ฮาโวเทีย (Haworthia) พันธุ์พืชชนิดหนึ่งที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมกันในหมู่นักสะสมไม้อวบน้ำ มีหลายสายพันธุ์ที่มีจุดเด่งไม่ซ้ำกัน และนั้นเป็นจุดแข็งของพันธุ์พืชเหล่านี้เลย ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีการนำเข้ามาเลี้ยงได้สักพักใหญ่ แต่จะหาคนหรือผู้เชี่ยวชาญในการปลูกฮาโวเทีย ให้ต้นโตสีสวยงาม และที่สำคัญ “เลี้ยงยังไงไม่ให้ตาย” เป็นประเด็นหลักของนักสะสมไม้อวบน้ำที่พบเจอกันบ่อยมาก ซึ่งมันไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีสักเท่าไร เพราะต้นฮาโวเทีย ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้อวบน้ำที่มีราคาแพง และถ้าเราทำมันตายทั้งที่ยังซื้อมาไม่ถึง 3 เดือน คงรู้สึกเสียดายเงินแย่เลย
ในปัจจุบันมีผู้เล่น นักสะสม หรือ ผู้ชื้นชอบการปลูกต้นฮาโวเทียมากขึ้น และได้ปลูกเพื่อการซื้อก็มาก แต่ราคาก็ไม่ได้ลดลงเลย และยังคงมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้แปลกและสวยงามมากขึ้น เช่น การพัฒนาสายพันธุ์ฮาโวเทียในประเทศญี่ปุ๋น ถือเป็นประเทศต้นๆที่มีการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ฮาโวเทียจนได้รับการยอมรับในระดับสากล และขอบอกเลยว่าแต่ละต้นที่ถูกพัฒนาออกมาใหม่นั้นราคาไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นเลยทีเดียว ในกลุ่มฮาโวเทียนั้นมีสายพันธุ์ที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาปลูกกัน วันนี้ kaset.today จึงอยากจะมาแนะนำสายพันธุ์ของฮาโวเทียที่คุณควรรู้จัก และสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องลองปลูก เราได้ศึกษาวิธีการปลูก การดูแล และเคล็ดลับดีๆจากคนที่เชียวชาญในการปลูกฮาโวเทียที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย หากคุณอยากเป็น 1 ใน 100 คนที่สามารถปลูกฮาโวเทียไม่ตายจนสามารถสร้างรายได้หลักแสนได้ คุณก็ต้องอ่านให้จบ
ข้อมูลทั่วไปของฮาโวเทีย
ชื่อภาษาอังกฤษ : Haworthia
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Haworthia cooperi Bak var. truncata – แบบหยดน้ำ (ฮาโวเทียมีหลายสายพันธุ์ ดังนั้นชื่อวิทยาศาสตร์จึงมีหลายชื่อ)
ชื่อวงศ์ : Asphodelaceae ซึ่งเป็นจำพวกเดียวกับ Aloe หรือว่านหางจระเข้
ชื่อสกุล : Haworthia; Duval
ถิ่นกำเนิดของฮาโวเทีย
เป็นพืชในกลุ่ม ไม้อวบน้ำ (Succulent Plants) ที่มีขนาดเล็ก แหล่งกำเนิดอยู่ที่ทวีปแอฟริกาตอนใต้ ในประเทศดังต่อไปนี้ ได้แก่ โมซัมบิก (Mozambique) นามิเบีย (Namibia) เลโซโท (Lesotho) เอสวาตินี (Eswatini) และ แอฟริกาใต้ (South Africa)
และโดยปกติแล้วถ้าเราได้ไปต่างประเทศและมีโอกาสได้เห็น ฮาโวเทียที่ขึ้นเองในธรรมชาติ เราคงจะตกใจ เพราะสถานที่ ที่พวกมันเจริญเติบโต ดูแตกต่างจากที่เรานำฮาโวเทียไปเลี้ยงมาก โดยในธรรมชาติฮาโวเทียจะพ้นโผล่ดินออกมาแค่ผิวใบด้านบน แต่ตัวลำต้นนั้นถูกฝังอยู่ในดิน ซึ่งถ้าไม่สังเกตุดีก็จะไม่เห็น หรือถ้าเห็นก็ต้องเป็นสายพันธุ์ที่มีสีแดงหรือส้มเหลือง ที่จะสามารถเห็นได้ชัดเจน
