เหลืองชัชวาล (Cat’s claw, Cat’s claw creeper) พันธุ์ไม้เลื้อยจากแดนไกล ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลจนมาถึงประเทศไทย แถมยังสามารถเจริญเติบโตดีเกินคาด จนทำให้ใครหลาย ๆ คนคิดว่า เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นฐานเดิมในเอเชีย แต่ความจริงมันไม่ใช่…แล้วมันมาจากไหนกัน และในต่างประเทศหรือในประเทศไทยเราก็ยังเป็นไม้เลื้อยที่เป็นที่นิยมของใครหลายคน เพราะมัน “โครตทน” เรียกได้ว่าทนกว่าสีทาบ้านก็ต้อง “เหลืองชัชวาล” นี่แหละ และด้วยเหตุผลนี้ทำให้ kaset.today สนใจจนเกิดบทความที่มีเนื้อหาสาระดี ๆ นี้เพื่อให้ทุกคนได้อ่านกัน
เหลืองชัชวาล (Cat’s claw, Cat’s claw creeper) เป็นไม้เลื้อยที่มีดอกสีเหลืองสวยงาม คุณสงสัยไหมว่า ดอกไม้ชนิดนี้มีวิธีอะไรที่ทำให้มันสามารถเลื้อยไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นกำแพงปูน เสาร์ไฟฟ้า หลังคาบ้าน หรือ ต้นไม้ใหญ่ในป่า จนบางครั้งก็ทำให้คนทั่วไปคิดว่า เป็นวัชพืชที่มารุกรานพรรณไม้ท้องถิ่น เพราะมันมีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วมาก แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะด้วยสีสันที่สดใสของดอกสีเหลืองสด ทำให้มีคนไม่น้อยที่เริ่มนำต้น "เหลืองชัชวาล" มาปลูกทำเป็นไม้ซุ้ม ไม้รั๋ว แต่บางครั้งก็ติดปัญหาเกี่ยวกับการออกดอก ที่ตอนซื้อมา แม่ค้าพ่อค้าก็บอกมาว่า สามารถออกดอกตลอดปี แต่พอเอามาปลูกเองกลับไม่ออกดอกอย่างสม่ำเสมอ และนั้นเป็นปัญหาหนึ่งที่ลูกค้ามักถามเรามาตลอด จนเราต้องมีการทำบทความตามคำเรียกร้อง โดยในบทความจะพูดถึง ลักษณะของต้น การปลูก การดูแล วิธีปลูกให้ดอกออกดกตลอดปี และมีแมลงศัตรูพืชอะไรบ้างที่นักปลูกควรระวัง
ข้อมูลทั่วไปของต้นเหลืองชัชวาล
ชื่อภาษาไทย : เหลืองชัชวาล, เล็บวิฬาร์, เล็บแมว
ชื่อภาษาอังกฤษ : Cat’s claw / Catclaw vine / Cat’s claw creeper / Yellow Trumpet Vine
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Macfadyena unguis-cati (L.) A.H.Gentry
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ : Dolichandra unguis-cati (L.) L.Lohmann
ชื่อวงศ์ : Bignoniaceae (trumpet creeper)
ชื่อสกุล : Dolichandra
ถิ่นกำเนิดดั่งเดิม
เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ต้นเหลืองชัชวาลนั้นเป็นพันธุ์ไม้หรือไม้ดอกไม้ประดับที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกากลางและใต้ ตั้งแต่แม็กซิโก ไปจนถึงอะเจนติน่า แคริบเบียน เพราะเป็นไม้ดอกที่มีถิ่นกำเนิดในสภาพอากาศร้อน และเมื่อมีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยซึ่งมีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น มีแสงแดดตลอดวัน มีฝนตกแบบทั่วถึง ทำให้ต้นชัชวาลเจริญเติบโตได้ดี
