แครอท ภาษาอังกฤษ Carrot
แครอท ชื่อวิทยาศาสตร์ Daucus carota L. จัดอยู่ในวงศ์ผักชี (APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE)
แครอท คือ เป็นพืชที่มีขนาดเล็กเท่ากับดินสอไปจนถึงขนาดใหญ่ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และพื้นที่ในการปลูกแถมยังมีหลายหลายสี ไม่ว่าจะเป็น สีม่วง สีเหลือง และสีส้มที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั้นเอง สำหรับแครอทเป็นพืชผักที่นิยมเอาไปประกอบอาหารทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน โดยเฉพาะกับอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะแครอทอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น เบตาแคโรทีน วิตามินบี 1 , บี 2 วิตามินซี วิตามินอี แคลเซียม ธาตุเหล็ก และประโยชน์อื่น ๆ อีกมายมาย
วิธีการปลูกแครอท
ในการปลูกแครอทนั้นจะนิยมปลูกในแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียกลางเป็นอย่างมาก เพราะมีสภาพอากาศที่เหมาะกับการเจริญเติบโตเป็นอย่างมาก โดยในการลูกแครอทนั้นนอกจากจะปลูกในรูปแบบของเชิงเกษตรแล้ว ยังสามารถปลูกในครัวเรือนเอาไว้กินได้อีกด้วย เพราะเป็นพืชที่ปลูกง่าย ใช้ระยะเวลาในการปลูกประมาณ 50 – 70 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว แต่บางสายพันธุ์อาจจะใช้เวลามากกว่าหรือน้อยกว่าก็นั้นก็ได้ สำหรับวิธีการปลูกก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนในการปลูกแครอท
1. การเตรียมภาชนะในการปลูก
สำหรับขั้นตอนแรกคือ การเตรียมภาชนะในการปลูกก่อน ซึ่งบางครัวเรือนจะมีพื้นที่ในการปลูกที่จำกัด ไม่สามารถปลูกในที่กว้าง ๆ ได้ การหาภาชนะที่เหมาะกับพื้นที่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยภาชนะที่ใช้ควรเลือกภาชนะที่สามารถบรรจุดินที่มีความลึกอย่างน้อย 12 นิ้ว ขึ้นไป เพราะจะทำให้แครอทเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ในการเลือกดินเพื่อปลูกนั้นควรจะเป็นดินที่ร่วนซุย และจะต้องไม่มีก้อนหินหรือดินแข็ง ๆ เพราะอาจจะทำให้แครอทเติบโตผิดรูปหรือไม่สมบูรณ์ในระหว่างการเจริญเติบโต และหากพื้นที่ที่ปลูกมีเนื้อดินที่ค่อนข้างแน่น เป็นดินแข็งก่อนปลูกควรจะผสมทรายก่อน เพื่อช่วยให้ดินร่วนซุยมากขึ้น และสามารถอุ้มน้ำได้ดีมากขึ้นนั่นเอง
2. หว่านเมล็ด
ขั้นตอนที่สอง คือการหว่านเมล็ดในภาชนะที่ปลูก โดยในการปลูกนั้นอาจจะผสมเมล็ดกับทรายซักเล็กน้อยก่อนที่จะนำไปหยอดในหลุมเว้นระยะห่างเท่า ๆ กัน จากนั้นก็หาพลาสติกมาคลุมดินไว้ เพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้น ประมาณ 1 – 2 วัน เมื่อเมล็ดงอกแล้วก็นำพลาสติกออกหรือคุณอาจจะทำการเพาะเมล็ดให้เป็นต้นอ่อน ๆ ก่อนแล้วค่อยนำไปปลูกก็ได้ เพื่อให้มีโอกาสในการงอกมากยิ่งขึ้น ในการปลูกควรจะทำร่องเป็นแถว ๆ ให้ชัดเจน เพื่อความเป็นระเบียบและสามารถเก็บเกี่ยวได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
3. การดูแลรักษา
สำหรับการการขั้นตอนที่สามนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างมาก นั่นก็คือการดูแลรักษา ซึ่งหากดูแลรักษาได้ไม่ดีผลผลิตที่ได้อาจจะไม่มากเท่าที่ควร หรืออาจจะไม่โตหรือตายก่อนที่จะเก็บเกี่ยวก็เป็นได้ ในการปลูกแครอทนั้น ดินควรจะมีความชุ่มชื้นที่พอเหมาะตลอดเวลา ไม่ควรมีดินที่แห้งหรือน้ำชุ่มจนเกินไปและจะต้องไม่มีวัชพืชโดยเด็ดขาด เพราะวัชพืชจะแย้งการดูดซึมสารอาหารทำให้แครอทเจริญเติบโตได้ช้า โดยเฉพาะช่วย 2 – 3 สัปดาห์แรกเป็นช่วงที่สำคัญเพราะแครอทกำลังแตกหน่อ การรดน้ำควรจะรดน้ำให้ทั่วและพยายามรดให้ลงถึงดินลึก ๆ เพื่อให้หัวแครอทดูดซึมน้ำได้อย่างทั่วถึงตั้งแต่ต้นไปจนถึงปลายหัวของแครอท
