กระหล่ำปลี ภาษาอังกฤษ Cabbage
กระหล่ำปลี ชื่อวิทยาศาสตร์ Cruciferae
ลักษณะกะหล่ำปลี
ในปัจจุบันนี้กะหล่ำปลีได้รับความนิยมในการบริโภคสูงมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสามารถนำไปประกอบอาหารทั้งสุกและดิบได้ รสชาติของกะหล่ำปลีอร่อยรับประทานง่ายทำให้กะหล่ำปลีเป็นที่รู้จักอย่างกันแพร่หลาย กะหล่ำปลีส่วนใหญ่ที่เราพบได้ทั่วไปจะมีลักษณะเป็นหัวกลมๆมีใบเรียงซ้อนๆกันภายในหลายๆชั้น กะหล่ำปลีที่เรานำมาบริโภคกันปัจจุบันนี้คือกะหล่ำปีสีขาวและสีม่วง สายพันธ์หลักๆจะเป็นเช่นพันธุ์โคเปนเฮเกนมาร์เก็ต หรือพันธุ์โกลเดนเอเคอร์ ส่วนกะหล่ำปลีสีม่วงนี้มักจะนิยมนำไปกินกับเมนูสลัดเพื่อเป็นการเพิ่มสีสันให้ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามต้นกำเนิดดังเดิมของต้นกะหล่ำปลีทั้งสองสีนี้มาจากแถบทะเลเมดิเตอเรเนียน หลังจากก็แพร่กระจายไปทั่วโลกและผักกะหล่ำยังจัดเป็นพืชสายพันธุ์เดียวกันกับผักคะน้าและผักกาดขาวที่มีคุณค่าท่างโภชนาการสูงไม่แพ้กันอีกด้วย
วิธีการปลูก
วิธีปลูกกะหล่ำปลีโดยส่วนมากมักนิยมปลูกด้วยการเพาะเมล็ด วิธีการเตรียมเมล็ดที่จะปลูกมาลงในกระบะเพาะชำต้องเป็นดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยธรรมชาติ แกลบ ขุยมะพร้าว ปูนขาว ผสมทั้งหมดให้เข้ากันดีแล้วตักใส่กระบะเพาะชำโดยที่หน้าดินต้องลึกประมาณ 5-8 เซนติเมตร เมื่อทำการเตรียมกระบะเพาะปลูกเสร็จแล้วให้หยอดเมล็ดกะหล่ำปลีลงไปในแต่ละหลุม เทคนิคการหยอดเมล็ดคือจะต้องไม่หยอดเมล็ดจนลึกเกินไปไม่เช่นนั้นอาจจจะทำให้รากเน่าหรือเมล็ดเจริญเติบโตช้า จากนั้นก็ทิ้งไว้ในสถานที่แดดรำไรส่องถึงหมั่นรดน้ำเช้า-เย็น และค่อยตรวจตรากำจัดวัชพืชเป็นประจำ เมื่อผ่านไปประมาณ1-2 สัปดาห์ก็จะพบว่าเมล็ดเริ่มมีงากงอกออกมา เมื่อต้นอ่อนเริ่มงอกสักพักก็ทำการคัดแยกเพื่อนำต้นกล้าไปปลูกต่อในแปลงปลูกจริง
เมื่อได้ต้นกล้าที่สมบูรณ์แล้วก็ย้ายลงไปในแปรงปลูกจริง โดยที่สภาพดินต้องมีความเป็น PH6-6.5 เป็นค่าที่เหมาะสมที่สุด ก่อนหน้านั้นจะต้องเตรียมสถานที่ปลูกกะหล่ำปลีโดยไถหน้าดินให้ร่วนผสมกับปุ๋ยธรรมชาติทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ เมื่อหน้าดินพร้อมปลูกแล้วให้ทำร่องกว้างประมาณ 40 เซนติเมตร X สูง 10 เซนติเมตร ปรับร่องดินให้เสมอกันโคยใช้ที่คาดค่อยๆเกลี่ยหน้าดิน หลังจากนั้นให้นำพลาสติกคลุมหน้าดินเพื่อเป็นการเก็บรักษาความชุ่มชื่นในดิน ป้องกันหญ้าและวัชพืชขึ้น และที่สำคัญช่วยป้องกันโรคที่จะมาติดกะหล่ำปลีเมื่อเวลารดน้ำหรือฝนตก เมื่อคลุมถุงพลาสติกดำแล้วเรียบร้อยแล้วให้ใช้จอบกดดินบริเวณรอบๆร่องให้แน่นๆเพื่อไม่ให้ถุงพลาสติกปลิว มาถึงขั้นตอนการนำต้นกล้าที่เพาะไว้มาลงหลุม เริ่มจากใช้เสียมเจาะเปิดรูจากนั้นให้นำต้นกล้าลงหลุมโดยเว้นระยะห่างระหว่างต้น 40 เซนติเมตร