การจัดสวนทัสคานี (Tuscany Garden) เป็นการจัดสวนในสไตล์ดั้งเดิมของอิตาลีมีที่มาจากเมืองทัสคานีหรือแคว้นทัสคาน ซึ่งเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในด้านงานสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ มีเอกลักษณ์งดงามและความไม่เหมือนใครตามแบบของชนบทในอิตาลีจนได้รับการยกย่องว่าเป็นการจัดสวนที่มีความสวยงามที่สุดอีกรูปแบบหนึ่งเพราะสามารถให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและโรแมนติกมาก
ปัจจุบันเราอาจจะพบเห็นการจัดสวนแนวนี้ได้ไม่มากในประเทศไทย เพราะสวนแบบนี้มักจะใช้จัดตกแต่งตามสถานที่ที่สร้างตามรูปแบบของทัสคานี คือ หลังคาทรงปั้นหยา มีซุ้มโค้งภายในบ้านและนอกบ้าน ให้ความสำคัญกับพื้นผิวสีธรรมชาติ ซึ่งสวนที่จัดตามสถานที่เหล่านี้จะต้องไม่บดบังทัศนียภาพหรือบดบังสถาปัตยกรรม แต่จะต้องมีความกลมกลืนและเน้นความเป็นธรรมชาติของสีสันมากกว่าอะไรที่ดูหวือหวา โดยสถานที่ที่เราจะเห็นการจัดสวนแบบนี้ในไทยก็คือ ‘ปาลิโอ’ ที่เขาใหญ่หรือบางส่วนที่ได้รับการจัดแสดงใน ‘สวนนงนุช’ จังหวัดชลบุรีนั่นเอง
สาระน่ารู้เกี่ยวกับสวนทัสคานี ในเว็บไซต์ของ buckinghamshirelandscapegardeners ได้พูดถึงสวนแนวทัสคานีไว้ว่าเป็นสวนที่ได้รับความนิยมและมีความโดดเด่นมากในปลายยุคเรอเนสซองส์และบาโรก การจัดสวนทัสคานีได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจที่สะท้อนถึงความวิจิตรบรรจงจากการเลือกใช้พันธุ์ไม้นานาชนิดที่หายากและประติมากรรมที่แกะสลักอย่างสวยงาม แล้วนำมาผสมผสานกับความเป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัว สวนทัสคานีได้กลับมาเป็นที่รู้จักและรุ่งโรจน์อีกครั้งในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยส่วนใหญ่มักจะจัดสวนแบบนี้ในบ้านหรือที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติที่ร่ำรวย เพราะเชื่อว่ามันจะให้ได้กลิ่นไอของความชนบทที่ยังคงความคลาสสิกและมีระดับอยู่
ลักษณะการจัดสวนทัสคานี
อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าทัสคานีจะเน้นความไม่หวือหวาการสรรหาต้นไม้มาหรือของตกแต่งมาจัดสวนจึงต้องเน้นสีสันหรือความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ ไม่เน้นไม้ดอกไม้ประดับที่ให้สีสันฉูดฉาดมาก คุมโทนสีที่ให้ความอบอุ่นอย่างสีเหลือง ขาว ครีม เขียว ส้มอ่อน ๆ หรือสีโทนร้อนอย่างแดง ชมพู ม่วง น้ำตาล ซึ่งเป็นโทนสีที่ให้ความรู้สึกเหมือนฤดูร้อนที่สะท้อนถึงภาพรวมของชนบทในอิตาลีได้อย่างดี
ลักษณะสำคัญของการจัดสวนแนวนี้ส่วนใหญ่จะจัดบริเวณด้านหน้าของอาคารหรือสถาปัตยกรรมนั้น ๆ รวมไปถึงบริเวณทางเดินที่ใช้เชื่อมไปยังตัวอาคารต่าง ๆ โดยจุดสังเกตคือมักจะมีน้ำพุเป็นจุดนำสายตา บางที่อาจเน้นการปลูกไม้ประดับมากกว่าการใช้ไม้ดอก ซึ่งถ้าหากจะเลือกใช้ไม้ประดับจะต้องให้ความสำคัญกับลักษณะที่สวยงาม รูปทรงของต้นไม้ที่เป็นเอกลักษณ์หรือเลือกใช้ไม้เลื้อยในการตกแต่งกำแพง ผนังและระเบียงเพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติที่สุด อาจมีการเลือกใช้หินธรรมชาติ แผ่นทางเดิน (Cobblestone) หรือกรวดหินต่าง ๆ มาปูตามพื้นทางเดินเพื่อเพิ่มความรู้สึกสบาย ๆ ตามสไตล์ทัสคานีมากขึ้น