ซึ่งในปัจจุบันก็ไม่ได้มีแค่แถบอเมริกากลางและใต้ที่ปลูก แต่เราสามารถพบการกระจายพันธุ์ของต้นเหลืองชัชวาลในแถบเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะพบในบางพื้นที่ เช่น ประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ที่ในขณะนั้นเป็นช่วงที่มีอากาศอบอุ่น หรือไม่มีหิมะ ประเทศออสเตรเลีย เช่น ภาคกลางและตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ บนชายฝั่งตอนกลางของนิวเซาท์เวลส์
ลักษณะต้นชัชวาล
- ลำต้น
ลำต้นมีความเหนียวแข็งและยืดหยุ่น จัดเป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดเล็ก ในกิ่งอ่อนจะมีสีเขียวเข้มผิวเรียบมันเงาเล็กน้อย และในกิ่งหรือลำต้นบริเวณโคนจะมีสีน้ำตาล มีรอยแตกที่ผิวลำต้น มักเลื้อยพันต้นไม้ใหญ่ โดยประมาณ ลำต้นและกิ่งสามารถยาวได้ถึง 20 เมตร หรือมากกว่านั้น
- ใบ
มีใบกึ่งถาวร มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว ที่จะออกตรงข้ามกันสลับไปมา เป็นรูปไข่แคบสีเขียวอ่อน มีขนาดประมาณ 6 x 16 ซม. ปลายใบแหลมแผ่นใบบาง ใต้ใบหยาบ
เกร็ดความรู้ ! ทำไมลักษณะใบมีหลายแบบ ในต่างประเทศมีการถกเถียงเกี่ยวกับลักษณะใบของต้นเหลืองชัชวาล เพราะมีการกระจายพันธุ์ไปในหลายประเทศที่มีอากาศอบอุ่นจนถึงร้อน ทำให้สัณฐานวิทยาของใบมีลักษณะที่แตกต่างกันไปบ้าง เพราะปกติแล้วใบจะมีลักษณะขอบเรียบ ใบทรงรีเกือบกลม แต่ในบางที่ ! ใบกลับมีขอบหยัก จนบางทีก็มีลักษณะเหมือนใบเมเปิ้ล หรือ มีการงอกของใบ และ มือกงเล็บที่ผิดไปจากเดิม แต่ก็ยังถูกจัดว่าเป็นต้นเหลืองชัชวาล
- มือกรงเล็บ
มือกรงเล็บ หรือ บางคนเรียกว่ารากอากาศ มีไว้สำหรับเกาะหรือเลื้อยพันต้นไม้ใหญ่ โดยใช้มือที่มีลักษณะแยกออกเป็น 3 แฉก คล้ายเล็บแมว จึงสามารถยึดเกาะกับวัสดุผิวหยาบได้เหนียวแน่น
- ดอก
ดอกไม้มีสีเหลืองรูปทรงคล้ายแตร เส้นดอกบริเวณโคนกลีบมีสีส้ม โคนกลีบเชื่อมเป็นหลอด ส่วนปลายกลีบคล้ายใบพัดแยกออกเป็น 5 กลีบ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 ถึง 5 ซม. (1.6 ถึง 2.0 นิ้ว) และสามารถเติบโตแบบดอกเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มละ 2-6 ดอก ขอบดอกเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวกลีบดอกอ่อนนุ่มมีขนเส้นเล็ก ๆ คล้ายกำมะหยี่ ดอกมักออกตามซอกใบ และจะออกดอกเยอะที่สุด ช่วงเดือนธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์ นอกจากนั้น ก็มีดอกออกบ้าง
- หัว
