ในปัจจุบันหลายคนมีเวลาที่จะอยู่บ้านเพิ่มมากขึ้น และเริ่มหันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้นด้วยการออกกำลังกาย รวมถึงเลือกกินของที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มขึ้น และยุคนี้สมัยนี้แน่นอนว่าอาหารสำคัญของสายสุขภาพนั่นก็หนีไม่พ้นผักและผลไม้ นั่นเอง ซึ่งหลายคนอาจมองว่าการกินผักจะช่วยสร้างสุขภาพที่ดีได้ ซึ่งบางครั้งอาจลืมนึกถึงความสะอาด ความปลอดภัยในผักที่เราบริโภคกันอยู่ แล้วผักที่เราซื้อตามห้างและตลาดสดมันสะอาดจริงๆ ใช่หรือไม่ ทั้งที่บอกว่าเป็นผักปลอดสาร
สารเคมีในผักผลไม้ไทย อันตรายที่มองไม่เห็น แต่มีอยู่จริง
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/unnamed-10.jpg)
วันนี้จึงขอแชร์เทคนิคการปลูกผักสวนครัวที่ได้ทั้งงาม ปลอดแมลง และปลอดสารพิษ ซึ่งเป็นเทคนิคง่าย ๆ ให้ลองไปใช้ดู
เทคนิคสำหรับการปลูกผักให้งาม
1. การเตรียมแปลงปลูก
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/bf1d240b-7bcd-4536-828a-65c74fd92798.jpg)
โดยเริ่มการเตรียมแปลงปลูกผักด้วยการขุดพรวนให้ลึกพอเหมาะ จากนั้น เราก็มาเริ่มการบำรุงดินด้วยการโรยด้วยปุ๋ยคอก ที่ได้จากมูลโค-กระบือ มูลไก่ ปุ๋ยหมัก หรือ แกลบดำ จากนั้น พรวนผสมกับดินในแปลงให้เข้ากัน แล้วมาลุยขั้นต่อไปกันเลย
2. การเตรียมเมล็ด และการปลูก
ขั้นตอนการเตรียมเมล็ด ถ้าเราต้องการปลูกผักด้วยเมล็ด ก็ต้องนำเมล็ดผักที่ต้องการแช่น้ำก่อน 1-3 ชั่วโมง จากนั้น นำมาบ่มในห่อผ้า 1-2 วัน ค่อยนำเมล็ดลงหว่านบนแปลง ผักที่ปลูกโดยเมล็ดได้แก่ ผักชี ผักบุ้งจีน ตั้งโอ๋ ขึ้นฉ่าย
ผักสวนครัว กินได้และสร้างเงินด้วย
การปลูกด้วยการเพาะต้นกล้า ต้องเพาะต้นกล้าก่อน แล้วคัดดูความแข็งแรงของลำต้น เมื่อพร้อมแล้วให้นำมาปลูกในแปลงหรือกระถาง ผักที่ปลูกเหมาะกับการปลูกด้วยการเพาะต้นกล้าก็จะเป็นพวก ผักคะน้า ผักกาด กะหล่ำปลี ปูเล่ กะเพรา โหระพา
และวิธีถัดมาก็คือ การปักชำ สำหรับการปักชำนั้นเหมาะกับผักที่มีรากลึก อย่าง สะระแหน่, ชะพลู, หอมแบ่ง, ตะไคร้
ตะไคร้หอม สมุนไพรไล่ยุง บำรุงร่างกาย
3. หาฟางมาคลุม
รู้จักกับการคลุมดิน วิธีช่วยลดวัชพืชและกักเก็บความชื้นในดิน
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/SV-Group-คุณค่ามหาศาลของฟางข้าว-03-800x674-633x533-3.jpg)
วิธีนี้จะช่วยปกป้องต้นกล้าน้อยจากฝน ลม แสงแดด และจากกระแสน้ำที่เรารด แต่ก็ไม่ต้องปิดทับจนมันทึบนะ พอให้มีแสงสามารถลอดผ่านได้ เพราะไม่อย่างนั้นผักของเราอาจไม่โต โดนแดดมากไปก้ตายได้ไม่โดนลมไม่แข็งแรง
4. ขั้นตอนการให้น้ำ
นี่นับได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ควรหมั่นรดน้ำเช้าเย็น แต่ก็ไม่เยอะจนน้ำขังก็อาจทำให้เกิดเชื้อรา หรือเกิดการรากเน่าได้ กลางวันอย่ารดมันร้อนผักที่เราปลูกไว้อาจจะเฉาได้ ในช่วง 1 สัปดาห์แรกควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ หมั่นรดน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้า – เย็น และหลังจากนั้นสามารถลดปริมาณน้ำที่รดได้ แต่ยังคงรดน้ำวันละ 2 ครั้งเหมือนเดิมจนถึงช่วงเก็บเกี่ยว
5. การให้ปุ๋ย
ควรเลือกเป็นปุ๋ยอินทรีย์ หรือน้ำหมักชีวภาพจากเศษอาหารเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ซึ่งการนำเศษอาหารที่เหลือมาใช้ประโยชน์เป็นปุ๋ยเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการปลูกผักปลอดสารเคมี
6. เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว
ช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวผลงานที่เราได้ลงแรงและตั้งใจไว้นั้น โดยมากจะใช้เวลาประมาณ 40-60 วัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของผักที่เราเลือกปลูกด้วยนะ ว่าใช้เวลาในการเติบโตแค่ไหน
เราควรเริ่มปลูกอะไรดี ?