องค์ประกอบของการจัดสวนทัสคานี
สำหรับการจัดสวนทัสคานีด้วยความเป็นสวนที่คงไว้ซึ่งกลิ่นไปแบบอิตาลีหรือชนบทของเมืองทัสคาน ทำให้ต้องมองหาองค์ประกอบสำคัญ ๆ ที่เหมาะจะนำมาใช้ในการจัดสวนให้สมจริงที่สุด อาจต้องใช้อุปกรณ์ตกแต่งหรือต้นไม้ที่ค่อนข้างมีราคาสูงขึ้นมาจากการแต่งสวนแนวอื่น ๆ เล็กน้อย ซึ่งวันนี้เราจะอ้างอิงองค์ประกอบในการจัดสวนทัสคานีบางส่วนมาจากเว็บไซต์ของ bareo-isyss มาดูกันว่าการสวนแนวนี้จะมีความยากง่ายในเรื่องของการตกแต่งอย่างไรบ้าง
1. แผ่นหินทางเดิน
สำหรับองค์ประกอบแรก ๆ ที่เรามักจะเห็นในการจัดสวนทัสคานี คือ การนำแผ่นหิน (Cobblestone) มาใช้ในการปูพื้นสวนหรือตามทางเดิน เพราะการใช้แผ่นหินแบบนี้จะให้ความรู้สึกที่ต่างไปจากการปูพื้นซีเมนต์ทั่วไปตรงที่มีช่องว่าง มีพื้นที่ให้หญ้าหรือต้นไม้สามารถงอกขึ้นมาได้ เราสามารถปูเป็นแนวทางเดินตามรูปแบบที่เราต้องการได้ รับรองว่าจะทำให้ดูมีมิติและให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่า
ส่วนใหญ่จะเลือกใช้เป็นลวดลายหินหรือใช้โทนสี น้ำตาล ส้มอิฐ สีขายหรือสีครีมเพื่อให้กลืนไปกับทัศนียภาพโดยรอบ ดูไม่โดดเด่นจนเกินไป หรือใครที่อยากให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้นอาจจะลองปูพื้นสวนด้วยกรวดหินขนาดเล็กดูก็สามารถทำได้
2. น้ำพุหรือสระน้ำ
น้ำพุ ถือได้ว่าเป็นเป็นองค์ประกอบหลักในการจัดสวนทัสคานีเลย เพราะในทางสัญลักษณ์แล้วน้ำพุเป็นตัวแทนที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ในท้องถิ่น ดังนั้น เราจึงมักจะเห็นน้ำพุหรือไม่ก็สระน้ำขนาดเล็กตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวน ไม่ก็ตามแนวทางเดิน ส่วนใหญ่น้ำพุจะได้รับการออกแบบมาให้มีลวดลายสวยงาม มีความโค้งเว้าตามรูปแบบอิตาลี มักสร้างจากดินเผาหรือปูนปั้นและมีสีสันที่เข้ากับสภาพแวดล้อมในบริเวณที่ตั้งด้วย
3. อิฐมอญ
อิฐมอญ มักจะใช้เป็นองค์ประกอบสำหรับการตกแต่งหรือเพิ่มความมีมิติให้กับพื้นที่สวนมากกว่า โดยส่วนใหญ่นักจัดสวนจะนิยมนำอิฐมาก่อเป็นกำแพงเพื่อตั้งเป็นแนวกั้นหรือจำลองผนังขึ้นมาเป็นพื้นหลังให้แก่สวน เพื่อให้มีความเป็นทัสคานีมากยิ่งขึ้น หรือไม่ก็นำอิฐนั้นมาล้อมบริเวณที่จะปลูกต้นไม้ไว้ให้เป็นสัดเป็นส่วนขึ้น เหมือนเป็นสวนหย่อมขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่สวนอีกที ทำให้สวนของเราดูมีลูกเล่นที่หลากหลายยิ่งขึ้น
4. เก้าอี้หรือโต๊ะไม้
สวนสไตล์ทัสคานีนอกจากจะเป็นสวนที่ใช้จัดแสดงสถาปัตยกรรมได้อย่างดีแล้ว ก็ยังเป็นสวนที่น่าใช้เวลาในการนั่งชื่นชมความสวยงามของสถานที่และให้ความรู้สึกสงบมาก ๆ ดังนั้น การมองหาโต๊ะหรือเก้าอี้ไม้มาวางไว้ เป็นมุมนั่งเล่นชิลล์ ๆ ในสวนก็นับว่าเป็นไอเดียที่ดีมากทีเดียว หรือถ้าจะให้ดีลองหาโต๊ะเก้าอี้ที่เป็นเหล็กดัดลวดลายสวยงามมาทำเป็นมุมนั่งเล่นเล็ก ๆ ก็จะได้ความรู้สึกคลาสสิกแบบอิตาลีมากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน
5. ตุ๊กตาประติมากรรมตกแต่ง
เป็นของตกแต่งสุดคลาสสิกที่มักจะใช้ในการจัดสวนหลากหลายแบบทั้งสวนวินเทจ เปอร์เซียหรือแม้กระทั่งการจัดสวนทัสคานี เพราะการจะสวนแนวนี้มักจะต้องมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มความโดดเด่นให้แก่อาคารหรือสถานที่นั้น ๆ การมองหาตุ๊กตาประติมากรรม รูปปั้นสวย ๆ หรืองานศิลปะโรมันลวดลายแปลกตามาวางประดับในสวนก็ดูจะเป็นการคุมโทนที่ดีไม่ใช่น้อย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับสวนได้อย่างดีด้วย
6. กระถางหรืออ่างดินเผา
ไอเท็มที่ต้องมีและขาดไปไม่ได้เลยก็คือการใช้กระถางต้นไม้ อ่างน้ำ หรือไหใส่ของต่าง ๆ ที่ทำมาจากดินเผา เพราะการใช้สิ่งของเหล่านี้มาวางไว้ในสวนตามมุมต่าง ๆ จะช่วยให้เพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและได้บรรยากาศตามแบบชนบทของอิตาลีมากขึ้น ด้วยพื้นผิวของดินเผาและสีส้มอิฐธรรมชาติที่หาได้ยากจากการใช้วัสดุอื่น ทำให้เป็นจุดเด่นของการจัดสวนแนวนี้เลยก็ว่าได้
ทริปการจัดสวนทัสคานี เพื่อเพิ่มกลิ่นไอความสวยงามและคลาสสิกตามแบบสวนทัสคานีขนานแท้ เราแนะนำว่าให้คุณลองหาไอเท็มต่อไปนี้ เสาซุ้มประตู โคมไฟโบราณ ๆ กระเบื้องลายอิฐ เครื่องใช้จากเซรามิกและภาชนะที่ทำจากดินเผามาตกแต่งสวนเพิ่มเติมเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและโรแมนติกมากขึ้น
7. ต้นไม้จัดสวน
ปิดท้ายกันด้วยองค์ประกอบสำคัญอย่างต้นไม้ที่ใช้จัดสวน อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าสวนทัสคานีจะเน้นใช้พืชพรรณต่าง ๆ ที่มีสีสันไปในโทนร้อน ต้นไม้ที่ใช้จะต้องไม้ใหญ่มาก ไม่แผ่ขยายออกกว้างจนบดบังทัศนียภาพ ไม่เน้นให้ร่มเงาเน้นให้ความสวยงาม เช่น ต้นลีลาวดี ต้นสนหรือต้นปาล์มที่มีขนาดกลาง ๆ ส่วนไม้ประดับแต่งสวนอื่น ๆ ก็จะเป็นไม้พุ่มที่สามารถดูแลง่ายและตัดแต่งให้มีรูปทรงหรือสัดส่วนตามต้องการได้ อีกทั้งยังต้องมีไม้เลื้อยที่ไม่เน้นสีสันของดอกแต่ต้องมีใบและเถาที่สามารถเลื้อยปกคลุมสร้างความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติให้แก่พื้นที่นั้นได้ด้วย
แนะนำพันธุ์ไม้ที่ใช้ในการจัดสวนทัสคานี
การจัดสวนทัสคานีอาจจะยังคงเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับคนไทยอยู่ แต่เชื่อว่าหลายคนที่อ่านมาจนถึงจุดนี้ก็คงเริ่มจะรู้สึกสนใจในสวนชนิดนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะใครที่ชอบการจัดสวนแนวยุโรปหรือตะวันตกแล้ว สวนสไตล์อิตาลีก็คงตอบโจทย์ได้ดีไม่ใช่น้อย ดังนั้น นอกจากการแนะนำองค์ประกอบในการจัดสวนที่สำคัญแล้ว kaset.today ก็ไม่พลาดที่จะมาแนะนำต้นไม้ต่าง ๆ ที่จะใช้ในการจัดสวนทัสคานี เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามีต้นอะไรที่เราควรหามาปลูกในสวนแนวนี้กันบ้าง
ไม้ประธานสวน
การจัดสวนทัสคานีถึงแม้ว่าจะไม่ได้ต้องการต้นไม้ขนาดใหญ่หรือให้ร่มเงาอะไรมากนัก แต่การมองหาไม้ประธานที่จะนำมาใช้ตกแต่งสวนก็ต้องเลือกสรรทั้งรูปทรงของต้นและความสวยงามของไม้ดอกไม้ประดับที่สีสันต้องไม่โดดเด่นจนเกินไป ให้ความรู้สึกสบาย ๆ อบอุ่นและมองภาพรวมแล้วสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ
ลีลาวดี: หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ ต้นลั่นทม เป็นไม้ยืนต้นที่มีลักษณะเป็นพุ่มเตี้ยสูงประมาณ 1 เมตร หรือสามารถปลูกให้สูงสุดได้ถึง 12 เมตร ด้วยความเป็นต้นที่มีรูปร่างลักษณะดี มีทรงพุ่มหนาแน่น ใบเขียวสดเรียวสวยและเมื่อถึงช่วงก็จะออกดอกสีขาวเป็นช่อ ๆ ส่งกลิ่นหอม ทำให้เมื่อนำมาปลูกประดับในสวนทัสคานีที่มีพื้นหลังเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์อิตาลีแล้วดูสวยงามลงตัวมาก
สนฉัตร: เป็นหนึ่งในต้นไม้ยอดนิยมสำหรับการแต่งบ้านหรือแต่งสวนเพราะรูปทรงของต้นที่แผ่กว้างเรียงลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ ทำให้ต้นนี้มีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังปลูกง่าย ดูแลง่ายและเป็นไม้มงคลที่มีมูลค่า ปลูกเป็นไม้ประธานของสวนหรือปลูกเรียงรายตามแนวทางเดินก็ให้บรรยาการของเมืองทัสคานได้ดีทีเดียว
สนมังกร: สนอีกชนิดที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เพราะเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะรูปทรงที่สวยงามโดดเด่น ใบที่มีลวดลายแปลกและต้นจะมีสีเขียวตลอดทั้งปี ลักษณะทรงพุ่มคล้ายรูปทรงพีระมิด สามารถปลูกได้ดีในดินทุกประเภท จึงเหมาะที่จะใช้ตกแต่งสวนและบริเวณโดยรอบอาคารสถานที่ หรือปลูกเป็นแนวเลียบไปตามแนวทางเดินก็ได้เช่นกัน
กระดุมไม้ใบเงิน: ต้นนี้หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้น แต่ต้องบอกเลยว่าหากจะเลือกจัดสวนทัสคานีต้นนี้เป็นต้นที่ควรหามาปลูกไว้เลย เพราะนอกจากลักษณะทรงพุ่มที่สวยงามหรือใบที่มีรูปแปลกตาแล้ว ต้นนี้เมื่อมองดี ๆ แล้วยังเป็นสีเทาเงินสว่าง ๆ ที่สะท้อนออกมาจากผิวใบ อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่เกิดในเขตร้อนของเม็กซิโกจึงสามารถปลูกได้ดีในประเทศไทย มีการเจริญเติบโตได้ในระดับที่ดีมาก ๆ
ต้นไม้พุ่มตกแต่งริมทางเดิน
สำหรับการจัดสวนทัสคานีต้นไม้ที่ใช้ในการจัดสวนตามแนวทางเดินถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนที่ต้นไม้จะต้องไม่ใหญ่ไป ต้องมีทรงสูงหรือเป็นพุ่มมากกว่าแผ่ขยายออกด้านข้าง สามารถปลูกลงดินในระยะห่างที่ไม่กินพื้นที่มากหรือปลูกลงกระถางได้สบาย ๆ ดังนั้น ต้องมาดูว่าคนนิยมใช้ต้นอะไรในการจัดสวนแนวนี้กันบ้าง
ไทรเกาหลี: เป็นต้นไม้ทำรั้วที่นิยมมาก ๆ ในการจัดสวนแทบทุกรูปแบบ เพราะนอกจากทรงของต้นจะสามารถตัดแต่งให้สวยงามได้ การปลูกหรือการดูแลก็ง่ายมาก ๆ ถ้าไม่เป็นโรคจะไม่ค่อยผลัดใบ ปลูกลงดินหรือกระถางก็ได้และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวันเพราะต้นไทรเกาหลีไม่ชอบความชื้นแฉะ
สนบลู: นอกจากจะนำสนมังกรและสนฉัตรมาทำไม้ประธานได้แล้ว สนบลูยังเป็นไม้ประดับอีกชนิดที่น่าจะนำมาปลูกในสวนทัสคานีมาก ๆ ด้วยลักษณะพุ่มทรงพีระมิดและใบสีฟ้าเงินระเรื่อที่มองแล้วทั้งสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ เมื่อนำมาปลูกตามแนวทางเดินแล้วจะช่วยให้ภาพรวมของสวนดูสมบูรณ์และอลังการมากยิ่งขึ้น
