5 ขั้นตอนง่าย ๆ ปลูกผักสลัดลงดินด้วยตัวเอง

Facebook

เอาใจคนรักสุขภาพกันบ้างดีกว่า ใครที่อยากกินผักสด ๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และปราศจากสารเคมีทั้งหลายแล้วล่ะก็ อยากแนะนำให้ปลูกผักสลัดด้วยตัวเองเลย การปลูกผักสลัดไม่ยากอย่างที่หลายคนคิด ปลูกง่าย ดูแลง่าย ใช้พื้นที่นิดเดียว แค่มีพื้นที่ว่าง ๆ ก็สามารถสร้างความคุ้มค่าได้ แถมใช้เวลาไม่นานเราก็จะได้กินผักสด ๆ กรอบ ๆ ที่ปลูกด้วยมือเราเองแล้ว โดยเฉพาะในยุคนี้ที่คนเราหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น การมีผักสลัดไว้ใกล้ตัวนั้น นอกจากกินสด ๆ แล้ว ยังสามารถเด็ดมาทำอาหารได้ง่าย ๆ ทำได้หลายอย่าง เห็นประโยชน์มากมายขนาดนี้แล้ว เรามาเริ่มกันเลยดีกว่ากับ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ปลูกผักสลัดลงดินด้วยตัวเอง  

วิธีปลูกผักสลัดลงดินง่าย ๆ ภายใน 5 ขั้นตอน

แน่นอนว่าปลูกผักสลัดลงดินนั้น ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมดิน และทำแปลงเพาะนั่นเอง แต่การเตรียมนั้นไม่ยุ่งยากอะไรเลย แค่มีพื้นที่เล็ก ๆ ข้างบ้านก็ใช้การได้แล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง

จำหน่ายดินปลูกต้นไม้ ตลาดพันธุ์ไม้ประเทศไทย kaset.today

1. เพาะเมล็ด

นำเมล็ดผักสลัดแช่ในแก้วที่ใส่น้ำสะอาด แช่ทิ้งไว้ประมาณ 8 ชั่วโมง หรือ 1 คืน หากเมล็ดลอยน้ำขึ้นมาแล้ว ให้เทน้ำทิ้ง จากนั้นนำเมล็ดไปเพาะต่อในกระดาษทิชชูที่พรมน้ำ นำไปใส่กล่องหรือถาดที่เตรียมไว้อีก 8 ชั่วโมง จะมีรากงอกออกมา จากนั้นให้ก็เตรียมไปปลูกในถาด หรือหลุมเพาะ

2. ลงถาด หรือหลุมเพาะ

วัสดุในการเพาะเมล็ด คือใช้ดินดำ ขี้เถ้าแกลบ ขุยมะพร้าว ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน นำมาคลุกผสมกันให้ทั่ว จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม นำดินที่ชุ่มน้ำนั้นลงถาดเพาะ เพื่อเตรียมการเพาะเมล็ดผักสลัด จากนั้นให้เขี่ยดินเบา ๆ ทำหลุมเป็นแถว เตรียมไว้เสร็จแล้วให้เราหยอดเมล็ดผักสลัดลงหลุมที่เตรียมไว้ หลุมละ 2 – 3 เมล็ด แล้วเกลี่ยดินกลบเมล็ดเบา ๆ หาวัสดุมาคลุมไว้ รดน้ำเบา ๆ เช้า-เย็น ใช้เวลาประมาณ 5 – 7 วัน จะได้ต้นกล้าผักสลักเล็ก ๆ งอกออกมา

รู้จักกับการคลุมดิน วิธีช่วยลดวัชพืชและกักเก็บความชื้นในดิน

3. เตรียมแปลงดิน

ด้วยการใช้จอบสับหรือพรวนดิน ขุดให้ลึกประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร จากนั้นทำการขึ้นแปลงเป็นหลังเต่า เหมือนการทำแปลงปลูกพืชผักทั่วไป ดูแลเก็บเศษวัชพืชที่มีอยู่ในดินออกให้หมด พร้อมกับพรวนดินให้ละเอียดอีกครั้ง โดยให้ผสมปุ๋ยคอกและขุยมะพร้าวลงไปในปริมาณที่พอเหมาะ หากสภาพดินเป็นดินเหนียวให้ผสมแกลบดิบหรือแกลบดำ เพื่อเพิ่มความร่วนให้กับดิน แล้วปล่อยทิ้งไว้เป็นการบ่มดิน

4. ราดด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์

หลังจากปล่อยแปลงดินทั้งไว้ประมาณครึ่งวัน ให้พรวนดินให้ละเอียดอีกครั้ง แล้วนำน้ำหมักจุลินทรีย์ผสมน้ำแบบเจือจางราดให้ทั่วแปลง วิธีนี้จะเป็นการช่วยให้กระบวนการย่อยสลายทำงานได้ดีขึ้น จากนั้นให้นำวัสดุคลุมดิน เช่น ฟางข้าว มาคลุมดินไว้ประมาณ 5 – 7 วัน

