เมื่อฤดูร้อนมาถึงต้นพืชที่มีผลน่ารับประทานก็จะถึงกาลออกผลในคราวนี้ด้วย ไม่ว่าจะเงาะ ทุเรียน แตงโม ขนุน มะขาม มะปราง และมะม่วง เฉพาะอย่างยิ่งมะม่วงคงจะมีหลากหลายพันธุ์ให้เลือกรับประทานได้ตามความชอบ แล้วหนึ่งในนั้นที่เราใคร่นำเสนอก็คือ มะม่วงเขียวเสวย เชื่อว่าชื่อนี้หลายคนจะต้องรู้จักกันดี แต่อาจจะมีอีกหลายข้อมูลที่ยังไม่เคยรับรู้ เอาเป็นว่าเราอาสาเติมเต็มนานาสาระเหล่านั้นให้เองตามมาได้เลย….
![มะม่วงเขียวเสวย](https://kaset.today/wp-content/uploads/2023/07/เขียวเสวย.jpg)
มะม่วงเขียวเสวย เป็นมะม่วงชนิดที่นิยมกันทั้งในประเทศและต่างประเทศจนถึงกับถูกขนานนามให้เป็น…ราชินีของมะม่วงไทย…ซึ่งมีข้อมูลทางด้านวิชาการ คือ
ชื่อวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ‘Mangifera indica L.’
ชื่อสามัญ เรียก ‘Mango (Khiew Sawoey)’ และ จัดอยู่ในวงศ์ ‘ANACARDIACEAE’
ลักษณะทางพฤษศาสตร์มะม่วงเขียวเสวย
มะม่วงเขียวเสวย เป็นพันธุ์มะม่วงที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทยและได้พันธุ์มาโดยบังเอิญจากการเพาะเมล็ดของชาวสวนในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เมื่อปี พ.ศ.2475 แล้วนับแต่นั้นก็มีการขยายพันธุ์กับปลูกมากขึ้นในทุกภูมิภาคของประเทศ
ต้น จัดเป็นประเภทไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลางซึ่งมีอายุอยู่ได้ประมาณ 10-25 ปี ลำต้นมีความสูง 5-15 เมตร ลักษณะของลำต้นจะแตกกิ่งหลักกับกิ่งแขนงจนทำให้เห็นเป็นทรงพุ่มโปร่งๆ ส่วนเปลือกของลำต้นจะเป็นสะเก็ดสีดำอมเทาขนาดเล็ก
ใบ เป็นประเภทใบเดี่ยวที่ออกแบบเรียงสลับกันตรงปลายกิ่ง ลักษณะของใบมีความรียาว เป็นมัน และมีสีเขียวเข้ม ขนาดใบจะกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาว 15-20 เซนติเมตร โคนใบจะออกสอบๆ มนๆ ปลายใบมีความแหลม ส่วนแผ่นใบกับขอบใบจะมีความเรียบและมีเส้นกลางใบเป็นสีขาว
ดอก การออกดอกเป็นแบบช่อแขนง โดยแต่ละแขนงจะมีดอกย่อยจำนวนมาก และที่ดอกย่อยก็จะมีดอกเพศผู้ ร้อยละ 91.80 และดอกกะเทย ร้อยละ 8.20 ซึ่งจะสามารถพัฒนาเป็นผลได้ ทั้งนี้ลักษณะเด่นของดอกมะม่วงเขียวเสวยคือ หลังจากมีการผสมเกสรแล้ว กลีบเลี้ยง กลีบดอก และเกสรจะมีการร่วงหล่น แล้วคงเหลือเพียงรังไข่ที่พัฒนาเป็นผลรูปไข่ขนาดเล็กและจานดอกซึ่งจะเหี่ยวแห้งติดอยู่ที่ส่วนด้านล่างของผล
ผล จะมีลักษณะรียาวและออกแบนเล็กน้อย ขนาดของผลมีความกว้างประมาณ 5-7 เซนติเมตร ความยาวราว 10-15 เซนติเมตร เมื่อผลยังอ่อน ส่วนเปลือกจะเป็นสีเขียวเข้ม เนื้อมีสีขาวและมีรสเปรี้ยว เมื่อผลแก่ เปลือกจะมีสีเขียวอมเทา เนื้อมีสีขาวขุ่นและรสชาติหวานมัน เมื่อผลสุก เปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน เนื้อมีสีเหลือง ละเอียด ไม่เละง่าย ส่วนของเมล็ดมีความแบนกับเรียวยาวและเปลือกหุ้มเมล็ดจะหนาปนแข็ง
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2023/07/ต้นมะม่วง-768x512.jpg)
การขยายพันธุ์ของ มะม่วงเขียวเสวย
สามารถทำได้ 3 วิธี คือ (1) การเพาะเมล็ด (2) การตอนกิ่ง (3) การทาบกิ่ง
ส่วนวิธีการปลูกจะเริ่มจากการเตรียมแปลงปลูกและหลุมปลูก ตามนี้
- ให้ไถพรวนดินกับตากหน้าดินเป็นจำนวน 1-2 ครั้ง ครั้งละ 5-10 วัน
- ให้ขุดหลุมปลูกในทิศขวางกับดวงอาทิตย์ โดยให้แต่ละหลุมมีความกว้าง 50 เซนติเมตร ลึก 50 เซนติเมตร และเว้นระยะห่างระหว่างหลุมกับแถวประมาณ 6-8 เมตร