ต้นคริสติน่า: เป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกประดับตกแต่งริมรั้ว ด้วยลักษณะที่เป็นไม้พุ่มไม่สูงแต่ก็ไม่เตี้ยแคระ มีการไล่สีสันของต้นที่สวยและแปลกตา โดยเฉพาะบริเวณยอดใบอ่อนที่เมื่อแตกออกมาจะมีสีแดงสด ปลูกและดูแลง่ายไม่ต่างไปจากไทรเกาหลี เจริญเติบโตได้ค่อนข้างเร็ว การนำต้นนี้มาปลูกประดับริมทางเดินก็จะช่วยเติมเต็มสีสัน ช่วยให้บรรยากาศรอบ ๆ น่ามองและสดชื่นมากยิ่งขึ้น
ต้นหลิวไต้หวัน: ไม้พุ่มอายุยืนที่มักนำมาปลูกแต่งบ้านหรือแต่งสวน รวมทั้งปลูกตามแนวรั้วเพราะมีความสูงแค่ 30 – 80 เซนติเมตรเท่านั้น มีใบขนาดเล็กที่เกิดเรียงสลับเป็นแนวยาวและมีดอกเล็กจิ๋วที่ออกตามซอกใบถึงปลายกิ่ง ดอกสีม่วง ม่วงอมชมพู หรือขาวไปเลย ปลูกง่าย ตัดแต่งทรงต้นให้สวยตามต้องการได้ง่าย ๆ จึงเป็นไม้ที่หลายคนชื่นชอบในการนำมาจัดสวนมาก ๆ
โรสแมรี่: เป็นพืชสมุนไพรจากต่างประเทศที่ปลูกง่ายมาก ๆ มีให้เลือกหลายสายพันธุ์ทั้งแบบเป็นต้นและแบบเลื้อย มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีลักษณะใบเป็นฝอย ๆ ตรงท้องใบจะเป็นสีขาวและมีขนปกคลุม ลำต้นยาว ต้นมีสีเขียวตลอดปีและมีดอกหลายสีทั้งขาว ชมพู ม่วง หรือฟ้า สามารถใช้ปรุงอาหารให้มีกลิ่นหอมได้ สามารถนำมาปลูกตกแต่งตามมุมต่าง ๆ ของสวนหรือปลูกริมรั้วได้ วม ๆ แล้วเป็นต้นไม้ที่ดูน่ารักมาก ๆ
สนหอม: ไม้พุ่มเตี้ยที่มีความสูงประมาณ 5-10 เมตรเท่านั้น ที่มีสรรพคุณในการไล่ยุงและยังมีกลิ่นหอมเย็น ๆ ด้วยลักษณะพุ่มเหมือนกรวยคว่ำแต่ดูอวบ ๆ ใบมีขนาดเล็กเรียวยาวออกเรียงสลับกัน มีสีเขียวสดแต่ใบอ่อน หรือยบางทีก็ออกเป็นสีแดงอมน้ำตาลที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน หลายคนจึงนิยมนำสนหอมมาตกแต่งสวนหรือปลูกเป็นไม้ประดับตามมุมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับสวน
นีออน: เป็นไม้พุ่มเล็กที่มีลักษณะโดดเด่น หายาก เนื่องจากใบของต้นนี้จะเป็นใบรูปไข่ มีขนอ่อนปกคลุมที่ใบ มีสีเทาเงินคล้าย ๆ สีของตะกั่วและออกดอกสีม่วงสดเกือบตลอดทั้งปี ทำให้มองภาพรวมแล้วเป็นต้นที่สวยงามแปลกตามาก ๆ อีกทั้งสามารถปลูกในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยได้สบาย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรให้ยุ่งยาก เพียงแค่ต้องคอยตัดแต่งทรงพุ่มให้สวยงามตลอด
เบญจมาศเงิน: จริง ๆ เป็นไม้คลุมดินที่มีในไทยมานานแล้วแต่ยังไม่เป็นที่นิยม จนกระทั่งคนเริ่มนำมาปลูกเป็นไม้ประดับบ้านหรือแต่งสวน ด้วยความเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีสีสันของใบสวยงาม เป็นสีเงินอมเทาและมีดอกใหญ่หลายสี แต่มักจะพบดอกที่ออกเป็นช่อสีเหลืองสดมากที่สุด โดยภาพรวมแล้วเป็นต้นไม้ที่น่าสนใจมาก ๆ เหมาะจะนำมาแต่งสวนทัสคานีได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
ไม้เลื้อยประดับ