ลักษณะทั่วไป
ต้นฮาโวเทีย จัดเป็นหนึ่งในกลุ่มของไม้อวบน้ำ โดยทางพฤกษศาสตร์ของพืชกลุ่มนี้กล่าวว่า เป็นพืชที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น แทบทุกสัดส่วนของต้นและลำต้นจะอวบอิ่มไม่แข็ง คือจะอ่อนผสมนิ่ม เพราะในเนื้อเยื่อของต้นหล่อเลี้ยงไปด้วยน้ำเป็นจำนวนมากมาย ซึ่งก็คงตรงกับคำ “Succulent” ที่มาจากภาษาละตินว่า “Succos” อันหมายถึง น้ำผลไม้หรือน้ำหล่อเลี้ยง
แล้วแหล่งข้อมูลแหล่งในต่างประเทศที่ได้ให้ความรู้เพิ่มเติมอีกว่า พืชชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในพื้นที่ที่มีหิมะปกคลุมและในทะเลทรายรวมไปถึงพื้นที่ในเขตร้อนอย่างทวีปอเมริกาใต้ และทางตอนใต้กับตะวันออกของทวีปแอฟริกา
สายพันธุ์ของฮาวาเทียที่นิยม
เราจะมาทำความรู้จักกับกลุ่มสายพันธุ์ของฮาโวเทียที่นิยมปลูก และเก็บสะสมกัน มีรูปร่างสีสันที่หลากหลายจนคุณต้องอยากเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน
- Haworthia Cymbiformis หรือชื่อรู้จักกันทั่วไป คือ “บัวแก้ว” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Haworthia Cymbiformis (Haw.) Duval โดย ต้นฮาโวเทีย ชนิดนี้จะมีลักษณะของต้นแผ่รัศมีและสั้น ส่วนที่เป็นใบจะอวบปนหนาในลักษณะเรียงเวียนและมีสีเขียวอ่อนๆ
- Haworthia Cooperi หรือรู้จักกันดีในนาม “หยดน้ำ” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Haworthia Cooeri Bak var. Truncata ซึ่งลักษณะของชนิดนี้จะมีใบค่อนข้างสั้นกลมมนกับเรียงตัวซ้อนๆ กันเหมือนกลีบกุหลาบ แล้วส่วนใบจะใสมีประกายคล้ายหยดน้ำ สีก็จะมีหลายสี อาทิ สีเขียว สีดำ ชมพูอมเขียวหรือสีด่าง เป็นต้น
- Haworthia Fasciata, Haworthia attenuata, Haworthia maxima, Haworthia pumila หรืออีกชื่อเรียก “ม้าลาย” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Haworthia Fasciata (Willd.) Haw. ชนิดนี้จะมีลักษณะของต้นแผ่ออก ใบจะเรียวยาวกับเรียงเวียน และมีสีเขียวค่อนข้างเข้ม แล้วก็จะมีแถบสีขาวพาดออกเป็นแนวขวาง
- Haworthia Trungata, Haworthia maughanii, Haworthia Correcta หรือ “ม้าตัด” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Harworthia Truncata Schönland ต้นฮาโวเทียชนิดนี้จะมีลักษณะของต้นเป็นพุ่มแผ่ออก ใบหนาๆ สากคาย มีสีเขียวเข้ม ปลายใบจะตัดและมีริ้วสีขาว
การปลูกและดูแลต้นฮาวาเทีย
การปลูก
- แสงแดด
ต้องการแดดรำไร สามารถรับแสงแดดได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ต้องมีสแลนกางบังแสงไว้ หรือถ้าปลูกในห้องก็ต้องการแสงไฟประมาณ 12,000 LUX
- น้ำ
ฮาโวเทียชอบการรดน้ำแบบชื้นๆแต่ไม่แฉะ สามารถให้ 2-3 วันครั้งได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
