เวลานั่งทำงานในห้องแอร์ หรืออยู่กับอากาศเย็น ๆ ยิ่งในช่วงฝนตกก็ยิ่งทำให้เราหนาวมากขึ้น รู้หรือไม่ว่าเราสามารถแก้หนาวง่าย ๆ ได้ด้วยการกินสมุนไพร เพราะผักสมุนไพรต่าง ๆ นั้นมีฤทธิ์เผ็ด โดยเฉพาะสมุนไพรรสเผ็ดร้อน เช่น ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ กะเพรา กระเทียม ใบยี่หร่า ที่นอกจากจะใช้ประกอบอาหาร เพื่อช่วยทำให้ร่างกายเราอบอุ่นขึ้น เป็นเกราะป้องกันอาการเจ็บป่วยช่วงฤดูหนาว แถมยังช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหวัด คัดจมูก ไอ หรือจาม ได้ดีอีกด้วย สมุนไพรที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อนนั้นมีหลายชนิดมากมาย เราอยากแนะนำให้รู้จักกัน ถึงคุณสมบัติและสรรพคุณต่าง ๆ กับ แนะนำ 13 พืชผักสมุนไพร กินแล้วหายหนาว ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ประโยชน์มากมาย
13 พืชผักสมุนไพรแก้หนาวดี มีอะไรบ้าง
ที่จริงแล้วสมุนไพรของไทยนั้น ส่วนใหญ่จะออกรสเผ็ดร้อนกันแทบทั้งนั้น รวมถึงสมุนไพรรสเปรี้ยว ก็มีส่วนที่ช่วยให้ร่างกายของเราอบอุ่นได้ด้วยเช่นกัน เรามาดูกันดีกว่า ว่ามีสมุนไพรอะไรที่น่าสนใจบ้าง
1. พริก (Chilli)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/1-51-1024x576.jpg)
เป็นทั้งพืชผักสวนครัวและเป็นวัตถุดิบ ที่ใช้ในการปรุงอาหารและขาดไม่ได้เลยสำหรับครัวไทย รสเผ็ดร้อนของพริกช่วยให้รสชาติอาหารน่ากินมากขึ้น ทั้งช่วยชูรสและยังทำให้อาหารของเรารสจัดจ้านขึ้นมา ในพริกมีสารแคปไซซินที่มีทั้งความเผ็ด และยังช่วยให้เลือดในร่างกายสูบฉีดไหลเวียนดีขึ้น ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น หากใครที่มีอาการหนาวที่มือหรือเท้า ลองเลือกเมนูเผ็ด ๆ ที่มีพริกเป็นส่วนประกอบสักมื้อ รับรองว่าหายหนาวอย่างแน่นอน
15 ผักสวนครัว ปลูกในกระถางเล็กๆ มีพื้นที่น้อยก็ปลูกผักกินได้ !
2. พริกไทย (Pepper)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/2-45-1024x683.jpg)
16 เมนูหอมพริกไทยดำ เผ็ดซ่านร้อนแรงกลิ่นฟุ้งทะลุจอ
เครื่องเทศยอดนิยมของไทย ที่ขึ้นชื่อมาก ๆ จะใช้กินสด ๆ หรือใช้พริกไทยประกอบอาหารก็ได้หลายอย่าง ใส่ผัดเผ็ด ผัดฉ่าต่าง ๆ หรือพริกไทยแห้ง เอาบดมาโรยหน้าอาหาร หรือใช้หมักหมูหมักเนื้อช่วยเพิ่มความอร่อย กลิ่นหอมของพริกไทยช่วยดับกลิ่นคาวได้ดี นอกจากนั้น ยังสามารถนำพริกไทยไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยได้ เมื่อเรากินพริกไทยเข้าไปจะรู้สึกเผ็ดร้อน เพราะในพริกไทยมีสารไพเพอร์รีน มีสรรพคุณช่วยลดไข้ แก้อาการหนาวสั่น และยังช่วยให้ระบบหายใจสะดวกขึ้น
3. กะเพรา (Holy Basil)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/3-46.jpg)