4. เก็บเกี่ยวผลผลิต
มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่เรารอคอย นั่นก็คือการเก็บผลผลิตที่เจริญเติมโตอย่างเต็มที่แล้ว โดยในการเก็บเกี่ยวนั้นคุณสามารถถอนต้นออกได้เลยทันที หากดินที่ปลูกมีความร่วนซุยและมีความชุ่มชื้นก็จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ง่าย เพียงเท่านี้การปลูกแครอทก็เป็นอันเสร็จสิน
สำหรับการปลูกแครอท ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลาย ๆ คนคิดกัน วิธีการปลูกมีเพียงแค่ 4 ขั้นตอนเท่านั้นก็ได้แครอทที่สด สะอาด และปลอดสารพิษแล้ว และหากได้ผลผลิตที่มากคุณยังสามารถนำไปขายเพื่อเป็นรายได้เสริมได้อีกด้วย
สรรพคุณของแครอท
หากพูดถึงสรรพคุณของแครอทต้องบอกเลยว่าแครอทสรรพคุณเยอะเป็นอย่างมาก ทั้งช่วยในการบำรุงและรักษาสายตา รักษาโรคตาฟาง ต้อกระจก ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง แถมยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยในการชะลอความแก่และการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบไหลเวียนของเลือดได้เป็นอย่างดี และนอกจากสรรพคุณที่เราได้ยกตัวอย่างมานี้แล้ว แครอทยังมีประโยชน์และสรรพคุณอีกมากมายที่เราคาดไม่ถึงเลยก็ว่าได้ แต่ในการกิน แครอทหากจะให้ประโยชน์ครบถ้วนนั้น คุณควรรับประทานควบคู่กับอาหารประเภทอื่น ๆ ให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานให้หลากหลาย ไม่ควรรับประทานซ้ำ ๆ กันทุกวัน เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของแครอท
แครอทประโยชน์สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน อีกทั้งยังสามารถนำมาทำน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพหรือน้ำแครอทเพื่อใช้ดื่มดับกระหายได้ด้วย และนอกจากจะนำมาประกอบอาหารแล้ว แครอทยังสามารถนำมาทำผลิตภัณฑ์เพื่อใช้บำรุงผิวพรรณได้อีก ซึ่งเราจะมักจะเห็นบ่อย ๆ ในเครื่องสำอางค์บางชนิดที่มีส่วนผสมของแครอทเป็นส่วนประกอบ เช่น สบู โลชั่น หรือแม้กระทั้งอาหารเสริมต่าง ๆ ก็ยังมีแครอทเป็นส่วนผสมด้วยเช่นกัน
เป็นอย่างไรบ้างกับแครอทหัวสีส้ม ๆ ทั้งหัวเล็กหัวใหญ่ที่เราคุ้นเคย และรับประทานเป็นประจำนอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์และสรรพคุณมากมายเกินที่เราจะคาดถึง ยิ่งเป็นแครอทที่ปลูกกินเองแล้วละก็ ได้ประโยชน์สูงสุดอย่างแน่นอน เพราะได้แครอทที่สด สะอาด และปลอดสารพิษ 100% และนอกจากประโยชน์ต่าง ๆ ที่เราได้แนะนำแล้ว เรายังมีวิธีทำน้ำแครอทเป็นทริปเล็ก ๆ มาฝากให้ทุกคนได้นำไปลองทำกันดู มีวิธีการทำอย่างไรบ้างนั้น มาดูกัน
วิธีทำน้ำแครอท รับประทานเองที่บ้าน
สำหรับการทำน้ำแครอท ก็ไม่ได้มีวิธีการทำที่ยุ่งยากอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิดกัน จะมีวิธีการทำอย่างไรบ้างนั้นมาดูกัน
1. ขั้นตอนแรก คือการเตรียมวัตถุดิบง่าย ๆ ที่หาได้ในครัวเรือน
– แครอท 1 ผล
– น้ำเชื่อม 1 ถ้วย
– เกลือ 2 ช้อนชา
– น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำต้มสุก 4 ถ้วย
2. เมื่อเตรียมวัตถุดิบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการปอกเปลือกแครอทออกให้หมด ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการปั่น จากนั้นนำแครอทที่หั่นเสร็จใส่โถปั่น ตามด้วยน้ำเชื่อม น้ำต้มสุก น้ำมะนาวและเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ปั่นจนเนื้อละเอียด เพียงแค่นี้ก็ได้น้ำแครอทเอาไว้รับประทานแล้ว แต่หากใครต้องการรับประทานแบบเย็น ๆ คุณสามารถปั่นรวมกับน้ำแข็งด้วยก็ได้เหมือนกัน ได้ทั้งความอร่อย ได้ทั้งประโยชน์จนต้องบอกต่อกันเลยทีเดียว.
ที่มา
https://farm.co.th
https://www.pobpad.com