รากแก้ว หรือ รากที่เกิดตั้งแต่การเพาะเมล็ด จะยาวแผ่ออกไปใต้ผิวดิน ทำให้มี “หัว” ขนาดใหญ่ยาวประมาณ 40–50 ซม. (16–20 นิ้ว) เกิดขึ้น เล่ากันว่าหากมีน้ำท่วม หัวพวกนี้ที่อยู่ใต้ดินจะมีความทนทานต่อการถูกน้ำท่วม หรือ ในหน้าแห้งที่ไม่มีน้ำ เมื่อทุกส่วนของต้นตายไป แต่อัตราการรอดของหัวใต้ดินจะมีเปอร์เซ็นต์รอดมากกว่า เมื่อถึงจุดที่เหมาะสมหัวพวกนี้ก็จะมีรากงอกออกมาอีกครั้ง และก็จะเจริญเติบโตเป็นต้นอ่อนต่อไป และเมื่อต้นมีอายุมากขึ้นหัวเหล่านี้ก็สามารถเกิดขึ้นเองตามธรรมได้มากตามอายุ ทำให้มันเป็นพืชที่ทนทานมากไม่ตายง่าย ๆ แน่นอน
- ผลหรือฝัก
ต้นเหลืองชัชวาลมีผลหรือฝักสีเขียวอ่อน มีควมยาวประมาณ 25-90 เซนติเมตร เมื่อโตไปได้สักระยะจะเปลี่ยนเป็ฯสีน้ำตาล และเมื่อแก่จัดและพร้อมนำไปเพาะเมล็ด ฝักจะเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ แต่ละฝักจะมีเมล็ด 100 ถึง 200 เมล็ด
- เมล็ด
เมล็ดมีลักษณะลีบแบน ขอบเมล็ดเป็นฟีมล์บาง ๆ สีน้ำลาตอ่อน ตรงกลางเมล็ดจะนูนเล็กน้อย มีสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ เมล็ดมีน้ำหนักเบามาก นั้นทำให้เหลืองชัชวาลสามารถกระจายพันธุ์ไปได้เร็วและไกล ก็เพราะเมล็ดของมันสามารถลอยไปในอากาศได้เมื่อมีลมพัด และไปกับน้ำได้ด้วยเช่นกัน เมื่อไปตกในที่ต่างๆที่มีสภาพอากาศที่เหมาะสมแล้วเติบโตขึ้นต่อไป
การขยายพันธุ์
สำหรับต้นเหลืองเหลืองชัชวาล นั้นเป็นไม้เลื้อยที่สามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ในปัจจุบันนิยมอยู่ 2 วิธีคือ
การเพาะเมล็ด
วิธีนี้จะเห็นบ่อยในธรรมชาติ ซึ่งเมล็ดเหล่านี้เมื่อแตกออกจากฝัก ก็จะลอยไปในอากาศ หรือลอยตามน้ำไป แล้วเมื่อไปตกที่ไหนก็จะโต และจะเริ่มปกคลุมไปทั่วบริเวณ
- แต่ถ้าในการเพาะเมล็ดกันทั่วไป เราก็จะนำเมล็ดไปแช่น้ำอุ่นเพียง 1 คืน
- และนำไปเพาะในวัสดุปลูก เช่น ขุยมะพร้าวผสมทราย หรือ แกลบดำผสมเปลือกไข่บด
- หาถ้วยหรือแก้วมาใส่วัสดุปลูกแล้วก็นำเมล็ดลงไปปลูก รดน้ำแล้วปิดฝา
- เมื่อผ่านไป ประมาณ 20-35 วัน ก็จะมีใบแตกยอดออก ในช่วงนี้คุณสามารถรดด้วย “น้ำซาวข้าว” เพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ไวขึ้น
- เมื่อโตได้ประมาณ 10-15 เซนติเมตร ก็สามารถแยกไปปลูกในกระถางที่มีดินผสมอินทรีย์วัตถุได้เลย
การปักชำ
ในการปักชำนี้เราจะใช้วิธี “ควบแน่น” กัน เพราะเป็นวิธีที่ง่ายและเห็นผลไว้ที่สุด
- เตรียมวัสดุเพาะชำ แนะนำให้เป็นขุยมะพร้าว หรือจะผสมดินลงไปเล็กน้อยก็ได้ ใส่ลงกระถางหรือภาชนะ
- นำกิ่งที่ไม่แก่หรืออ่อนมากไป มีสีน้ำตาลอ่อน ๆ หากมีรากอากาศติดกับกิ่ง ก็จะดีมาก นำกิ่งไปจุ่มในสารเร่งราก แล้วก็นำไปปักลงในดินที่เตรียมไว้
- รดน้ำให้ชุ่ม แล้วนำไปใส่ในถุงใส่ ทำถุงให้พองลม แล้วมัดปากถุง แล้วนำไปวางในที่ร่ม รอจนรากงอก แล้วย้ายกระถางใหม่ต่อไป