เป็นพันธุ์ไม้ที่ขาดไม่ได้และต้องเลือกสรรมากที่สุด เพราะเราจะเห็นว่าการจัดสวนทัสคานีถึงต้นไม้ประดับอื่น ๆ จะมีไม่มากแต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือไม้เลื้อยหรือเรียกได้ว่าเป็นอีกองค์ประกอบที่สำคัญ โดยไม้เลื้อยจะต้องไม่จำเป็นเน้นสีสันของดอก แต่ต้องมีรูปทรงใบและลักษณะการเลื้อยที่สวยงาม ใช้สำหรับการเลื้อยปกคลุมตามแนวผนังหรือกำแพงเพื่อช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบรรยากาศโดยรอบ
ผกากรองเลื้อย: เป็นไม้เลื้อยทอดตามดินลักษณะทุกอย่างเหมือนผกากรองพุ่ม แต่ลำต้นและใบดูจะมีขนน้อยกว่า ใบรูปไข่ริมใบจักร ดอกขนาดเล็กออกเป็นกระจุกรวมเป็นดอกเดียว ในไทยมักพบอยู่ 2 สี คือ สีเหลืองกับสีม่วง ออกดอกตลอดปี ดูแลง่ายไม่ชอบดินแฉะ ขึ้นได้ทั้งกลางแจ้งและในที่ร่มแดดรำไร เหมาะนำมาเป็นไม้เลื้อยประดับกำแพงหรือไม้ห้อยแขวนตกแต่งสวน
ตีนตุ๊กแก: เป็นไม้เลื้อยเกาะตระกูลเดียวกับต้นไทรต่าง ๆ ลำต้นยาวประมาณ 8 – 10 นิ้วได้รับความนิยมมาก ๆ เพราะมีใบเป็นแฉก ๆ สวยงาม ปัจจุบันมีทั้งแบบใบเขียวและพันธุ์ใบด่าง เป็นไม้เลื้อยที่ปลูกง่าย เลื้อยไปได้ไกลและตายค่อนข้างยาก เหมาะจะนำมาเลื้อยตกแต่งตามผนังหรือกำแพงของสิ่งปลูกสร้างเพื่อเป็นฉากหลังหรือฉากกั้นสวนที่มองรวม ๆ แล้วให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศมาก ๆ
ไอวี่: เป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อนมีหลากหลายสายพันธุ์ สามารถโตได้ดีแม้มีแสงรำไร ลำต้นทอดเลื้อยยาวได้ประมาณ 2-4 เมตร ใบไม่ใหญ่มากเป็นทรงเว้ามีแฉก ใบเขียวหรือใบเขียวด่างขาว นำไปเลื้อยติดผนังกำแพงได้ หรือจะปลูกเป็นไม้ห้อยแขวนแบบผกากรองเลื้อยก็สวยไปอีกแบบ ดูแลง่ายไม่ต้องรดน้ำบ่อย ๆ
พวงคราม: เป็นไม้เลื้อยอายุยืนที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในปัจจุบัน เพราะมีดอกสีม่วงเกิดเป็นรวงช่อสวยงาม ออกดอกได้ตลอดทั้งปี ปลูกง่ายและมีการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างเร็ว เหมาะนำมาเลื้อยบริเวณเสา ซุ้มประตูหรือเลื้อยปกคลุมสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่นั้นได้อย่างดี
ไม้ดอกประดับ
ถึงแม้ว่าการจัดสวนทัสคานีจะไม่ต้องเน้นการใช้ไม้ดอกมาประดับประดามากนัก แต่ถ้าจะให้สวนดูมีมิติและมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่ควรเลือกไม้ดอกที่มีสีสันไม่ฉูดฉาด ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโรแมนติกตามหลักการของสวนทัสคานี มาดูกันว่ามี ดอกไม้อะไรน่าสนใจบ้าง
ไฮเดรนเยีย: เป็นไม้ดอกยอดนิยมที่สถานที่หลาย ๆ แห่งเลือกมาปลูกตกแต่งสวน ปัจจุบันไฮเดรนเยียส่วนใหญ่ที่ปลูกในไทยเป็นสายพันธุ์ลูกผสมทั้งสิ้น มีดอกขนาดใหญ่ที่ให้สีสันพาสเทลสวยงาม ในไทยมักพบดอกสีขาว ชมพู ม่วงและฟ้า ปลูกไม่ยากแต่ต้องใช้การดูแลที่สม่ำเสมอ เพราะเป็นไม้ที่ต้องปลูกในที่ที่แสงส่องถึงแต่ต้องไม่มากจนเกินไป แดดครึ่งวันก็พอประมาณ ยิ่งปลูกในโรงเรือนก่อนได้จะดี รดน้ำเช้าและเย็นแต่ต้องให้ในปริมาณที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เพียงพอต่อการรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้ตลอดทั้งวัน