5. นำต้นกล้าลงแปลงดิน

หลังจากต้นกล้างอกงามครบ 10 วันแล้ว เราจะสังเกตเห็นว่าออกใบจริงที่มีลักษณะของใบแข็งแรง ก็ๆสามารถย้ายมาลงแปลงดินที่เตรียมไว้ได้เลย โดยการแหวกวัสดุคลุมดินให้เป็นหลุม แล้วนำต้นกล้าวาง จากนั้นกลบดินรอบ ๆ เบา ๆ แล้วคลุมดินอีกครั้งด้วยฟางข้าว หรือขุยมะพร้าว แปลงผักควรอยู่บริเวณที่มีแสงแดด เพราะผักสลัดชอบแสงแดด จากนั้นประมาณ 45 วัน ก็จะได้ผักสลัดสด ๆ กรอบ ๆ 

คุณประโยชน์ของผักสลัด ที่น่าสนใจ

รู้จักผักสลัดยอดนิยม อุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย

สลัดขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารสำหรับไดเอท เป็นอาหารสายสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะแร่ธาตุสูง มีไขมันในปริมาณต่ำ มีกากใยอาหารสูงมาก รวมทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินดี และสารจากธรรมชาติอีกนานาชนิด นอกจากช่วยให้สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงแล้ว ผักสลัดยังช่วยป้องกันรักษาโรคต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย ทั้งโรคระบบขับถ่าย ระบบย่อยอาหาร และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง เรามาดูกันดีกว่ามีว่าผักสลัดชนิดไหน พันธุ์ไหนบ้าง ที่ได้รับความนิยม

1. เรดโอ๊ค (Red Oak)

เป็นผักสลัดที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีกากใยสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันปากนกกระจอก ลดไขมัน เป็นผักสลัดที่ไม่เหมาะกับการปรุงร้อน ควรกินสด ๆ หรือทำสลัด

2. กรีนโอ๊ค (Green Oak)

รสชาติคล้าย Red Oak แต่ออกรสหวานกว่านิด ๆ มีกากใยไฟเบอร์สูง วิตามินบีและวิตามินซีสูงมาก ช่วยสร้างเม็ดเลือด ช่วยบำรุงสายตา เหมาะสำหรับใช้ทำสลัด กินสด ๆ และใช้จัดตกแต่งจาน

รวมสูตร สลัด กรีนโอ๊ค 36 สูตร พร้อมวิธีทำ อร่อยง่ายๆที่บ้าน

3. กรีนคอส หรือผักกาดโรเมน (Cos or Romaine)

หลายคนรู้จักกันดี เพราะใช้ทำซีซาร์สลัด เป็นผักที่มีสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ มากมาย มีรสชาติหวานอร่อย ได้รับความนิยมมากในอเมริกา ทนความร้อนได้ดี 

4. บัตเตอร์เฮด หรือผักกาดบอสตัน (Butterhead)

ใบสีเขียวคล้าย ๆ กรีนโอ๊ค นิยมกินสด และใส่ในแฮมเบอร์เกอร์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก

5. ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก (Frillice Iceberg)

ใบสีเขียวอ่อนแซมเข้ม กรอบ หวาน เหมาะกับการทำสลัด ไม่ทนความร้อน เป็นผักที่มีไฟเบอร์และวิตามินสูงมาก

6. ผักกาดหอมคริปส์เฮด หรือผักกาดแก้ว (Iceberg or Crisphead)

เป็นผักยอดนิยมอีก 1 ชนิดที่เรารู้จักกันดี มีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงเลือด และช่วยทำให้นอนหลับสบาย นิยมกินสด ๆ เพราะรสชาติกรอบหวาน และใช้ทำสลัด

7. ผักกาดหอม (Green Coral)

เป็นผักสลัดที่นิยมกันเป็นอย่างมากเช่นกัน มีวิตามินมากมาย มีสารที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงมาก เหมาะกับการทำสลัด และนิยมใส่ในแฮมเบอร์เกอร์ รวมทั้งกินเป็นผักสด

8. ผักกาดหอมแดง (Red Coral)

มีคุณค่าทางอาหารมาก ให้แคลอรีต่ำ เหมาะจะใช้กินกับอาหารประเภทปิ้งย่าง ทำเป็นเครื่องเคียง แต่มักไม่นิยมนำมาทำสลัดเหมือนผักกาดหอม

9. ผักร็อคเก็ต หรือผักอารูกูลา (Rocket Arugula)

เป็นผักสลัดที่มีแคลเซียมสูง รสชาติเผ็ดซ่านิด ๆ ไม่มีรสหวาน ส่วนใหญ่นิยมนำมาทำเป็นอาหาร เช่น ผัดกับน้ำมันมะกอก หรือกินกับชีส เป็นต้น

ผักร็อกเก็ต ผักสลัดสุดโปรดกับประโยชน์ต่อสุขภาพ 

การปลูกผักสลัดนั้นทำได้ง่าย ๆ นอกจากปลูกลงดินแล้ว ยังสามารถปลูกในขวดหรือในกระถางก็ได้ การปลูกผักสลัดกินเองนั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยในการกินผักสด เพราะไม่มีสารเคมี ส่งผลดีต่อสุขภาพแน่นอน แค่เรามีพื้นที่ทำแปลงดินเล็ก ๆ ข้างบ้าน ก็สามารถปลูกผักสลัดได้แล้ว ปลูกง่าย โตไว ไม่นานก็ได้กิน ใช้ทำอาหาร กินเล่น หรือกินเป็นผักสลัด แถมยังประหยัดเงินกับ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ปลูกผักสลัดลงดินด้วยตัวเอง