กระดิ่งนางฟ้าต้นไม้มงคลเรียกโชคเรียกเงิน ปลูกบริเวณไหนดี

กระดิ่งนางฟ้า หรือไคร้ย้อย เป็นพันธุ์ไม้หอมยืนต้นมีดอกสวยสีชาวอมชมพูน่ามองที่คนในปัจุบันเริ่มกลับมานิยมซื้อไปปลูกในบ้านและสวนหย่อม ตั้งแต่ปีก่อน จนถึงปัจจุบันกระแสความนิยมต้นไม้มงคลมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นและต้นกระดิ่งนางฟ้าก็เป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้ที่มีความต้องการ วันนี้ kaset.today จึงมีข้อมูลดีๆเกี่ยวกับลักษณะของกระดิ่งนางฟ้า วิธีปลูก ความเชื่อ และยังแนะนำวิธีปลูปภายในบ้านอีกด้วย เกริ่นมาขนาดนี้ก็มาเริ่มกันดีกว่า

credit : เนาวรัตน์ ดำรงศักดิ์

ข้อมูลทั่วไปของต้นกระดิ่งนางฟ้า

ชื่อภาษาไทย : กระดิ่งนางฟ้า, ไคร้ย้อย, ดอกโชค, สารภีน้ำ

ชื่อภาษาอังกฤษ : Khrai yoi

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Elaeocarpus grandiflorus J. E. Sm.

ชื่อวงศ์ : ELAEOCARPACEAE

ชื่ออื่นๆ : สารภีน้ำ จิก ดอกปีใหม่ ดอกดโชค แต้วน้ำ ปูมปา คล้ายสองหู มุ่นน้ำ


ความเชื่อ

ในตอนนี้หากมีใครสักคนที่กำลังมองหาต้นไม้ดีๆสักต้นเพื่อเอาไปปลูกในบ้านนั้น หังข้อแรกที่จะต้องรู้ก่อนคือ ความเป็นมงคล โดยความเชื่อนี้มีมาอย่างยาวนาน คนเฒ่าคนแก่เล่าว่าต้นกระดิ่งนางฟ้านั้นเดิมทีชื่อว่า “ดอกโชคหรือไคร้ย้อย” แต่ในปัจจุบันคนมักรู้จักกันในชื่อ “กระดิ่งนางฟ้า” เชื่อว่าถ้าปลูกแล้วแล้วมีดอกออกเมื่อมีลมพัดมาดอกจะสั่นไหวไปมาเหมือนกระดิ่ง ช่วยเรียกโชค เรียกทรัพย์เข้ามาหาคนในบ้านหรือผู้ที่ปลูก


ลักษณะทั่วไปของต้นกระดิ่งนางฟ้า

  • ลำต้น

ต้นกระดิ่งนางฟ้าเป็นไม้ไม่ผลัดใบ มีความสูง 5-30 เมตร เรือนยอดแตกกิ่งแผ่กว้างเป็นพุ้มใบทึบ กิ่งอ่อนมีสีเขียวผิวเรียบ เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลอบเทา มีผิวเรียบหรือหยาบเล็กน้อย มีโครงสร้างกิ่งยาวเน้นยืดให้สูง ในต้นที่ใหญ่มากๆ จะเป็นเหมือน หลายๆต้นมาอยู่ด้วยกันจนมีขนาดใหญ่นั้นเกิดจากลำต้นที่แตกออกมาจากรากที่โผล่พ้นขึ้นมาจากหน้าดิน แต่ถ้าไปเจอแถวน้ำตกก็จะมีขนาดที่ใหญ่จนถึงใหญ่มาก มีระบบรากที่แข็งแรง ยึดเกาะหน้าดินดี

credit : Timcute11
  • ใบ

ใบของต้นกระดิ่งนางฟ้าเป็นใบเดี่ยว เรียงตัวเวียนสลับกัน ใบมีลักษณะเป็ยวงรีหรือเรียกว่าใบหอก กว้าง 1.5-5.5 เซนติเมตร ยาว 7-19 เซนติเมตร ปลายใบเป็นแบบเรียวทู่ โคนใบแคบเรียว ในช่วงที่เป็นใบอ่อนจะมีผิวใบด้านบนเรียบเงา ด้านล่างมีขนประปราย เส้นแขนงที่ปรากฎบนใบจะมีข้างละ 6-19 เส้น ก้านใบยาว 0.5-4 เซนติเมตร