การปลูกและการดูแล
การปลูก
- แสงแดด
ต้นเหลืองชัชวาลเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ทนทานต่อสภาพอากาศมาก และยังชื่นชอบแสงแดดจ้าตลอดทั้งวัน หรือแดดครึ่งวันก็ได้ และยังคงต่อสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงได้ดี
- น้ำ
ต้องการน้ำปานกลาง หรือ อาจจะรดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง เวลารดน้ำควรรดทั้งบริเวณพื้นดินตรงโคนต้น และแนะนำให้ฉีดน้ำเป็นละอ่องไปยัง กิ่งกับใบ เพื่อทำให้บริเวณที่มือกรงเล็บเกาะนั้น มีความชุ่มชื้น และยังเป็นการให้น้ำทางใบได้อีกด้วย ยิ่งถ้าเป็นต้นที่ใหญ่มีกิ่งทอดยาว ก็ควรให้น้ำมากหน่อย เพราะเขาจะได้เอาน้ำไปเลี้ยงส่วนที่อยู่บริเวณยอด
เหลืองชัชวาลเป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตไว โตได้ในดินหลายสภาพ ทั้งดินปนทราย, ดินเหนียว หรือดินที่ได้จากการก่อสร้าง ก็สามารถเจริญเติบโตได้ดี แต่เจริญเติบโตได้ดีในดินเหนียวและดินทราย เรียกได้ว่าเป็นต้นไม้ “ตามใจคนปลูก เอาใจง่าย” เลย
- ปุ๋ย
ไม่จำเป็นต้องให้บ่อย อาจให้ปุ๋ยสูตรเสมอ 13-13-13 หรือ 16-16-16 เดือนละ1 ครั้ง หรือทุก 1-2 เดือนให้โรยปุ๋ยคอกไปที่ผิวดินประมาณ 1-2 กำมือ เพื่อให้ต้นไม้สะสมอาหารไว้ใช้ออกดอกตามฤดู ถ้าให้บ่อยกว่านี้ อาจเป็นภาระในการดูแลตัด เพราะยิ่งให้อาหารเยอะก็ยิ่งโตไว “การให้ปุ๋ยวิธีนี้ใช้ได้ทั้งปลูกลงดินและปลูกลงกระถาง“
เกร็ดความรู้ ! ทำยังไงให้เหลืองชัชวาลออกดอกตลอดปี เคล็บลับที่จะไม่ลับอีกต่อไป เมื่อเราจะบอกทุกคนว่า สูตรนี้ดอกออกสะใจ แน่นอน! และอย่างที่ทุกคนรู้ว่า ยิ่งให้สารอาหารกับเจ้าต้นเหลืองชัชวาลมากเท่าไร มันก็จะโตไวเท่านั้น แต่ว่า! ต้องให้อาหารยังไง เราถึงจะได้เห็นดอกสีเหลืองบานเต็มต้น เต็มบ้าน ตลอดปี! มาดูกัน 1. ที่จริงแล้วต้นเหลืองชัชวาล มีช่วงเวลาในการออกดอก คือ ธันวาคม-กุมภาพันธ์ เราเลยควรให้ปุ๋ยสูตรเสมอ เพื่อให้ต้นเขาสะสมอาหารเพื่อรอออกดอกในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่เราสามารถ "ขุน" ด้วยสูตรอาหารพืช คือ "12-25-6" เพื่อเร่งให้เขาออกดอก โดย 1 ในสัญญาณที่เขาเตือนเราว่า เขาพร้อมสำหรับการออกดอกคือ "การแตกยอดอ่อนทั่วทั้งต้น" นั้นเป็นจุดเริ่มต้นในการหยุดให้ปุ๋ยสูตรเสมอ แล้วเปลี่ยนมาใส่สูตร 12-25-6 กัน หรือจะเสริมด้วยปุ๋ยน้ำ ฉีกพ้นไปตามกิ่งและใบเพื่อไปช่วยในการกระทุ้งดอก หรือคุณอาจจะหาปุ๋ยที่มีส่วนประกอบของ "ดินประสิว" หรือ "P" มาใส่ ในช่วงที่เริ่มเห็นดอกตูม ๆ ออกมา 2. เมื่อคุณเริ่มเห็นช่อดอกตามซอกใบมากขึ้น คุณควร "งดน้ำ" คือรดน้ำวันเว้นวัน มันจะทำให้ต้นไม้คิดว่าเกิดอันตราย และจะเริ่มผลิตดอกไม้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการผสมพันธุ์และกลายเป็นเมล็ด จะได้ยังคงสายพันธุ์ต่อไป แค่นี้คุณก็จะได้เห็นดอกสีเหลืองสดใสตลอดปีแล้ว