- ดิน
ต้องเป็นดินโปร่ง อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก
- ปุ๋ย
แนะนำให้เป็นปุ๋ยที่มาจากซากพืชซากสัตว์ ไม่ต้องบำรุงมาก เพราะธรรมชาติฮาโวเทียเกิดในดินทรายไม่จำเป็นต้องการสารอาหารมากเกินไป
การดูแล
ต้นฮาโวเทียตามธรรมชาตินั้นเกิดและอาศัยในดินทราย มีความแห้งแล้ง และเกือบจะนับว่าเป็นพืชที่ขึ้นบนผิวดิน มีลำต้นใต้ดิน และมีเพียงผิวใบที่โผล่ขึ้นมาเท่านั้น
แต่ในปัจจุบันคนนิยมนำมาเลี้ยงเป็นไม้ประดับและยังนำมาสร้างรายได้อีกด้วย เพราะลักษณ์และสีสันหลากหลาย และยังมีสายพันธู์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอีกในภายหลังซึ่งมีราคาหลายหมื่นบาท นั้นทำให้เราต้องรู้วิธีการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสมที่จะเลี้ยงในประเทศไทย ประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น ซึ่งเราไม่สามารถที่จะเอาวิธีเลี้ยงฮาโวเทียในฝั่นยุโรป หรือญี่ปุ่น จีน เกาหลี มาปรับใช้ได้
นั้นทำให้ Kaset today ไปศึกษาข้อมูลดีเพื่อมาบอกเล่าแก่นักอ่านทุกคน และไปเจอกับบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในการปลูกฮาโวเทีย และในกลุ่มคนที่เล่นและสะสมไม้ชนิดนี้นั้นก็ต้องรู้จักกับ คุณวิเชียร จันทร์จิระ (นักสะสมฮาโวเทีย) หรือ ตำนานฮาโวเทียในเมืองไทย ซึ่งได้กล่าวถึงเคล็ดลับดีๆ มาบอกเล่ากัน
สูตรดินฮาโวเทีย ทำแล้วรอดแน่นอน
- Pumice หินภูเขาไฟ เบอร์ 00
- Kanuma (ก้อนดินเม็ดเล็กๆสีน้ำตาลอ่อนๆ)
- เปลือกสน หรือ เปลือกสนแดง
- Perlite ที่เป็นสีขาว
- มูลไส้เดือน นิดเดียวๆพอให้มีสารอาหาร
เกร็ดความรู้ ! หลีกเลี่ยงการใช้ Vermiculite เนื่องจากส่วนผสมนี้จะทำให้ฮาโวเทียทิ้งรากเพราะ Vermiculite อุ้มน้ำสูงมาก แต่ถ้าจะใส่ Vermiculite นั้นแปลว่าคุณต้องเลี้ยงฮาโวเทียในระบบปิด มีการเปิดแอร์ตลอดเวลา และอากาศต้องเย็น เพื่อเป็นการเก็บความชุ่มชื้นในดิน แต่ถ้าคุณจะใส่ Vermiculite และเลี้ยงแบบระบบเปิด คุณต้องแน่ใจว่าจุดนั้นมีลมพัดผ่านตลอดเวลา และต้องเป็นลมเย็นเท่านั้น
สถานที่เลี้ยง
สถานที่เลี้ยงถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ปลูกฮาโวเทียควรรู้ เพราะมันจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะบอกได้ว่าฮาโวเทียของคุณต้องอยู่ได้นานแค่ไหน และฮาโวเทียตามธรรมชาติมันจะเจริญเติมโตในที่โล้งแจ้งอากาศถ่ายเทสะดวก แต่โล่งแจ้งในที่นี้หมายถึงไม่มีต้องไม้ใหญ่ แต่ขะเป็นก้องหินใหญ่ พงหญ้าแห้งสูงๆ หรือซอกหลืบหินที่มีการทับถมของอินทรีย์วัตถุและดินทราย
โดยฮาโวเทียมักจะอยู่ใต่ร่มไม้ที่สูงกว่าตัวเอง ไม่ชอบโดยแสงแดดโดยตรง ขอแสงเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ก็เพียงพอแล้ว เป็นไม้ที่ชอบดินโปร่งเย็นแห้งพอมีความชื้น แต่วันนี้เรามีข้อมูลการเลี้ยงในโรงเรือนหรือห้องปิด ซึ่งก็มีข้อดีหลายอย่างคือ ป้องกันมด แมลง ควบคุมความชื้นสัมพันธ์ได้ง่ายกว่าปลูกข้างนอก โดยคุณวิเชียร จันทร์จิระ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยสำคัญในโรงเรือนดังนี้
1. แสงไฟสำหรับเลี้ยง
- Fluorescent ธรรมดา ช่วยได้ระดับหนึ่ง
- Gizman หลอดเยอรมัน ช่วยได้ระดับหนึ่ง
- LED ธรรมดา ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่สีของต้นไม้จะยังไม่ค่อยสวย
- LED-RGB เป็นหลอดไฟที่เน้นสี Green Blue Red และเมื่อผสมกันจะได้สีขาว ซึ่งเป็นไฟที่ใช้เลี้ยงต้นไม้โดยเฉพาะ เพราะมีสีเหมือนไฟธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งควรใช้ไฟแบบนี้ในการเลี้ยงต้นไม้ และควรตั้งห่างจากต้นไม้ 70-80 เซนติเมตร เปิด 12-14 ชั่วโมง
2. ความชื้นสัมพันธ์ที่เหมาะสมในระบบปิด
สำหรับใครที่เปิดแอร์ที่อุณหภูมิที่ 25 องศาเซลเซียล ในโรงเรือนแบบปิดนั้นอาจจะทำให้ดินที่ปลูกฮาโวเทียแห้งได้ และอากาศในห้องก็จะแห้งเช่นเดียวกัน คุณวิเชียร จึงแนะนำให้รดน้ำให้ชุ่ม หรือ เปิดพัดลมพ้นหมอกในห้อง ก็จะทำให้อากาศมีความชื้นมากขึ้น
- อุณหภูมิ 24-25 องศา ความชื้นสัมพันธ์จะลดลงทันที นั้นอาจทำให้ดินและต้นขาดน้ำ หรืออากาศแห้งเกินไป
- อุณหภูมิ 25 องศาขึ้นไป ความชื้นสัมพันธ์จะสูงขึ้น ความชื้นในดินก็จะพอดี อากาศจะไม้แห้งเกินไป และฮาโวเทียสามารถทนความร้อยได้ระดับหนึ่ง
สิ่งที่ไม่ควรทำ ! ไม่ควรปิดแอร์ในโรงเฉพาะชำ หรือ อุณหภูมิห้องพุ่งสูงเกิน 30 องศา โดยไม่มีการไหลเวียนอากาศเข้าออก เพราะนั้นจะเป็นเหมือนการอบไอน้ำให้กับฮาโวเทีย ทำให้อาโวเทียทิ้งรากและตายได้ พยายามรักษาอากาศให้เย็นสบาย อากาศถ่ายเท และ ดินชุ่มชื้นตลอดเวลา โดยอาจใช้พัดลมพ้นหมอกช่วยได้
ปัญหาที่พบจากฮาโวเทีย
- ปัญหาทิ้งราก
เกิดจากการอบอ้าวของอากาศ มีความชื้นมากเกินไป อาการรากเน่ารากแห้ง เพราะรากที่เน่าและแห้งเป็นแหล่งของโรค และต้นฮาโวเทียก็จะตายในที่สุด ดังนั้น ดินโปร่ง ความชื้นสัมพันธ์เหมาะสม อากาศเย็นและถ่ายเท เป็นคำที่คุณต้องเข้าใจและปรับใช้ให้ได้
- ปัญหาการเน่าถึงแกน
ปัญหานี้เกิดได้หลายทาง เช่น เกิดจากการรดน้ำแล้วน้ำเข้าไปขังในกาบใบด้านใน และรวมกับอากาศไม่ถ่ายเท ทำให้เกิดการเน่าแล้วลามไปถึงแกนด้านใน ซึ่งในวงการเราจะเรียกว่า เน่าจากยอดลงแกนกลาง เน่าจากโคนใบเข้าแกนกลาง คุณสามารถแก้โดยการตัดสิ่งที่เน่าออกแล้วนำปูนแดง ที่ไว้กินหมากมาทาไว้ในแห้ง หรือ ถ้าเป็นการเน่าจากโคน คุณต้องเอาต้นออกจากดิน แล้วเอามีดหรือมีดผ่าตัดที่มีปลายมีดแหลมยาว ค่อยๆตัดเนื้อที่เน่าออกหรือโคนใบที่เริ่มนิ่มๆออก แล้วใช้ปูนแดงผิดแผลไว้ แล้วอย่าพึ่งลงดิน รอให้แผลแห้ง แล้ว เอาต้นไปควบแน่นในกล่องใสเพื่อรักษาความชื้นให้รากงอกก่อนแล้วค่อยเอาไปลงดิน
ฮาโวเทียขยายพันธุ์อย่างไร
- แตกหน่อ คือ การรอแตกหน่อจากต้นแม่แล้วแงะหน่อแล้วเอาไปชำเป็นต้นใหม่
