สำหรับท่านผู้หญิง เคยสังเกตตัวเองและมีอาการแบบนี้หรือไม่ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เอาแน่เอานอนไม่ได้ อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย หงุดหงิดง่าย ร้อนวูบวาบตามเนื้อตัว ปวดหัวบ่อย นอนไม่ค่อยหลับ เมื่อก้าวเข้าสู่วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือนของผู้หญิง ท่านจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งจากอาการที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจะส่งผลกระทบต่อทั้งตัวท่านเองและมีผลต่อคนใกล้ชิดอีกด้วย ท่านจึงต้องเรียนรู้และเตรียมตัวเพื่อที่จะได้รับมือต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ และอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ท่านรับมือต่อการก้าวเข้าสู่วัยทองได้อีกหนึ่งอย่างคือ สมุนไพร ที่จะช่วยบรรเทาอาการวัยทองของท่าน มีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
1.ตังกุย
เป็นสมุนไพรจีน เป็นรากแห้งของพืช โดยลักษณะภายนอกเป็นรูปทรงกระบอก ส่วนล่างมีรากแขนง ผิวสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาล มีรอยย่นตามแนวยาว มีช่องอากาศนูนตามแนวขวาง รากส่วนหัวเรียกว่ากุยโถว ลักษณะเป็นวงแหวน ส่วนยอดกลมป้าน หรือมีรอยนูนของลำต้นใต้ดิน มีลำต้นและกาบใบหลงเหลือ รากหลักเรียกว่ากุยเซิน ผิวขรุขระ รากแขนงเรียกว่ากุยเหว่ย
ส่วนบนใหญ่กว่าส่วนล่างบิดเป็นเกลียว และเห็นรอยของรากฝอย เนื้อยืดหยุ่น หน้าตัดสีขาวอมเหลือง หรือสีน้ำตาลอมเหลืองอ่อน เปลือกรากหนา เว้าเข้าด้านใน และช่องน้ำมันเป็นจุดสีน้ำตาลจำนวนมาก แก่นสีอ่อน วงแคมเบียมสีน้ำตาลอมเหลือง มีกลิ่นหอม รสหวาน เผ็ด และขมเล็กน้อย ซึ่งตังกุยมีฤทธิ์ของยาตามภูมิปัญญาของการแพทย์แผนจีนคือ เนื่องจากมีรสหวานและเผ็ด อุ่น เข้าสู่เส้นลมปราณตับ หัวใจ และม้าม บำรุงเลือด ช่วยการไหลเวียนของเลือด ทำให้ประจำเดือนสม่ำเสมอ ระงับปวดทำให้ลำไส้ชุ่มชื้นและช่วยระบาย และนอกจากนี้แล้วตังกุยยังช่วยเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ช่วยลดอาการช่องคลอดแห้ง ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ นอนไม่หลับในผู้หญิงวัยทอง ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล
กระชายขาว พืชสมุนไพรไทยต้านโควิด-19
2.เก๋ากี๋ หรือ โกจิเบอร์รี่
เป็นไม้พุ่มผลัดใบ สูง 0.8-2 เมตร เป็น ผลไม้ ชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกูลเบอร์รี่ มีถิ่นกำเนิดทางตอนเหนือของประเทศจีน และบางส่วนในทวีปเอเชีย ผลของโกจิเบอร์รี่มีสีแดงอมส้มขนาดเล็ก รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ชาวจีนนำมารับประทานเล่นหรือนำมาปรุงเป็นอาหารที่มีสรรพคุณทางยา ซึ่งเก๋ากี๋สามารถช่วยบำรุงร่างกาย และใช้เป็นยารักษาโรคโดยปริมาณที่ใช้รับประทานทั่วไปคือวันละ 20 กรัม
แต่หากจะใช้เป็นยารักษาก็สามารถใช้ได้มากถึง 30 กรัมต่อวัน เก๋ากี๋เองอุดมไปด้วยสารต่าง ๆ อย่าง เบต้าแคโรทีน วิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีกรดกำมะถัน เอมีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินบี 2 เก๋ากี๋มีสรรพคุณทางยาเป็นอย่างมากเนื่องจากมีรสหวาน มีฤทธิ์เป็นกลาง แก้ไอ เสมหะ เจ็บร้อนผ่าวในลำคอ จมูกและปากแห้ง วิงเวียนศีรษะ หน้ามืดตาลาย บำบัดโรคตาบอดกลางคืน บำรุงไต เลือด ตับ
และแก้กลุ่มอาการร่างกายอ่อนแอ กระตุ้นการทำงานของลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ กลุ่มประสาท ช่วยให้นอนหลับได้ดีและยังสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังช่วยสร้างเม็ดเลือดให้แข็งแรง ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ซึ่งเหมาะสำหรับท่านผู้หญิงที่กำลังเข้าสู่วัยทอง