การดูแล
เรามักจะเจอ เพลี้ยแป้ง และเพลี้ยอ่อน ซึ่งเป็นศัตรูพืชที่เข้าทำลายต้นเหลืองชัชวาลเป็นอย่างมาก เพราะเป็นต้นไม้ที่มีพุ่มที่หนาทึบ เป็นที่หลบซ้อนของเพลี้ยแป้งและเพลี้ยอ่อน ถ้าเจอก็ควรเอาไปทิ้ง หรือจะเอา “น้ำยาล้างจาน” ไปผสมน้ำแล้วฉีดพ่นก็จะช่วยได้มากเช่นกัน
- การจัดวาง หรือบริเวณที่ควรปลูก
หน้าบ้านหรือหลังบ้านที่มีแสงแดดจ้าตลอดทั้งวัน หรือปลูกให้เลื้อนไปบนหลังคาเพื่อป้องกัน แสงแดด และลดความร้อนภายในบ้าน หรือ อาคาร บางที่ก็นิยมปลูกให้เลื้อยไต่ขึ้นซุ้ม ศาลา หรือประตู เลื้อยไปตามแนวกำแพง รั้วบ้าน โดยลำต้นจะเลื้อยขึ้นที่สูงก่อนจะค่อยเลื้อยห้อยย้อยลงมาคลุมตัวซุ้ม กำแพง
เกร็ดความรู้ ! เหลืองชัชวาล...พืชรุกรานในออสเตรเลีย ในต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น รัฐควีนส์แลนด์ ในช่วงยุคหนึ่งที่มีการสร้างบ้านและมีการจัดสวนแบบ "older-style Queensland gardens" ซึ่งเป็นบ้านที่มีระเบียงด้านหน้า มีรั้วเป็นซี่ๆ สวนด้านหน้าบ้านมักจะปลูกไม้ยืนต้น ไม่พุ่มขนาดกลางและขนาดเล็ก และในสมัยนั้นก็นิยมปลูกไม้เลื้อยที่ออกดอกสีสันสวยงาม เช่น กุหลาบ และ "ชัชวาลหรือ Cat’s claw creeper" แต่ในปัจจุบันเนื่องจากต้องชัชวาลเป็นไม้เลื้อยที่โตเร็วมาก จนเรียกได้ว่า "พืชรุกราน" เพราะมันสามารถเลื้อยไปได้ทุกที่ ซึ่งรัฐควีนส์แลนด์ถือว่าต้นชัชวาลไม่ใช่พืชประจำถิ่น และมีหลายครั้งที่ประชากรนำต้นไม้ชนิดนี้มาปลูกและไม่รับผิดชอบ เช่น ไม่ตัดแต่งกิ่ง หรือ ไม่จำกัดบริเวณที่ต้นไม้ชนิดนี้สามารถเลื้อยไปได้ ทำให้บางทีพบว่าต้นไม้ชนิดนี้เลื้อยไปคลุมบนต้นไม้และพื้นที่ป่าหลายแห่ง มีการระบาดอย่างรุนแรง ทำให้ต้นไม้ประจำถิ่นไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควรเป็น หรือ ตายไป ทำให้รัฐบาลของรัฐควีนส์แลนด์ได้ออกข้อกำหนดทางกฎหมายเกี่ยวกับต้นชัชวาล ให้จัดเป็นไม้เลื้อยที่ต้องมีการควบคุม และ ภายใต้พระราชบัญญัติความปลอดภัยทางชีวภาพ พ.ศ. 2557 เป็นพืชที่อยู่ในการควบคุมด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ (GBO) ห้ามมิให้นำออกไปขาย หรือปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม
ประโยชน์ของชัชวาล
ต้นเหลืองเหลืองชัชวาล เชื่อว่าสามารถป้องกัน “งู” เข้าบ้านได้ เพราะด้วยลักษณะของลำต้น โดยเฉพาะตามซอกใบจะมี “มือกรงเล็บ” แยกเป็น 3 แฉก คล้ายเล็บแมว ซึ่งมีความเหนียว ถ้าแขนหรือมือเราไปสัมผัสจะเกาะติด รู้สึกเจ็บเหมือนกัน คุณสมบัตินี้แหละที่ งู กลัวมาก นอกจากนี้หอยทาก ก็กลัวเช่นกัน