- การเฉอะ คือ การเอาด้ายสอดผ่านช่อเกือบล่างสุดแล้วดึงออกมา วิธีนี้ก็จะได้ ต้นใหม่ 1 ต้น แล้วก็จะได้ต้นบริเวณฐานอีกหลายต้น ถือเป็นวิธีที่ได้ประโยชน์มาก แต่! ไม่แนะนำมือใหม่ ควรให้คนที่ชำนาญหรือมีประสบการณ์ทำเท่านั้น
- การวางใบ เป็นวิธีง่ายที่สุดและปลอดภัย มือใหม่นิยมใช้วิธีนี้ เพราะสะดวก และแน่ใจว่าต้นแม่จะไม่ตายแน่นอน
สร้างรายได้จากฮาโวเทีย
ในปัจจุบันมีหลายคนเปลี่ยนอาชีพมาขายต้นไม้กันมากขึ้นโดยเฉพาะช่วยโควิด และไม้ที่ยังคงเป็นที่นิยมและสามารถขายได้ราคาดีอย่าง “ฮาโวเทีย” เป็นเป็นไม้อวบน้ำที่ต้องจับตามอง และยังบอกได้เต็มปากว่ามันสามารถสร้างรายได้หลักแสนให้กับคุณได้แน่นอน
เนื่องจากฮาโวเทียเป็นไม้นำเข้าจึงเป็นการผลักราคาให้สูงขึ้นไปอีก และหากใครทำธุรกิจนำเข้าไม้นอกเข้ามา ก็เป็นอาชีพที่น่าสนใจ เมื่อคุณมีความสนใจฮาโวเทียและคุณสามารถเพาะปลูกเองได้ นั้นจะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับคุณ โดยสิ่งที่คุณอาจจะต้องลงทุนในปีแรก คือ การลงทุนเวลาในการเรียนรู้ หาตลาดนำเข้าและส่งออก หรือจะเป็นตลาดในประเทศเรา เพื่อหาช่องทางให้สินค้าของเราไปสู่ผู้ซื้อได้มากที่สุด และ การลงทุนเกี่ยวกับสถานที่เพาะเลี้ยงเช่นโรงเรือน อุปกรณ์การปลูก และถ้าคุณสามารถทำสองอย่างนี้ได้ดี อนาคตในการขายฮาโวเทียก็ไม่ยากเกินเอื่อม
ราคาฮาโวเทีย
ฮาโวเทียที่ขายในประเทศไทยมีให้เลือกหลากหลายราคาขึ้นอยู๋กับสายพันธุ์ว่าสามารถเพาะเลี้ยงได้ง่ายหรือยาก และอาจจะมีราคาสูงเพราะเป็นไม้นำเข้า ซึ่งตลาดที่เราสามารถไปเดินดูและสามารถหาซื้อได้ในราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่น มีตลาดนัดจตุจักร ทุกวันอังคาร-วันพฤหัสบดี หรือจะเป็นตลาดออนไลน์ในเพจเฟสบุ๊ค แต่ทางที่ดีเราแนะนำให้คุยและซื้อกับคนที่ปลูกและขยายพันธุ์เอง เป็นร้านที่น่าเชื่อถือ เพราะคุณจะสามารถสอบถามและวิธีการดูแลจากเขาได้โดยตรง
หลักจากที่ได้ทำความรู้จักกับฮาโวเทียแล้ว เรามั่นใจว่าคุณจะมีความรู้ดีๆ ไปต่อยอดในธุรกิจของคุณหรือหากใครที่กำลังเลี้ยงหรือมองหาฮาโวเทีย มาปลูก คุณก็จะสามารถเลี้ยงและดูแลต้นไม้ของคุณให้อยู่กับคุณไปได้อีกนาน แต่นอกจากฮาโวเทียแล้ว Kaset today ก็มีพันธุ์พืชอีกชนิดที่จัดอยู่ในไม้อวบน้ำที่คุณก็ต้องชอบอย่างแน่นอน คือ กุหลาบหินที่มีหลากหลายสีและลักษณะที่ไม่ซ้ำกัน เราอยากให้คุณลองเปิดใจรับพวกเขามาเลี้ยง แล้วคุณจะรู้ว่า การปลูกฮาโวเทีย และกุหลาบหินไม่ได้เป็นเรื่องที่ยาก
และหากคุณยังสนใจในพันธุ์ไม้ พันธุ์พืช ดอกไม้ สมุนไพร โรคพืช แมลงศัตรูพืช หรือ ผักสวนครัว เราก็มีบทความดีๆที่อยากจะนำเสนอทุกคน และมีบทความเกี่ยวกับปศุสัตว์ที่ต้องนี้กำลังเป็นที่สนใจเกี่ยวกับการเลี้ยงปลาสวยงามเพื่อการขาย เราหวังว่าคุณจะสนุกกับเนื้อหาอัดแน่นจัดเต็มที่ทางเรามาเสิร์ฟให้ถึงที่
แหล่งอ้างอิง
คุณวิเชียร จันทร์จิระ (นักสะสมฮาโวเทีย) by Tasson Craft Garden