credit : สมาคมพืชสวยแห่งประเทศไทย
  • ดอก

ดอกกระดิ่งนางฟ้ามีสีขาวอบชมพู มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ห้อยลง ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ยาว 6-10 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปใบหอกสีขาวอมเหลือง หรือบางต้นอาจเป็นสีชมพูเข้มจนถึงสีแดง กลีบดอก 5 กลีบ รูปไข่กลับมีขนประปรายทั้งสองด้าน โคนกลีบดอกด้านมีกลุ่มขนเรียงตัวเป็นสองแถว ปลายกลีบเป็นริ้วละเอียด รังไข่ป้อมมีขนสั้นคลุมแน่น ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 ซม. ส่งกลิ่นหอมเย็นๆ

credit : สมาคมพืชสวยแห่งประเทศไทย
credit : สมาคมพืชสวยแห่งประเทศไทย
  • ผล

โดยจะมีผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว รูปทรงกระสวยหรือรูปรี กว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 3-4 ซม. ผิวผลบางเรียบ เกลี้ยง มีสีขาวอบเขียวอ่อน มีเมล็ดรูปกระสวย ก้านผลยาว 2-6 ซม.

credit : สมาคมพืชสวยแห่งประเทศไทย
  • เมล็ด

เมล็ดแข็ง รูปกระสวย มีหนามเรียงกันเป็นแถวจากบนลงล่าง ขนาดของเมล็ดประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร มีสีน้ำตาลเข้ม ตัวหนามมีสีอ่อนว่าเมล็ดเล็กน้อย

credit : SasahzSurprise

แหล่งที่สามารถพบต้นกระดิ่งนางฟ้า

อยู่ตามป่าดิบ ป่าที่มีความชื้น หรือริมฝั่งน้ำที่สูงจากระดับน้ำทะเล 50-800 เมตร และนิยมปลูกไว้เพื่อป้องกันดินพังทลาย และสามารถพบเห็นได้ตามเกาะแก่งที่มีน้ำท่วมถึงตามป่าห้วย เพราะมีรากที่ข้างข้างแข็งแรง ยึดเกาะกับพื้นและยินดี นั้นจึงทำให้ต้นกระดิ่งนางฟ้าทนน้ำท่วมขังได้ จังหวัดที่มักพบเห็นคือ จันทบุรีเขาสอยดาว ราชบุรี อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน

credit : YAK Green channel – ต้นขนาดใหญ่ใกล้ริมน้ำตก

การขยายพันธุ์และวิธีปลูก

เราสามารถพบได้ในร้านขายต้นไม้ทั่วไปว่ามีการขายต้นกระดิ่งนางฟ้าทั้งแบบ ขยายพันธุ์เพาะเมล็ดและตอนกิ่ง เรามีวิธีเพาะเมล็ดต้นกระดิ่งนางฟ้าซึ่งได้ศึกษาข้อมูลจาก SasahzSurprise ให้เราได้นำไปทำแบบง่ายๆเลย มีวิธีดังนี้

  • เมล็ดของต้นกระดิ่งนางฟ้า
credit : SasahzSurprise
credit : SasahzSurprise
  • นำเมล็ดไปบ่มในขุยมะพร้าว โดยขุยมะพร้าวชื้นเล็กน้อย บ่มไว้ประมาณ 54 – 60 วัน และปิดฝา
credit : SasahzSurprise
credit : SasahzSurprise
  • เมื่อผ่านมา 60 วัน เมล็ดจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และเราจะเห็นหนามเรียงกันเป็นแนวตั้ง ให้ใช้มีดขูดออก
credit : SasahzSurprise
credit : SasahzSurprise
  • เมื่อขูดหนามออกแล้ว ให้ใช้ที่ตัดเล็บตัดหัวของเมล็ด และเอามีดงัดเปลือกเมล็ดออก
credit : SasahzSurprise
credit : SasahzSurprise
credit : SasahzSurprise
  • เอาเมล็ดด้านในที่ได้ มาจิ้มลงบนดินร่วน หรือ ดินร่วมปนทราย ไม่ต้องเอาดินกลบทับ เสร็จแล้วรดน้ำเล็กน้อยแล้วปิดด้วยฝาหรือถุงพลาสติก
credit : SasahzSurprise
  • ผ่านไป 19-20 วัน ใบเลี้ยงจะใหญ่ขึ้นต้นอ่อนสูงขึ้น
credit : SasahzSurprise
  • ผ่านไป 47 – 50 วัน จะเริ่มงอกใบแท้คู่แรกออกมา

การบำรุงดูแลต้นกระดิ่งนางฟ้า

เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าธรรมชาติของต้นกระดิ่งนางฟ้าในธรรมชาติ จะอยู่ในป่าที่มีความชื้น สามารถอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำโดยที่รากอยู่ในน้ำก็ได้ งั้นเรามาดูปัจจัยสำคัญในการดูแลต้นกระดิ่งนางฟ้ากันดีกว่า