สำหรับผักที่นิยมนำมาปลูก ก็จะเป็นผักสวนครัวที่ใช้เวลาในการปลูกไม่นาน ก็สามารถเก็บผลผลิตมาใช้ปรุงเป็นอาหารได้ อาทิเช่น
ผักบุ้งจีน
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/oa.jpg)
ผักยอดฮิตที่ปลูกง่าย ใช้ระยะเวลาไม่นาน แค่ไม่เกิน 30 วัน ก็สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้แล้ว ทั้งไม่ต้องดูแลมาก แค่เตรียมแปลงให้พร้อม แล้วโรยเมล็ดผักบุ้ง ให้ทั่วแปลง จากนั้นหมั่นรดน้ำทุกวัน ใช้เวลาแค่ 3 วันจากเมล็ดก็จะเริ่มงอกเป็นต้นเล็กๆ ขึ้นมาให้เห็น
ผักคะน้า
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/0932.jpg)
การปลูกผักคะน้าก็ง่าย เพียงแค่วางเมล็ดพันธุ์ลงไป กลบดินและรดน้ำตามปกติ ประมาณ 40 – 60 วันก็สามารถเก็บผลผลิตได้เลย
กวางตุ้ง
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/unnamed-1-4.jpg)
เป็นอีกผักที่ปลูกค่อนข้างง่ายวิธีการปลูก แทบไม่แตกต่างจากการปลูกคะน้าเลย โดยแค่ฝังเมล็ดลงไปในดินลึกประมาณ 1 เมตร กลบด้วยดิน ปุ๋ยคอก จากนั้นก็รดน้ำตามปกติ แต่ในระยะเวลา 5 วันแรกหลีกเลี่ยงการตั้งให้โดนแดด แต่หลังจากนั้นเมื่อผักเริ่มโตขึ้นก็สามารถย้ายมาวางในบริเวณที่แดดส่องถึง เพียงแค่ 30 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวขึ้นมาประกอบอาหารได้แล้ว
ถั่วงอก
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/unnamed-2-1.jpg)
ผักอีกหนึ่งชนิดที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ขั้นตอนก็ง่ายๆ นำเมล็ดถั่วเขียวไปแช่น้ำอุ่น 6-12 ชั่วโมง และนำขวดโหล รดน้ำลงในบริเวณก้นขวดเล็กน้อยให้ชุ่มพร้อมปู ใส่ทราย หรือแกลบก้นขวดโหล จากนั้นทำการโรยเมล็ดลงไปให้ทั่วแล้วทำการดูแลรดน้ำตามปกติ เพียงแค่ 4-7 วันเราก็จะถั่วงอกต้นอวบ ๆ ขาว ๆ มาปรุงเป็นเมนูน่าทานได้แล้ว
จากเคล็ดลับง่าย ๆ ที่นำมาเสนอให้ในวันนี้ คุณเองก็สามารถการปลูกผักไร้สารเคมี ไว้กินเองที่บ้านแล้วยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกเยอะเลยทีเดียวยิ่งยุคนี้ด้วยแล้ว ยังสามารถเป็นกิจกรรมที่จัดเป็นงานอดิเรกในครอบครัวได้อีกด้วย
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/newscms_thaihealth_c_bcehjlmqyz25.jpg)
ถ้าคุณชอบทานผักชนิดอื่นหรือยากลองปลูกเป็นผักชนิดอื่นก็สามารถนำไปประยุกต์และดัดแปลงได้ ซึ่งก็ไม่ยาก ปัจจัยหลัก ก็คือการดูแลการใส่ใจ และความขยันที่จะรดน้ำอยู่สม่ำเสมอ แค่นี้ก็จะได้ผักปลอดสารเคมี มาประกอบอาหารที่ดีต่อสุขภาพจริงๆ สักที