกน้ำ

วิธีปลูกต้นมะกอกน้ำหากเป็นการปลูกเชิงพาณิชย์ หลังจากเตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้ว มีขั้นตอนต่อไปคือ

  • ขุดหลุมให้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร ลึก 40 เซนติเมตร ระยะปกติ 4x 6 เมตร หรือ 6 x6 เมตร หากต้องการประหยัดพื้นที่ก็ใช้ระยะชิด 2 x 4 เมตร หรือ 4 x 4 เมตรก็ได้
  • รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก นำกิ่งชำหรือกิ่งตอนลงปลูก รดน้ำให้ชุ่มใช้ฟางข้าวหรือเศษหญ้าแห้งคลุมโคน
  • ใส่ปุ๋ยคอกและฉีดน้ำหมักมูลสุกรเดือนละ 1-2 ครั้ง และหยุดบำรุงตอนที่ติดผลหากยังบำรุงต่อจะทำให้ผลร่วงได้
มะกอกน้ำ ปลูกกี่ปี
blog.arda.or.th

วิธีการปลูกมะกอกน้ำในกระถาง

  • ใช้กระบะหรือภาชนะที่โตนิดหนึ่ง เจาะรูก้นกระถางเพื่อการระบายน้ำ
  • นำเศษหญ้าแห้งวางรองชั้นล่างสุด ใส่ดินปลูกที่ผสมด้วยปุ๋นคอกขี้เถ้าแกลบ ซึ่งเป็นขี้เถ้าที่เกิดจากการเผาแกลบ ในอัตราส่วนที่เท่ากันและคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • ใส่ดินปลูกที่ผสมแล้วลงกระถางประมาณครึ่งกระถาง
  • นำต้นพันธุ์มะกอกน้ำลงปลูกโดยแกะถุงชำออกก่อน และควรเป็นต้นพันธุ์ที่มาจากการตอนจากต้นที่มีอายุประมาณ 2-3 ปี จะช่วยให้การแทงยอดและออกดอกเร็ว ซึ่งก็หมายถึงการให้ผลผลิตจะเร็วด้วย ที่สำคัญสามารถบังคับ การออกลูกได้ตลอดทั้งปีแม้จะปลูกในกระถางก็ตาม
  • นำดินปลูกใส่ปิดทับโคนกดดินพอแน่น เหลือบริเวณส่วนขอบกระถางไว้ประมาณ 2 นิ้ว
  • นำท่อพีวีซีขนาด 2 นิ้ว ความยาวสูงกว่ากระถาง 1 เท่าตัว ส่วนปลายท่อพีวีซีใส่ข้องอ นำไปปักในกระถางห่างโคนต้นประมาณ 4-5 นิ้ว ลึกเพียงครึ่งหนึ่งของกระถางให้ส่วนข้องออยู่ด้านบน เพื่อช่วยระบายอากาศภายในกระถางและเติมอากาศลงไปในกระถางให้รากมะกอกได้มีอากาศเพียงพอในการช่วยดูดซับอาหารเลี้ยงลำต้น ใบ ดอก และผล ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ปิดคลุมด้วยฟางข้าวหรือเศษหญ้าแห้ง
  • นำไว้ที่ร่มแสงแดดรำไรในช่วงต้น รดน้ำเช้าเย็น ประมาณ 2-3 อาทิตย์รากมะกอกจะออกหาอาหารภายในกระถาง สังเกตได้ที่มะกอกเริ่มแทงยอดอ่อนออกมา ก็สามารถนำไปวางในพื้นที่ที่ต้องการตามความเหมาะสมต่อไป 1-2 อาทิตย์นำออกมาให้เจอกับแสงแดดครั้งหนึ่งประมาณ 2-3 วัน วิธีปลูกในกระถางแบบนี้มะกอกจะติดผลได้ตลอดทั้งปี และมะกอกน้ำจะให้ผลลิตตั้งแต่ปีที่ 2 หลังจากปลูก แต่จะให้ผลผลิตเต็มที่ในปีที่ 3

ประโยชน์หรือสรรพคุณของต้นมะกอกน้ำ

ผลของมะกอกน้ำมีรสฝาดอมเปรี้ยวหวาน นิยมนำไปดอง เชื่อม แช่อิ่มมะกอกน้ำดอง หรือนำผลดิบมาจิ้มกับน้ำปลาหวานรับประทาน ผลแก่นิยมนำมาดองเป็นผลไม้แปรรูป ใช้รับประทานเป็นอาหารว่างได้ เมล็ดอาจนำมากลั่นได้น้ำมัน คล้ายกับน้ำมันโอลีฟ (Olive oil) ของฝรั่ง ชาวสวนในภาคกลางจะนิยมปลูกต้นมะกอกน้ำไว้ตามริมร่องสวน เพื่อให้รากช่วยยึดดิน เพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดินตามริมร่องสวน ปัจจุบันนิยมปลูกไว้เป็นไม้ผลยืนต้นทางเศรษฐกิจ เพราะมีผลผลิตที่สูงอย่างสม่ำเสมอและขายได้ราคาดี แต่มีบ้างที่ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับ เพราะปลูกง่าย โตเร็ว เรือนยอดเป็นทรงพุ่มกลมกว้างและโปร่ง ออกดอกดกขาวเต็มต้น นอกจากนี้ต้นมะกอกน้ำยังมีสรรพคุณทางด้านของสมุนไพรอีกมายมาย เช่น ดอกเป็นยาบำรุงธาตุในร่างกาย เป็นยาแก้พิษโลหิต กำเดา ช่วยแก้ริดสีดวงในลำคอ คันเหมือนมีตัวไต่อยู่  ผลมะกอกน้ํามีรสเปรี้ยวอมหวาน นำมาดองกับน้ำเกลือรับประทาน จะช่วยแก้อาการกระหายน้ำได้ดี และช่วยทำให้ชุ่มคอ ใช้รับประทานแก้เสมหะในลำคอได้ เมื่อนำผลไปดองหรือเชื่อมรับประทาน จะเป็นผลไม้ที่ช่วยในการระบาย และเปลือกต้นแห้งมีรสเฝื่อน นำมาชงกับน้ำรับประทานเป็นยาฟอกเลือดหลังการคลอดบุตรของสตรีได้อีกด้วย

มะกอกน้ำดอง
Facebook, ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้อบแห้ง มะม่วง มะดัน กระท้อนแช่อิ่ม by คุณแจ๋ม

อ้างอิง

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้