ดิน : ดินร่วนชุ่มชื้น อินทรียวัตถุสูง

แสงแดด : ตลอดวัน

น้ำ : ปานกลาง-มาก

ปุ๋ย : อาจจะใช้เป็นปุ๋ยหมักมูลขี้วัวขี้ไก่ขี้ไส้เดือน หรือระยะแรกใช้เป็นปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่นสูตร 15-15-15, 20-20-20 เป็นต้น แล้วเมื่อต้นโตได้สักระยะก็เปลี่ยนมาเป็นสูตรกลางสูง เช่นสูตร 15-30-15, 12-24-12 เป็นสูตรปุ๋ยเร่งดอก

โรคและแมลงศัตรูพืช : ไม่ค่อยเป็นโรค แต่จะมีหนอนบ้าง แนะนำให้ใช้น้ำควันส้ม หรือน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง


ปลูกบริเวณไหนของบ้านดี

ขึ้นชื่อว่าเป็นต้นไม้มงคล ทุกคนคงอยากจะรู้กันว่าการจะเอาต้นกระดิ่งนางฟ้าไปปลูกบริเวณไหนของบ้านจะดี จะเสริมความสิริมงคลให้กับตัวเองได้มากที่สุด แต่เราจะแบ่งเป็น 2 ปัจจัยคือ

ปลูกเอาความมงคล : เราแนะนำให้คุณปลูกบริเวณหน้าบ้าน หรือหากบ้านของคุณมีบ่อน้ำก็สามารถเอาต้นกระดิ่งนางฟ้าไปปลูกใกล้ๆได้ เพราะการเอาไว้หน้าบ้านเป็นการเรียกโชค เรียกทรัพย์ให้เข้าบ้าน แต่แนะนำอย่าปลูกใกล้ตัวบ้านมากนัก เพราะรากของต้นกระดิ่งนางฟ้าค่อนข้างแร็งแรง ชอนไชไปรอบๆเพื่อหาน้ำ ดังนั้นรากอาจจะสร้างความเสียหาได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความใหญ่ของต้นไม้ด้วย หากเป็นต้นเล็กก็ไม่มีปัญหาอะไร

หรืออาจจะปลูกในกระถางก็ได้ เช่นกระถางดินเผา และ Air pot ก็จะดี เพราะเป็นกระถางที่ระบายอากาศได้ดีทำให้ต้นไม้โตไว

ปลูกตามสภาพแวดล้อม : ถ้าสภาพแวดล้อมบ้านติดกับแม่น้ำ หรือเป็นบ้านสวนซึ่งมีพื้นที่เยอะ คุณอาจปลูกไกลจากตัวบ้านสัก 4-5 เมตร ปลูกแบบลงดิน ให้เป็นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา หรือปลูกไว้ริมตลิ่งน้ำก็ดีเพราะต้นกระดิ่งนางฟ้าสามารถอยู่กับน้ำได้ และยังสามารถช่วยลดปัญหาการพังทะลายของหน้าดินอีกด้วย


ราคาต่อต้นโดยประมาณ

ปัจจุบันต้นกระดิ่งนางฟ้าเป็นที่ต้องการของตลาดมาก นั้นจึงทำให้ราคานั้นขึ้นอยู่กับขนาดและความสูงรวมถึงสีของดอกที่บางต้นเป็นสีขาวนวล บางต้นเป็นสีขาวชมพู ซึ่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ขายและผู้ซื้อ โดยเราจะบอกราคาคร่าวๆที่ท้องตลาดขายกันคือ ขนาดต้นเล็กความสูงไม่เกิน 70 เซนติเมตร จะอยู่ที่ 150-250 บาท ต้นที่มีความสูงไม่เกิน 2.5 เมตรอาจมีราคาถึง 1500 บาท ส่วน ความสูงมากกว่า 2 เมตร ขึ้นไปมีราคาหลักพันธุ์ถึงหลักหมื่น

ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้พันธุ์ไม้หอมมงคล ต้นกระดิ่งนางฟ้าเป็นอีกต้นที่คุณไม่ควนพลาดที่จะต้องเก็บไว้ในคอลเลคชั่นของคุณนะ และ kaset.today ยังมีบทความดีๆ เกี่ยวกับ พันธุ์พืช ผลไม้ ดอกไม้ และปศุสัตว์ที่มีสาระดีๆอีกมากมาย หรือถ้าใครกำลังสนใจความรู้เกี่ยวกับแมลงศัตรูพืชและโรคพืชก็สามารถเข้ามาอ่านได้เช่นเดียวกัน


แหล่งอ้างอิง

องค์กรสวนพฤกษศาสตร์

สมาคมพืชสวนแห่งประทเทศไทย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้