ไวท์แคนเดิล: เป็นไม้ดอกอายุยืนที่นิยมปลูกในสวยสไตล์อิตาลีมาก ๆ ต้นเป็นพุ่มสูงประมาณ 1 – 2 เมตรความโดดเด่นของต้นนี้คือมีช่อดอกแบบช่อกระจะที่กลีบนอกจมีขนนุ่ม ๆ ปกคลุมเป็นสีขาวสวยงามมาก ๆ ยิ่งนำมาปลูกเป็นไม้ประดับตามมุมต่าง ๆ ของสวนก็ยิ่งทำให้ดูมีความเป็นทัสคานีมากขึ้นจริง ๆ
กุหลาบพวง: โดยทั่วไปการจัดสวนไม่ว่าในรูปแบบไหน ๆ กุหลาบก็จะยังคงเป็นดอกไม้ที่ใช้ปลูกประดับตกแต่งสวนได้อย่างดีเสมอซึ่งกุหลาบพวงก็เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยความเป็นกุหลาบที่มีลักษณะเป็นพุ่มไม่สูงมาก ราว ๆ 1 – 1.5 เมตร ออกดอกเป็นช่อ กลิ่นหอม มีหลากสีสันทั้งสีขาว ชมพูอ่อน ชมพูเข้มและสีแดง อีกทั้งคุณสมบัติเรื่องความแข็งแรงทนทานกว่ากุหลาบทั่วไป เจริญเติบโตได้ดีและออกดอกได้ค่อนข้างมากต่อครั้ง ทำให้เป็นไม้ดอกที่หลายคนชื่นชอบเป็นอย่างมาก
เวอร์บีน่า: เป็นไม้ดอกอีกชนิดที่พบได้บ่อยในการจัดสวนสไตล์อิตาลีเท่านั้น ถ้าปลูกดี ๆ มีอายุยืนยาวหลายปี มีการออกดอกเป็นช่อแยกแขนงเป็นกระจุกที่ปลายกิ่งอย่างสวยงาม ถือเป็นลักษณะพิเศษที่สวยงามของต้นนี้ ส่วนใหญ่ดอกจะมีสีชมพู ม่วงอ่อนจนถึงม่วงเข้มแล้วแต่พันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่นิยมนำมาปลูกมากที่สุดคือ เซเรนิตี้และทัสคานี เป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดีและออกดอกได้เกือบตลอดทั้งปีเลย
กล้วยไม้ดิน: เรียกได้ว่าเป็นไม้ดอกสุดคลาสสิกที่เหมาะแก่การจัดสวนทัสคานีในไทย เพราะกล้วยไม้ดินปรับตัวได้ดีกับสภาพอากาศหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่ปลูก นิยมปลูกเลี้ยงกันหลากหลายสายพันธุ์ พบได้ทุกภาคของไทย มีดอกสีสันสวยงามมาก ๆ โดยสีที่นิยมนำมาใช้จัดสวนทัสคานี คือ สีม่วง ชมพู ขาวและเหลือง การปลูกหรือดูแลก็ง่าย ชอบแดดรำไร ไม่ชอบดินแฉะ รดน้ำวันเว้นวันก็พอ
ไอเดียการจัดสวนทัสคานีในพื้นที่จำกัด
สำหรับใครที่ชื่นชอบความสวยงามของสวนทัสคานีและอยากจะลองจัดสวนแนวนี้บ้าง แต่ติดปัญหาที่มีพื้นที่น้อย เราจึงมีข้อแนะนำเกี่ยวกับการจัดสวนทัสคานีบนพื้นที่ไม่มาก โดยอาจจะใช้วิธีการลดทอนหรือเลือกตัดองค์ประกอบบางอย่างออกไปบ้างเพื่อให้ไม่กินพื้นที่มากเกินไป รวมถึงการมองหาอุปกรณ์บางอย่างมาช่วยเพิ่มกลิ่นไอของการจัดสวนแนวนี้มากขึ้น เพราะฉะนั้นเดี๋ยวเรามาดูกันว่ามีไอเดียไหนที่น่าสนใจบ้าง
เน้นการปลูกต้นไม้ไม้พุ่ม ไม้เลื้อยบริเวณหน้าบ้าน เพราะตามหลักแล้วตามบ้านเรือนของเมืองทัสคานจะปลูกต้นไม้บริเวณหน้าบ้านค่อนข้างเยอะ เน้นการใช้กระถางสีอิฐหรือกระถางดินเผาใหญ่ ๆ ไม้เลื้อยคลุมหลังคา เลื้อยตามแนวระเบียงหรือรั้วบ้าน มีเก้าอี้ไม้เล็ก ๆ วางเป็นมุมนั่งเล่นหน้าบ้าน
บ้านไหนมุมพื้นที่หน้าบ้านเป็นลานกว้างลองจัดสวนเล็ก ๆ ล้อมพื้นที่ตรงกลาง หาไม้ประธานขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มาปลูกให้ร่มเงาเล็กน้อย มีโต๊ะวางตรงกลางไว้นั่งเล่นช่วงเย็น ๆ ปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่ให้ความสบายตาไม่ฉูดฉาดเกินไป ปูพื้นด้วยกรวดขาวเพิ่มความสว่างให้กับสวน
เน้นการใช้ไม้ห้อยแขวน ปลูกต้นไม้ตามแนวกำแพงบ้าน ปลูกตามหน้าต่างหรือระเบียงแทนการวางที่พื้น เพราะนอกจากจะช่วยให้ไม่เปลืองพื้นที่แล้วยังช่วยตกแต่งให้ตัวบ้านเราออกมาดูสวยงามตามแบบเมืองทัสคานขนานแท้เลย
