บอนกระดาด บอนใบใหญ่ยักษ์ ประดับบ้านเสริมฮวงจุ้ย

ชื่อสามัญ หรือชื่อภาษาอังกฤษ Elephant ear, Giant taro, Ape, Ear elephant, Giant alocasia, Pai

ชื่อวิทยาศาสตร์ Alocasia macrorrhizos (L.) G.Don

ชื่อวงศ์ ARACEAE

ชื่ออื่น ๆ กระดาดดำ (กาญจนบุรี), กระดาดแดง (กรุงเทพฯ), บึมบื้อ (เชียงใหม่), บอนกาวี เอาะลาย (ยะลา), โหรา (สงลา), คือ โทป๊ะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), เผือกกะลา มันโทป้าด (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน), กลาดีบูเก๊าะ (มลายู-ยะลา) เป็นต้น ส่วนข้อมูลอื่นระบุว่ามีชื่อว่า กระดาดเขียว, กระดาดขาว, บอนเขียว

บอนกระดาดมีกี่ชนิด
www.sanook.com

บอนกระดาด เป็นพืชล้มลุก มีลักษณะใกล้เคียงบอน มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มักขึ้นในที่ที่มีอากาศชื้น มีแสงแดดรำไร พบกระจายพันธุ์ในเขตร้อนทั่วไป ในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ บอนกระดาดมีเหง้าทอดไปตามพื้นดิน มีหัวอยู่ใต้ดิน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด แยกหน่อและไหล บอนกระดาดเป็นบอนขนาดใหญ่ นิยมนำมาปลูกประดับสวนตกแต่งบ้านหรือปลูกเป็นไม้กระถาง เป็นบอนที่ปลูกง่ายโตไว กระดาดเป็นบอนที่มีความโดดเด่นตรงใบที่มีขนาดใหญ่ยักษ์มาก หากโตเต็มที่เรียกได้ว่าใช้บังแดดบังฝนกันได้สบาย ๆ สามารถสูงได้ถึงบ้านชั้นสองเลย ใบมีสีเขียวสวยสด จะปลูกในบ้านหรือตกแต่งร้านก็ดูสวยสะดุดตา และมีความเชื่อว่าสามารถเสริมฮวงจุ้ยได้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยา มีสรรพคุณกัดฝาแผลหนอง สมานแผล ฆ่าพยาธิภายนอกได้

ความเชื่อเกี่ยวกับบอนกระดาด

เป็นไม้มงคลนิยมปลูกไว้ทางทิศตะวันออกจะเสริมดวงมงคลคนอาชีพเกษตรกร และคนธาตุไม้มีความกล้าคิดกล้าทำ ก้าวร้าว ชอบวางแผน มีความต้องการความสำเร็จสูง ควบคุมอารมณ์โกรธแบบเฉียบพลันไม่ได้ ฉะนั้นใครพูดเสียงดังฟังชัด แสดงสีหน้าชัดเจนเมื่อมีอาการเหนื่อยล้า มีความเชื่อมั่นสูงและตัดสินใจเร็วและคนธาตุไฟ มีความสนุกสนาน ผสมอารมณ์เศร้า สีผิวมักจะออกสีแดง ไม่ชอบอากาศหนาว แสดงอารมณ์ตกใจชัดเจน เมื่อตนเองได้รับความสนใจจะรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าชอบให้คนสรรเสริญชอบอาศัยผู้อื่น อ่อนล้าแบบคนขี้เกียจ มีกลิ่นตัวคล้ายกลิ่นไหม้ ควรเลือกปลูกบอนกระดาดไว้เสริมฮวงจุ้ย

ควรปลูกบริเวณใดของบ้าน

นิยมปลูกในกระถาง วางไว้ในจุดที่มีความชื้นอยู่ตลอด และมีแสงแดดรำไร

บอนกระดาด ความเชื่อ

ลักษณะทั่วไป

  • ลำต้นบอนกระดาด
    เป็นไม้ล้มลุก มีเหง้าทอดไปตามพื้นดิน ลำต้นตั้งตรง และมีความสูงได้มากกว่า 1 เมตรจนถึง 2 เมตร ลำต้นสั้นและเป็นสีม่วงปนสีน้ำตาล มีหัวอยู่ใต้ดิน
  • ใบบอนกระดาด
    ใบเป็นใบเดี่ยว ออกจากหัวใต้ดิน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่แกมรูปหัวใจ ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบเว้าลึก ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นแบบห่าง ๆ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 25-60 เซนติเมตรและยาวประมาณ 30-90 เซนติเมตร หลังใบเรียบเป็นสีเขียวและเป็นมันลื่น ส่วนท้องใบเรียบ มีเส้นแขนงของใบอยู่ข้างละประมาณ 5-7 เส้น ส่วนก้านใบใหญ่และเป็นสีม่วงปนสีน้ำตาล ยาวประมาณ 1.2-1.5 เมตร
  • ดอกบอนกระดาด
    ออกดอกเป็นช่อ ช่อมีลักษณะเป็นแท่งยาวปลายแหลม (ลักษณะคล้ายกับดอกบอน) ออกตรงกลางต้น มีความยาวประมาณ 11-23 เซนติเมตร ส่วนก้านช่อดอกเล็ก ยาวประมาณ 25-50 เซนติเมตร ดอกมีกาบสีเหลืองอมสีเขียวหุ้มอยู่ ส่วนโคนของกาบโอบรอบโคนของช่อ ช่อดอกจะประกอบไปด้วยดอกเพศผู้อยู่ที่บริเวณส่วนบน มีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ส่วนดอกเพศเมียจะอยู่บริเวณโคนช่อ มีความยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ซึ่งดอกจะเป็นแบบแยกเพศอยู่ในช่อเดียวกัน ดอกเพศผู้จะมีจำนวนมากกว่าดอกเพศเมีย และระหว่างดอกเพศผู้และดอกเพศเมียคอดยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ส่วนปลายเป็นส่วนที่ไม่มีดอก จะยาวประมาณ 6.7-13 เซนติเมตร ปลายมน ดอกเพศเมียจะมีรังไข่ 1 ช่อง และมีออวุลอยู่ 3-5 เม็ด ยอดเกสรเพศเมียจะมีลักษณะเป็นรูปหกเหลี่ยมตัด มีความกว้างประมาณ 1 มิลลิเมตร โดยดอกเพศผู้จะสั้นกว่าและกว้างกว่าดอกเพศเมีย ค่อนข้างแบนทางด้านข้าง
  • ผลบอนกระดาด
    ผลเป็นผลสด ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมและมีขนาดเล็ก (บ้างว่าเป็นรูปไข่กลีบ) โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของผลประมาณ 0.8-1.2 เซนติเมตร เนื้อในผลนุ่มสีแดงและมีเมล็ดแข็งอยู่ 1 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมและเป็นสีดำ

