ปริกหางกระรอก (Foxtail Fern) เป็นพันธุ์ไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ๆ มองโดยภาพรวมจะเหมือนกับหางของกระรอก เป็นไม้พุ่มที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันใช้ในการจัดตกแต่งบ้านและสวน ด้วยทรงพุ่มที่ดูน่ารัก สีเขียวอ่อนทั้งต้นและการปลูกดูแลที่ไม่ยุ่งยาก อีกทั้งถ้าเราดูแลดีก็จะทำให้ได้พุ่มปริกที่สวยสมบูรณ์และอายุยืนมาก ๆ ทำให้หลายคนมองหาต้นไม้ชนิดนี้มาปลูกเป็นไม้ประดับบ้าน โดยนิยมปลูกเป็นไม้กระถางหรือปลูกประดับสวนหย่อม เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับปริกหางกระรอกกัน
ความเป็นมาปริกหางกระรอก
ต้นปริก เดิมทีเป็นพืชพื้นเมืองหรือไม้คลุมดินของแอฟริกาใต้ ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อต้นปริกบ่อยครั้ง แต่น้อยคนจะรู้ว่าพืชชนิดนี้มีหลายชนิดมาก เช่น ปริกไทยหรือปริกน้ำค้าง ปริกหางกระรอกและปริกฮอลแลนด์ แต่จะมีลักษณะร่วมอย่างรูปร่างความยาวของใบหรือขนาดพุ่ม
ข้อมูลทั่วไปของปริกหางกระรอก
ชื่อภาษาอังกฤษ: Foxtail Fern
ชื่อวิทยาศาสตร์: Asparagus sprengeri
ตระกูลพืช: Asperagaceae
ควรปลูกปริกหางกระรอกได้บริเวณใดของบ้าน
ปริกหางกระรอกเป็นไม้พุ่มคลุมดินที่เติบโตค่อนข้างช้าจึงแถบไม่ต้องตัดแต่งทรง ชอบวัสดุปลูกที่ระบายน้ำได้ดีเก็บความชื้น เช่น ดินร่วนปนทราย กาบมะพร้าวสับ สามารถอยู่ได้ทั้งกลางแจ้งและที่ที่มีแสงน้อยลง แต่ต้องให้เวลาปรับตัวกับต้นไมด้วย ให้ถามพ่อค้าแม่ค้าว่าเลี้ยงดูมาแบบไหน ถ้าเลี้ยงในร่มมาแล้ว เราเอามาปลูกกลางแจ้งต้นไม้จะปรับตัวไม่ทัน ให้เริ่มจากค่อย ๆ วางในที่ที่มีแสงมากขึ้นให้ต้นไม่ได้ปรับตัว
ลักษณะโดยทั่วไปของปริกหางกระรอก
สำหรับใครที่สนใจอยากจะปลูกปลิกหางกระรอกแต่อยากรู้ว่าลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นนี้เป็นอย่างไรทางเว็บไซต์ gardeningknowhow ก็ได้อธิบายลักษณะไว้ดังต่อไปนี้
ลำต้น: ปริกหางกระรอก เป็นไม้คลุมดินที่มีลำต้นขนาดเล็กอยู่ใต้ดิน แตกกิ่งก้านและใบเป็นพวงตั้งขึ้นคล้ายหางกระรอก ใบยาวประมาณ 5 – 15 ม.ม. ปลายแหลมค่อนข้างแข็ง สีเขียวสดเป็นมัน ออกข้อละ 3 อัน ส่วนที่โผล่ขึ้นเหนือพื้นดินมีความสูงประมาณ 30-50 ซม. จัดเป็นพืชในตระกูลเดียวกับใบโปร่งฟ้า สามารถเจริญเติบโตขยายกิ่งก้านเป็นกอออกไปเรื่อย ๆ ทางด้านข้าง มีรากใต้ดินขนาดเล็กและอวบน้ำ
ใบ: มีขนาดเล็ก ลักษณะเรียวแหลมคล้ายเข็ม เป็นสีเขียวเข้ม อวบน้ำ แตกออกรอบกิ่งเป็นแท่งทรงกระบอกคล้ายหางกระรอก
ดอก: ดอกออกเป็นช่อแบบช่อกระจะที่ปลายกิ่ง ดอกสีขาวอมชมพู ดอกขนาดเล็ก กลีบเลี้ยงสีเขียว 6 กลีบ กลีบดอก 6 กลีบ รูปไข่ ปลายแหลม แผ่นกลีบหงายออก ก้านชูเกสรเพศผู้ชี้ยาว เห็นอับเรณูสีส้มชัดเจน 6 เกสร เกสรเพศเมียขนาดใหญ่ตรงกลาง
การขยายพันธุ์ปริกหางกระรอก
ทำได้ด้วยวิธีการแยกกอไปปลูก ปริกหางกระรอก เป็นพืชที่เติบโตค่อนข้างช้า ขึ้นได้ดีในดินทั่ว ๆ ไปที่มีความชื้นสูง อุดมสมบูรณ์และระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดดแบบรำไร ทนแล้งได้ดี ต้องการน้ำในปริมาณมาก หากปลูกเลี้ยงไว้กลางแจ้งหรือในสภาพดินที่เหนียวและแข็งก็จะเจริญเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร
วิธีปลูกและดูแลปริกหางกระรอก
แสง
ชอบแดดแบบรำไร ปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่หรือปลูกลงกระถางให้ถูกแสงแดดเล็กน้อยก็กำลังดี อย่าให้ถูกแสงแดดจัดเต็มวันใบจะเหลืองหรืออาจเกิดอาการใบไหม้ได้
น้ำ
เป็นพืชต้องการน้ำในปริมาณมาก รดน้ำอย่างน้อยวันละครั้ง ในหน้าฝนจะเห็นว่าต้นปริกหางกระรอกจะเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น
ดิน
สามารถปลูกด้วยดินทั่วไปแต่ไม่แนะนำให้ปลูกด้วยดินเหนียวที่แข็ง เพราะจะยิ่งทำให้ต้นโตช้าสามารถปลูกในกระถางได้ดี
ปุ๋ย
ปุ๋ยใส่เพียงแค่ 2-3 เดือนครั้ง สามารถใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเคมีได้ด้วยเช่นกัน
ประโยชน์จากการปลูกปริกหางกระรอก
- นิยมปลูกเป็นไม้กระถาง หรือปลูกประดับสวนหย่อม
- ใช้พื้นที่ในการปลูกน้อย เป็นพันธุ์ไม้ที่เหมาะกับผู้ปลูกที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลมากนัก
- ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดินเพื่อตกแต่งสวนให้สวยงามได้
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
How to Grow and Care for Foxtail Fern
Foxtail Asparagus Ferns – Information On The Care Of Foxtail Fern
Foxtail Fern Guide: How to Grow & Care for “Asparagus Densiflorus”