การจัดสวนทัสคานีจะต้องมีการแบ่งพื้นที่อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ลองหาพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ มาทำเป็นสวนหย่อมที่ไม่ต้องใช้ต้นไม้มาก ออกแบบตามทรงเรขาคณิต มีมุมนั่งเล่นชิลล์ ๆ สบาย ๆ ล้อมด้วยต้นไทรเกาหลี ตรงกลางจะวางเป็นไม้ประดับ รูปปั้นประติมากรรม หรือน้ำพุขนาดเล็กก็ให้ความสวยงามได้อย่างดีไม่แพ้กัน
ล้อมบริเวณหน้าบ้านด้วยต้นไม้เพื่อเป็นการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจน หาโต๊ะเก้าอีกมาสวย ๆ รวมถึงร่มคันใหญ่มากางกันแดดหรือให้ร่มเงา ถือเป็นมุมนั่งเล่นตามแบบอิตาลีสไตล์ พร้อมตกแต่งโดยรอบด้วยไม้ประดับสีสันสบายตา
บ้านใครที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ข้างบ้านก็สามารถปูกรวดทำแนวทางเดินแบบนี้ แล้วหาต้นไม้ใส่กระถางมาวางตามรายทางประดับประดาให้ดูมีสีสันขึ้น ทำมุมนั่งเล่นขนาดย่อม ๆ ไว้สำหรับชื่นชมธรรมชาติก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจ
เอีกไอเดียสำหรับคนมีพื้นที่หลังบ้านเล็ก ๆ แล้วอยากจัดสวนทัสคานีแบบเต็มรูปแบบ ลองทำเป็นสวนหย่อมเล็ก ๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้อง แผ่นหินหรือกวรด ล้อมบริเวณให้เป็นรูปแบบตามที่เราต้องการแล้วหาไม้พุ่มเตี้ย ไม้เลื้อยกำแพงหรือไม้ดอกไม้ประดับเล็ก ๆ มาปลูกรอบ ๆ มีไห น้ำพุหรือรูปปั้นหินขนาดไม่ใหญ่มากมาวางตรงกลางแบบในรูปก็ถือว่าสวยงามมากทีเดียว
ข้อดีของการจัดสวนทัสคานี
- การแต่งสวนแบบนี้ให้อารมณ์แบบธรรมชาติ ได้กลิ่นไอแบบชนบทของอิตาลีอย่างแท้จริง
- การจัดสวนแบบนี้จะช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับสถาปัตยกรรมโดยรอบได้ ไม่บดบังทัศนียภาพโดยรอบของสถานที่นั้น ๆ
- จัดสวนแบบนี้จะดูมีความเป็นสัดส่วนของพื้นที่มาก ๆ สามารถประยุกต์ไปจัดกับบ้านสไตล์อังกฤษหรือวินเทจก็ได้
- พืชพรรณที่เลือกมาจัดสวนหาได้ทั่วไปไม่ยาก
- เหลือพื้นที่ไว้ใช้สอยเยอะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบบ้านสวนแบบมีพื้นที่ให้ผ่อนคลาย
- ใช้พันธุ์ไม้ของไทยมาปลูกแทนได้ไม่จำเป็นต้องใช้ต้นไม้เมืองหนาวหรือนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการจัดสวนทัสคานีในสไตล์อิตาลี ต้องบอกเลยว่านักจัดสวนส่วนใหญ่จะเรียกการจัดสวนแนวนี้ว่า สวนประดิษฐ์ (Formal gardens) เพราะการจัดสวนอิตาลีมักจะมีแนวคิดการออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิต สร้างความสมดุลซ้าย ขวาและกึ่งกลางให้ชัดเจน มีจุดเด่นที่การวางรูปปั้นหรือน้ำพุโดยมีฉากหลังเป็นตัวอาคารหรือสถาปัตยกรรมที่มีความยิ่งใหญ่สวยงาม ใช้การจัดตกแต่งต้นไม้อย่างเป็นสัดส่วน เพื่อให้ภาพรวมของสวนมีทั้งความสวยงามคลาสสิกแต่ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติตามวิถีชนบทของเมืองทัสคานไว้ได้อย่างดีอยู่
แหล่งอ้างอิง
ITALIAN GARDEN
How to make a Tuscan garden
An extraordinary Tuscan garden revitalised by Luciano Giubbilei