ที่ต้องเว้นระยะในการปลูกเนื่องจากกะหล่ำปลีเมื่อโตเต็มที่จะต้องการพื้นที่ให้มีการบานออกของใบ เมื่อนำต้นกล้าลงหลุมแล้วให้นำดินรอบๆหลุมกดลงไปพอประมาณเป็นการยึดต้นกล้าไม่ให้รากลอยขึ้นมา การให้น้ำระยะแรกควรมีการรดน้ำเช้าเย็นและรดน้ำในปริมาณที่มากเพื่อที่จะป้องกันน้ำระเหยระหว่างวันเพราะประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนตลอดทั้งวัน อีกหนึ่งเทคนิคที่ทำให้ต้นกะหล่ำโตเร็วคือควรหมั่นกำจัดวัชพืชแต่ต้องระวังไม่ให้กระทบกับรากและใส่ปุ๋ยธรรมชาติที่เป็นแหล่งสารอาหารจะทำให้ต้นกะหล่ำปลีเติบได้ดีได้ดียิ่งขึ้น
สรรพคุณของกะหล่ำปลี
- ช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง
- กะหล่ำปลีมีกรดโฟลิกสูงช่วยเสริมสร้างสมองของเด็กและทารก
- ช่วยเสริมสร้างกลูตาไทโอนและช่วยล้างสารพิษในร่างกาย
- ช่วยรักษาและบรรเทาอาการอักเสบของลำไส้และโรคกระเพาะอาหาร
- ช่วยขับปัสสาวะ
- ส่งเสริมภูมิคุ้มกันในร่างการเนื่องจากอุดุมไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด
- บำรุงกระดูกและฟัน
เมนูยอดฮิต
กะหล่ำปลี เมนูยอดฮิตสำหรับหลายบ้านเนื่องจากวัตถุดิบหาง่าย ราคาถูกสามารถประกอบเมนูได้หลากหลายสามารถทานได้ทุกเพศ ทุกวัย เมนูแรกที่นำเสนอคือ
กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
ส่วนผสมประกอบไปด้วย
กะหล่ำปลี 1 หัว
กระเทียม 4-7 กลีบ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำกะหล่ำปลีไปล้างทำความสะอาดหั่นเป็นชิ้นพอทาน
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชรอให้กระทะร้อน
- น้ำกระเทียมที่เตรียมไว้ไปทุบแล้วนำไปผัดให้เริ่มมีกลิ่นหอม
- เมื่อกระเทียมเริ่มมีกลิ่นหอม นำกะหล่ำปลีลงไปผัดจนเริ่มนิ่ม จากนั้นก็ใส่น้ำปลาและน้ำมันหอยปรุงรส
- ตักใส่จานแนะนำว่าทานคู่กับข้าวสวยจะทำให้กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาอร่อยมากยิ่งขึ้น
เมนูแกงจืดกะหล่ำปลีห่อหมูสับ
ส่วนผสมประกอบไปด้วย
น้ำซุป 4 ถ้วยตวง
กะหล่ำปลี 1 หัว
เห็ดหอม 4-6 ลูก
ผงปรุงรส 2 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนชา
แครอท 1 หัว
กระเทียม 5 กลีบ
พริกไทย 1 ช้อนชา
รากผักชี 2 ราก
ต้นหอม 1 กำ
วิธีทำ
- นำกะหล่ำปลีที่ทำความสะอาดแล้วมาแกะใบออกทีละใบนำไปลวกน้ำร้อน เพื่อที่จะห่อหมูได้ง่ายขึ้น
- หมักหมูด้วยการใส่กระเทียม พริกไทย รากผักชี เพิ่มเครื่องปรุงรส หมักหมูทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที
- นำหมูที่หมักไว้ตักวางห่อในใบกะหล่ำมัดด้วยต้นหอมจัดขนาดให้พอดีคำ
- นำหมูที่ห่อกะหล่ำลงไปต้มในน้ำซุปที่เตรียมไว้ เพิ่มเติมส่วนผสมด้วยเห็ดหอม แครอท เพิ่มรสด้วยเกลือ รอสุกประมาณ 15 นาที
- เมื่อสุกแล้วนำตักใส่จานโรยหน้าตกแต่งด้วยต้นหอมเป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมรับประทาน.
ที่มา
https://www.technologychaoban.com