และยังใช้ในการประดับตามซุ้มไม้เลื้อย บังลมแดด เพิ่มร่มเงา เป็นรั่วต้นไม้ หรือตกแต่งผนังปูนได้ โดยมีลักษณะการเลื้อยคล้ายตีนตุ๊กแก แต่เติมสีสันด้วยดอกสีเหลืองสด
เกร็ดความรู้ ! ปลูกเหลืองชัชวาลยังไงให้ปลอดภัยกับต้นไม้ของคุณ อย่างที่รู้กันว่าเหลืองชัชวาลถึงจะทนทาน และมีดอกที่สวย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันจัดอยู่ใน "พืชรุกราน" ถ้าคุณไม่อยากจะทำให้บ้านของคุณกลายเป็นป่า หรือ ไม่อยากให้ต้นไม้ในสวนของคุณถูกบดบังแสงแดด และเจริญเติบโตช้ากว่าที่ควรเป็น คุณควร "ตัดแต่งทรง" หรือควบคุมอาณาเขตการเลื้อยของกิ่งก้านของเหลืองชัชวาลให้ดี เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ พุ่มไม้สวย แถมต้นไม้ต้นอื่น ๆ ของคุณก็จะปลอดภัยอีกด้วย
สรรพคุณที่น่าสนใจ
- ต้นเหลืองชัชวาล มีสาร alkaloids แทนนินและ phytochemicals อื่น ๆ อีกหลาย และบางส่วนของคาลอยด์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยเสริมเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
- มีผลป้องกันความดันโลหิตสูงและอาจลดความเสี่ยง ของโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวายโดยการลดความดันโลหิต
- เพิ่มการไหลเวียนลดอัตราการเต้นหัวใจและการควบคุมคอเลสเตอรอล และยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบสารต้านอนุมูลอิสระและต้านมะเร็งได้อีกด้วย
ราคาเฉลี่ยในตลาด
มีหลายราคา ซึ่งราคานั้นจะพิจารณาจากขนาดของต้นเป็นหลักโดยเริ่มที่
50 บาท กระถาง 6 นิ้ว สูง 15 ซม.
150 บาท กระถาง 8 นิ้ว สูง 70 ซม.
350 บาท กระถาง 11 นิ้ว สูง 60 -100 ซม.
850 บาท กระถาง 17-22 นิ้ว สูง 150 -180 ซม.
การจะปลูกต้นไม้หรือพืชอะไรสักอย่าง หลายคนก็อยากปลูกต้นไม้ที่เราไม่ต้องดูแลมากเหลืองเหลืองชัชวาล เป็นไม้เลื้อยอีกตัวเลือกหนึ่ง ที่รับประกันว่า ดูแลง่ายจริงๆ ไม่เพียงแค่ความสวยอย่างเดียว แต่ยังมีประโยชน์อีกด้วย ใครที่กำลังมองหาไม้เลื้อยที่จะนำมาปลูกแล้วล่ะก็ ขอแนะนำ เหลืองชัชวาล เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แล้วคุณจะหลงรักไม้เลื้อยชนิดนี้แน่นอน
และหากใครอ่านจนมาถึงตรงนี้แล้ว เราอยากแนะนำบทความดี ๆ เกี่ยวกับ ดอกไม้ พันธุ์ไม้ พันธุ์พืช สมุนไพร ผักสวนครัว หรือจะเรียนรู้เกี่ยวกับการให้อาหารต้นไม้ เช่น การให้ปุ๋ย เราก็มีบทความที่จะนำคุณไปรู้จักการใช้ปุ๋ยให้ถูกวิธี และหากคุณยังอยากหาความรู้เพิ่มเติม บทความความเกี่ยวกับปศุสัตว์ก็น่าสนใจเช่นกัน
แหล่งอ้างอิง Queenland Goverment bushlandconservation brisbane