เป็นผักสวนครัวและสมุนไพรพื้นบ้าน ที่มีกลิ่นหอมแตกต่างจากผักชนิดอื่น ช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดีมาก รสชาติเผ็ดร้อนของกะเพรา เมื่อนำมาผัดกับเนื้อสัตว์ต่าง ๆ จะส่งกลิ่นหอมมากขึ้น ใบกะเพราช่วยดับกลิ่นคาวและมีกลิ่นหอมนั้น ทำให้เมนูผัดกะเพราได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก กะเพราจะมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน ที่ให้คุณค่าทางสารอาหารสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันได้ดี ช่วยแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ นอกจากนั้น ยังสามารถนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยให้มีกลิ่นหอมสดชื่นได้อีกด้วย
4. ผักชี (Cilantro)
ผักสวนครัว กินได้และสร้างเงินด้วย
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/4-35.jpg)
เป็นผักสวนครัวที่ช่วยเสริมรสชาติอาหารให้มีรสดีขึ้น ผักชีใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เช่น รากก็นำไปโขลกทำเครื่องแกง ทำสามเกลอ ลำต้น และใบ ใช้เป็นผักแกล้มอาหารต่าง ๆ และใช้โรยหน้าอาหารช่วยชูรส ส่วนเมล็ดหรือลูกผักชีก็เป็นเครื่องเทศที่รสชาติเผ็ดร้อนพอสมควร นิยมประกอบอาหารกิน ผักชีมีประโยชน์ช่วยแก้ไอ แก้หวัด ช่วยขับเสมหะ และขับเหงื่อ
5. กระชาย (Kaempfer)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/5-33.jpg)
กระชายดำ สมุนไพรที่มีสรรพคุณเฉพาะตัวสำหรับทั้งชายและหญิง
เหง้าของกระชายนิยมนำมาใช้ปรุงอาหาร เช่น เมนูผัดฉ่า หรือแกงป่า ที่ต้องมีกระชายเป็นส่วนประกอบจะขาดไปไม่ได้ กระชายนั้นเป็นพืชสวนครัวที่มีรสร้อน มีกลิ่นหอม เมื่อกินเข้าไปแล้วจะช่วยขับเหงื่อออกมา ทำให้ร่างกายอบอุ่น และยังมีสรรพคุณมากมาย ทั้งบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้ปวดท้อง มวนท้อง
6. กระเทียม (Garlic)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/6-29.jpg)
เป็นวัตถุดิบที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมาก ๆ ในการทำอาหารอีก 1 ชนิด เรียกได้ว่ากระเทียมต้องมีติดครัวไว้ทุกบ้าน เพราะหากขาดกระเทียมก็ทำให้เมนูผัดของเราขาดรสชาติความอร่อยไปเลย นอกจากนั้น กระเทียมสดยังใช้ทำน้ำจิ้มประเภทต่าง ๆ ทำน้ำพริก หรือสามารถกินสด ๆ ก็ได้เช่นกัน กระเทียมเผ็ดร้อนและมีกลิ่นแรง ทำให้ไม่นิยมกินสดมากนัก แต่ก็เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยลดไข้ แก้หวัด ลดเสมหะ และช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น
7. ขิง (Ginger) ข่า (Greater Galangal) ขมิ้น (Turmeric)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/Untitled-2.png)
เป็นตระกูลสมุนไพรที่มีรสชาติเผ็ดร้อน เผ็ดซ่า นิยมนำมาปรุงอาหารได้แทบทุกชนิด ขิงนั้นเราสามารถนำมากินดิบ ๆ หรือเป็นผักแกล้มก็ได้ ส่วนข่าจะช่วยเพิ่มอาหารให้มีรสชาติเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะเมนูประเภทต้มยำทั้งหลาย ส่วนขมิ้นช่วยเสริมให้อาหารมีสีสวย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ทั้งขิง ข่า ขมิ้น มีคุณสมบัติแก้หวัด แก้ไอ และลดน้ำมูกได้ดี
วิธีทำน้ำขิง เครื่องดื่มสมุนไพรสรรพคุณเลอค่า บำรุงสุขภาพได้อย่างสุดเวิร์ก!