วิธีการปลูก

เตรียมดิน ขุดหลุมกว้าง x ยาว x สูง = 30 x 30 x 30 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก โดยขุดห่างกัน 1.5 – 2 เมตร เมื่อต้นกล้าอายุได้ 3-6 เดือน รากเติบโตดี นำปลูกลงในหลุมที่เตรียมไว้ กลบดินให้แน่น แต่ไม่ต้องกลบเต็มหลุม ให้มีน้ำขังเล็กน้อย ให้ปุ๋ยได้เมื่อปลูก 2-3 เดือน รดน้ำบอนกระดาดให้ชุ่มอยู่เสมอ เมื่อต้องการขุดเหง้าบอนกระดาด ควรใส่ถุงมือ เพราะยางจะทำให้คันมาก

บอนกระดาด การปลูก

วิธีการขยายพันธุ์

ขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอ การเพาะเมล็ด และการขยายพันธุ์ด้วยเหง้าหรือเรียกว่าไข่บอนกระดาด วิธีที่นิยมคือการขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอ มีวิธีการง่าย ๆ คือ แยกต้นที่งอกออกมาจากต้นแม่ออก ใช้ปูนแดงทาทั้งต้นแม่และต้นที่แยกออกมา หลังจากนั้นจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับปลูก โดยเตรียมดินและกากมะพร้าวเพื่อรองก้นกระถาง นำกากมะพร้าวลง โดยนำใส่ลงไปประมาณ 1 ส่วน 4 ของกระถางเพื่อให้อุ้มน้ำ หลังจากนั้นนำดินลงประมาณ 3 ส่วน 4 ของกระถาง แล้วนำบอนกระดาดที่แยกออกมาจากต้นแม่ลง ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักกลบอีกครั้ง แล้วรดน้ำทุกวัน

วิธีการดูแล

ปลูกด้วยดินเหนียวหรือดินร่วน เป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก รดน้ำให้มีน้ำขังเล็กน้อยและรดน้ำให้มีความชุ่มชื่นอยู่เสมอ ควรปลูกในที่แดดรำไร ให้ปุ๋ยชนิดละลายช้า

บอนกระดาด ดูแล

ประโยชน์และสรรพคุณ

นิยมนำมาปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับในกระถางได้ อีกทั้งยังช่วยดูดซับความชื้นได้เป็นอย่างดี และยังเป็นพืชที่ทำให้เกิดแหล่งน้ำ เช่น น้ำตก อีกด้วย เหง้าต้มให้สุกสามารถใช้รับประทานได้ หรือจะใช้สำหรับใส่แกงก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางสมุนไพรอีกมากมาย เช่น น้ำจากก้านใบมีรสเย็น ใช้กินแก้อาการไอ ต้น ราก เหง้าใช้เป็นยาระบายแบบอ่อน ๆ โดยนำมาต้มกินเป็นยา ใช้เป็นยาถ่ายชนิดอุจจาระเป็นพรรดึก ยาต้มจากใบใช้กินแก้อาการท้องผูก ไหลใช้กินเป็นยาขับพยาธิ รากหรือเหง้ามีรสเย็นและจืด ใช้ต้มกินเป็นยาขับปัสสาวะ ใบใช้เป็นยาฝาดสมาน ช่วยห้ามเลือด หัวมีรสเมาเย็น นำมาโขลกใช้พอกรักษาแผลที่เป็นหนอง ใบมีรสเย็น ช่วยแก้อาการอักเสบที่ข้อทำให้บวมแดง รากใช้ทาแก้พิษของแมงป่อง

พิษของบอนกระดาด

บอนกระดาดมีสารจำพวกเรซินและ Protoanemonine ซึ่งเป็นพิษ และยังมีแคลเซียมออกซาเลต (Calcium oxalate) อีกมาก ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังบวมแดง

ราคาบอนกระดาด

บอนกระดาดโดยทั่วไปที่ไม่ได้มีลักษณะด่างจะขายเหง้าอยู่ที่หัวละ 30-50 บาท

บอนกระดาด ราคา

แหล่งอ้างอิง

arit.kpru.ac.th
eto.ku.ac.th

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้