ราสเบอร์รี่ ผลไม้เปรี้ยวอมหวาน รสชาติอร่อย มีประโยชน์ต่อร่างกาย
3.ถั่วเหลือง
เป็นพืชสำคัญและเก่าแก่ชนิดหนึ่งของโลก มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนทางตอนกลางและทางตอนเหนือ ลำต้นตั้งตรง ลักษณะเป็นพุ่ม แตกแขนงออกค่อนข้างมาก มีความสูงประมาณ 30-150 เซนติเมตรโดยความสูงจะขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน ลำต้นมีขนปกคุลมอยู่ทั่วไปยกเว้นใบเลี้ยงและกลีบดอก ออกฝักเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 2-10 ฝัก ที่ฝักมีขนสีเทาหรือสีน้ำตาลปกคลุมอยู่ทั่วฝัก ในแต่ละฝักจะมีเมล็ดอยู่ 1-5 เมล็ด แต่ส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2-3 เมล็ดเท่านั้น ฝักอ่อนมีสีเขียว และเมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเมื่อฝักแตกออกจะทำให้เมล็ดร่วงออกมา เมล็ดถั่วเหลืองมีสีเหลือง สีเขียว สีน้ำตาล หรือสีดำก็ได้ ชาวจีนได้รู้จักการใช้ประโยชน์จากถั่วเหลืองและมีการปลูกถั่วเหลืองกันมาอย่างยาวนาน
ซึ่งประโยชน์ของถั่วเหลืองมีมากมายและยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย และในปัจจุบันถั่วเหลืองได้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีการเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ถั่วเหลืองนั้นอุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต กรดอะมิโน มีไขมันชนิดดีสูง มีเส้นใยอาหารสูง มีวิตามินและเกลือแร่สูง และยังเป็นสิ่งที่หาได้ง่าย ราคาไม่แพง ถั่วเหลืองหากทานเป็นประจำจะช่วยบำรุงประสาทและสมอง ช่วยเพิ่มความจำ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและโรคเบาหวาน นอกจากนี้แล้วยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวล ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน เพิ่มมวลกระดูกให้หนาแน่นขึ้น และที่สำคัญในถั่วเหลืองมีไอโซฟลาโวน (Isoflavone) ที่ช่วยลดอาการวัยทอง เช่น อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อแตก ช่องคลอดแห้ง และอารมณ์แปรปรวนอีกด้วย
4.เห็ดหลินจือ
ดอกเห็ดมีลักษณะคล้ายรูปไตหรือครึ่งวงกลม กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 8-20 เซนติเมตร หนา 1-3 เซนติเมตร ดอกอ่อนมีขอบสีขาว ถัดเข้าไปมีสีเหลืองอ่อน กลางดอกมีสีน้ำตาลหรือน้ำตาลแดงผิวเป็นมันคล้ายกับทาแลคเกอร์ มีริ้วหรือหยักเป็นคลื่น ขอบหมวกงุ้มลงเล็กน้อยและหนา ด้านล่างเป็นรูกลมเล็ก ๆ เชื่อติดกัน เห็ดแก่จะมีความแข็ง และยิ่งแก่ก็ยิ่งมีความแข็ง เห็ดหลินจือมีมากกว่า 100 สายพันธุ์
แต่สายพันธุ์ที่มีสรรพคุณทางยามากที่สุดคือ กาโนเดอร์ม่า ลูซิดั่ม หรือสายพันธ์สีแดง เห็ดหลินจือแดงถือว่าเป็นของหายากมีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน ใช้บำรุงร่างกาย คนจีนใช้เป็นยาอายุวัฒนะในการยืดอายุ และยังเชื่อกันว่าเห็ดหลินจือสามารถทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ให้พลังงานชีวิตมากขึ้น ช่วยในเรื่องความจำ ทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น รักษาและต้านมะเร็ง รักษาโรคตับ และยังมีสรรพคุณอีกมากมาย นอกจากนี้ยังช่วยในการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชะลอความแก่ได้ดีอีกด้วย ซึ่งเรียกว่าเหมาะสำหรับผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองนั่นเอง
รวม 9 พืชสมุนไพร น่าปลูกประดับตกแต่งสวน ใช้รักษาโรคได้มากมาย