8. ตะไคร้ (Lamongrass)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/8-16-edited.jpg)
เป็นผักสวนครัวและสมุนไพร ที่มีกลิ่นเป็นลักษณะเฉพาะที่ตัวโดดเด่นมาก ๆ กลิ่นของตะไคร้หอมนั้นหอมไกล สามารถนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยได้ แต่โดยหลัก ๆ แล้วจะใช้ตะไคร้ในการปรุงอาหาร เพราะมีคุณสมบัติช่วยดับกลิ่นคาวได้ดี หรือนำไปทำเป็นเครื่องดื่มน้ำตะไคร้ ที่ได้รับความนิยม คนชอบดื่มเพื่อความสดชื่นกันมากอีกด้วย ตะไคร้มีคุณสมบัติช่วยลดไข้ แก้หวัด บรรเทาอาการปวด และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
ตะไคร้หอม สมุนไพรไล่ยุง บำรุงร่างกาย
9. หอมหัวใหญ่ (Onion) หอมแดง (Red Onion)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/9.jpeg)
พืชสมุนไพรและผักสวนครัวที่ใช้กันทุกครัวเรือน หอมหัวใหญ่นั้นจะมีรสร้อน และรสหวานอ่อน ๆ นิยมทำซุปกินในช่วงอากาศหนาว จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น มีวิตามินซีสูง ส่วนหอมแดงก็มีรสร้อนเช่นกัน แต่มีรสขมกว่า และมีรสเผ็ดนิด ๆ ส่วนใหญ่จะนิยมนำมาเป็นเครื่องเคียง เพราะจะช่วยตัดคาวตัดเลี่ยนได้ดี ทั้งหอมหัวใหญ่และหอมแดง เป็นสมุนไพรที่ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นได้เช่นกัน อีกทั้งยังช่วยป้องกันไข้หวัด แก้ภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้ดี และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย
10. มะขาม (Tamarind)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/10-10.jpg)
จำหน่ายกล้าไม้และไม้ล้อมต้นมะขาม รวมร้านค้าจากทั่วประเทศ ตลาดต้นไม้ kaset.today
เป็นผักสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวที่พอเหมาะ รสเปรี้ยวของมะขามจะช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายของเรา ทำให้เลือดไหลเวียน ร่างกายได้รับความอบอุ่นจากภายใน มะขามนั้นนิยมใส่ในต้มยำ เช่นเดียวกับมะนาว ทำน้ำพริก หรือปรุงรสแกง เช่น แกงเลียงยอดมะขาม ต้มยำไก่ยอดมะขาม มีประโยชน์ช่วยคลายหนาวได้ดี ยอดมะขามช่วยบรรเทาเสมหะ แก้ไอ ลดน้ำมูก เพราะมีวิตามินซีสูง นอกจากนั้น ยังช่วยป้องกันไข้หวัดได้ดี
11. กระเจี๊ยบ (Roselle)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/11-9-1024x576.jpg)
ในส่วนของใบกระเจี๊ยบจะมีรสเปรี้ยวพอเหมาะ คล้ายกับยอดมะขาม จึงทำให้สามารถปรับสมดุลในร่างกาย กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดี ร่างกายจึงอบอุ่น โดยจะนิยมนำใบกระเจี๊ยบมาต้มจิ้มน้ำพริก หรือทำเป็นแกงส้มผักกระเจี๊ยบก็อร่อยเช่นกัน มีสรรพคุณช่วยลดอาการไอ ลดเสมหะ ได้ดี
กระเจี๊ยบแดง สรรพคุณมากล้นไม่ใช่แค่นำมาทำน้ำดื่มดับกระหาย
12. ยี่หร่า (Shrubby Basil)
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/12-4.jpg)
สมุนไพรที่สามารถเก็บกินได้ตลอดทั้งปี รสและกลิ่นแรง นิยมนำมาปรุงอาหาร ใส่ในแกงเนื้อ แกงปลา แกงอ่อม จะช่วยลดกลิ่นคาว หรือจะใช้แทนกะเพราในการผัดก็ได้ หรือกินเป็นผักสดผักแกล้มอาหารรสจัด ใบยี่หร่าจะช่วยเสริมให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น นอกจากนั้น เมล็ดของยี่หร่ายังนำมาใช้เป็นส่วนผสมเครื่องแกงได้อีกด้วย ประโยชน์ของยี่หร่าคือช่วยขับเสมหะ ขับลม แก้ไอ มีไนอะซีน และใยอาหารสูง
13. มะระ (Bitter Gourd)
มะระหวาน ฟักแม้ว มากคุณประโยชน์ ช่วยลดน้ำหนัก
![](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/05/13-3.jpg)
เป็นผักสวนครัวที่ขึ้นชื่อเรื่องความขม และก็ยังมีรสเปรี้ยวอีกด้วย ส่วนใหญ่นิยมนำมะระมาต้มแล้วซดน้ำร้อน ๆ ทำแกงจืด ทำซุป คุณสมบัติของรสขมและรสเปรี้ยวของมะระนั้น ทำให้ธาตุทั้งสี่ในร่างกายของเราเกิดความสมดุล ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น มะระเป็นพืชสมุนไพรที่มีวิตามินซีสูงมาก ช่วยกระตุ้นน้ำย่อยทำให้อยากกินอาหาร ช่วยบำรุงสายตา และยังเป็นยาระบายที่ดีมาก ๆ
หากเราเป็นคนที่หนาวง่าย หรือมีอาการเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดีพอ แนะนำเลยว่าให้หาสมุนไพรไทยมาติดบ้านไว้ และควรกินเป็นประจำ แต่นอกจากการกินสมุนไพรแล้ว ก็ควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รักษาความอบอุ่นของร่างกายให้สม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าที่มีความหนาพอประมาณ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ และพยายามกินสมุนไพรที่เราแนะนำบ่อย ๆ ทั้งกินสด ๆ หรือใส่ในอาหารก็ได้เหมือนกัน