- ปล่อยหลุมตากแดดเป็นระยะเวลา 3-5 วัน
จากนั้นให้ทำการปลูก โดยช่วงที่เหมาะแก่การปลูกจะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูฝนหรือในเดือนพฤษภาคม ถึง มิถุนายน ซึ่งวิธีการ คือ
- ให้คลุกก้นหลุมกับหน้าดินด้วยปุ๋ยคอก 3-5 กำมือ ต่อ หลุม พร้อมด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 จำนวน 1 กำมือต่อ หลุม
- นำต้นพันธุ์ลงปลูก แล้วกลบดินให้พูนและสูงจากหน้าดินเล็กน้อย
- ปักไม้ไผ่และผูกเชือกยึดลำต้นไว้ด้วย
หลังจากปลูกเรียบร้อยก็สามารถปล่อยให้ต้นพันธุ์เจริญเติบโตด้วยน้ำฝน หากเกิดฝนทิ้งช่วงก็สามารถรดน้ำทุกวัน หรือวันเว้นวันได้ แล้วเมื่อเข้าฤดูแล้งก็ให้น้ำวันเว้นวัน ส่วนในระยะปล่อยให้ติดผลหรือนับจากการปลูกเป็นเวลา 3-4 ปี
การให้น้ำ สามารถทำได้ 2-3 วัน ต่อ ครั้ง
เรื่องการใส่ปุ๋ย ช่วง 1-3 ปีแรก ให้บำรุงด้วยปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 พอถึงช่วงออกดอกให้เปลี่ยนเป็นปุ๋ยเคมีสูตร 10-10-20 และปุ๋ยคอก ทั้งนี้อายุที่เหมาะสมพร้อมจะเก็บเกี่ยวผลอยู่ที่ 105 วัน หลังดอกบาน หรือประมาณ 90 วัน หลังติดผล สำหรับ
เรื่องศัตรูพืช ตัวสำคัญของพรรณไม้นี้ที่ควรระวังซึ่งจะมารบกวนช่วงติดผล ได้แก่ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง การป้องกันทำได้ด้วยการพ่นฮอร์โมนขั้วเหนียวและพ่นปุ๋ยบำรุงผลสูตร 21-21-21
ข้อควรรู้ การให้ผลของ มะม่วงเขียวเสวย ในระยะเวลา 3-6 ปี จะมีการให้ผลที่ค่อนข้างน้อยจนถึงปานกลาง และ ระยะเวลา 7-15 ปี จะเป็นช่วงที่ให้ผลผลิตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงปีที่ 13 จะให้ผลมากที่สุด แล้วในระยะเวลาตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไป ผลผลิตจะเริ่มลดลงเรื่อยๆ
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2023/07/ดอกมะม่วง.jpg)
คุณประโยชน์ มะม่วงเขียวเสวย
ด้านสรรพคุณทางยา
ผลดิบและสุก ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง
ใบมะม่วง ช่วยบรรเทาอาการไอ แก้โรคหอบหืด แก้โรคเกี่ยวกับทรวงอก
ลำต้นและเปลือก ช่วยแก้ไข้ตัวร้อน รักษาแผลในจมูก แก้อาการท้องเดิน
ราก ช่วยรักษาอาการฝี ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ เป็นต้น
นอกเหนือจากที่กล่าวแล้ว ด้านความเชื่อ มะม่วงยังถือเป็นไม้มงคลที่ช่วยส่งเสริมในเรื่องทรัพย์สิน ดังนั้น การนำไปปลูกที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล ควรจะปลูกทางทิศใต้ของบ้านและให้ปลูกในวันศุกร์ โดยมีข้อแนะนำว่าให้ปลูกห่างจากตัวบ้านราวๆ 3-4 เมตร ยิ่งไปกว่านั้น หากต้องการจะจัดให้ มะม่วงเขียวเสวย เข้ากับพื้นที่สวนหรือสวนหย่อมของบ้านก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย สามารถนำไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ จัดวางรอบๆ ต้น หรืออาจจะจัดเรียงก้อนอิฐสีแดงรอบต้นมะม่วงก็ดูเก๋ไก๋ไม่น้อย แล้วถ้าอยากจะมีที่นั่งใต้ต้นมะม่วงเอาไว้นั่งเล่นก็ทำได้เช่นกัน แต่ควรนำสแลมบังไว้ด้านบน เพื่อป้องกันยางและดอกมะม่วงตกใส่ต่างๆ ทั้งหลายข้างต้นคงพอจะทำให้รู้จักมะม่วงพันธุ์นี้ดีกันยิ่งขึ้น แล้วหากใครชื่นชอบหรือสนใจก็ไปจัดหากันได้ รับรองว่าหาง่ายมากไปที่ศูนย์รวมต้นไม้ตรงไหนก็มีจริงๆ นะ
![ใบมะม่วง](https://kaset.today/wp-content/uploads/2023/07/ใบมะม่วง-768x1008.jpg)